เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 พ.ย. 63 ศูนย์วิทยุกู้ชีพ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รับแจ้งมีผู้ป่วยแม่กับลูกชายกินยาเกินขนาด หมดสติอยู่อยู่ในภายในบ้านเลขที่ 31-330 ซอยคลองหลวง 17 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
โดยที่เกิดเหตุพบผู้หญิงกับเด็กชายนอนหมดสติอยู่ในห้องเรียกไม่รู้สึกตัว ทราบชื่อน.ส.ราศี ประสมศิลป์ อายุ 49 ปี และเด็กชายศิลา สุขแสง อายุ 12 ปี
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ รังสิต จ.ปทุมธานี พบกับนายวินัย อายุ 38 ปี สามีของคนเจ็บ เปิดเผยว่า แต่ก่อนตนอยู่บ้านตลอด กระทั่งครึ่งปีที่ผ่านมา ตนไม่ได้นอนอยู่บ้าน และน.ส.ราศีรู้ว่า ตนมีคนใหม่แล้ว ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างตนกับแฟนด้วย หลังจากที่รู้ก็เริ่มมีอาการเหมือนคนซึมเศร้า แต่ไม่เคยทำร้ายร่างกาย
โดยตนตกลงว่าเลิกกันมาสักพักแล้ว และเมื่อ 2 วันก่อน ได้เข้ามาเจรจากัน เรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน ว่าตนจะรับผิดชอบส่วนไหนบ้าง จากนั้นตนก็ไม่ได้กลับบ้านอีก และเมื่อวานนี้โทรคุยกันทางไลน์ว่า ลูกเป็นอย่างไรบ้าง กระทั่งวันนี้ เวลาประมาณ 08.00 น. ตนมาที่บ้าน และเรียกอยู่หลายรอบ แต่ไม่มีใครเปิดประตู ตนเลยปีนไปรั้วเข้าไป ก่อนจะงัดประตู โดยน.ส.ราศีนอนอยู่บนเตียง ส่วนลูกชายนอนตรงเบาะนอนข้างเตียง
ทั้งนี้ ตนคาดว่า ยาที่กินน่าจะเป็นยานอนหลับ ไม่ก็ยาแก้แพ้ เพราะน.ส.ราศี เคยพูดว่า ถ้าทะเลาะกันจะกินยาตัวนี้ โดยน.ส.ราศี กินยานอนหลับประจำ แต่เคยกินหนักถึงขั้นมีอาการสะลึมสะลือประมาณ 1-2 ครั้ง เมื่อปีที่แล้ว ตนไม่ทราบยี่ห้อของยานอนหลับ แต่ยาตัวนี้มีลักษณะเป็นเม็ดสีชมพู กินมาประมาณ 1 ปีแล้ว โดยลูกชายเล่าว่า แม่บดเป็นผงแล้วละลายในน้ำให้กิน คาดว่าน่าจะกินช่วง 21.00 - 22.00 น. ของเมื่อวานนี้ แต่อาการเพิ่งจะมาออกเมื่อเช้านี้ ส่วนน.ส.ราศี น่าจะกินไปเกือบ 50 เม็ด เพราะซองยา 1 ซอง จะมีประมาณ 50 กว่าเม็ด และคาดว่าน่าจะกินที่เหลือจนหมด
ขณะนี้ ทั้งคู่อาการดีขึ้นแล้ว ลูกชายของตนกลับบ้านได้แล้ว แต่ยังมีอาการเบลออยู่ ส่วนน.ส.ราศี อาการดีขึ้นแล้ว รู้สึกตัวแต่ยังไม่ลืมตา จากนี้คงจะให้นอนอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อให้หมอจิตเวชมาบำบัด เพราะหมอกลัวว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า และเกรงว่าหากกลับบ้านจะไปทำแบบนี้อีก สุดท้ายนี้ ตนอยากจะบอกน.ส.ราศีว่า ตนอยากจะให้เขารักลูกมาก ๆ และไม่น่าจะเอาลูกเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านเลขที่ 31-330 ซอยคลองหลวง 17 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นบ้านชั้นเดียวติดกัน 2 หลัง สอบถาม น.ส.ยีนส์ (นามสมมติ) เพื่อนข้างบ้าน อายุ 46 ปี เปิดเผยว่า วันนี้เวลาประมาณ 09.00 น. นายวินัยกลับมาที่บ้าน แต่เรียกไม่มีใครมาเปิดประตูให้ เลยปีนรั้วเข้าบ้านแล้วงัดประตูด้านในเข้าไป พบลูกชายกับภรรยานอนอยู่ข้างกัน ด.ช.ศิลายังขยับตัวได้ แต่มีอาการตาลอย เลยพาไปอาบน้ำ ก่อนจะพากลับมานอนที่เดิม แต่น.ส.ราศี หน้าซีด ตัวซีด ปลุกก็ไม่ตื่น เลยโทรแจ้งกู้ภัย
จากนั้นกู้ภัยได้เข้าไปช่วยเหลือ ด.ช.ศิลา มีอาการตาลอย พอเขย่าตัวก็รู้สึกตัว แต่จะขัดขืดไม่ให้คนอื่นแตะต้อง ส่วนน.ส.ราศี ไม่มีท่าทีว่าจะตื่น ตัวเย็น ผิวซีด มีอาการกระตุกเล็กน้อย โดย ด.ช.ศิลา เล่าว่า แม่ให้กินยา 1 เม็ด แต่พอถามไปถามมา จึงยอมเปิดปากว่ากินยา 5 เม็ด ส่วนน.ส.ราศี น่าจะกินหมดกระปุก ซึ่งยาที่กินเป็นยานอนหลับที่ซื้อมาเป็นกระปุก และน.ส.ราศี มักจะกินทุกวัน ไม่ค่อยยุ่งกับใคร
น.ส.ยีนส์ กล่าวอีกว่า ตนไม่เห็นว่าน.ส.ราศี จะมีอาการซึมเศร้า แต่หลัง ๆ มานี้สองสามีภรรยาคู่นี้เหมือนจะมีปัญหากัน พอสามีเลิกงานมาก็จะเอารถมาจอดไว้ แล้วออกจากบ้านไป มีอยู่ครั้งหนึ่งน.ส.ราศี ถามว่าจะไปไหน นายวินัยก็ตอบกลับว่า “เรื่องของกู”
ก่อนเกิดเรื่อง เมื่อวานนี้ เวลา 19.00 น. คนข้างบ้านอีกคน ได้ยินเสียงดังเหมือนคนมีปากเสียงกัน และยังคงได้ยินเสียงลูก ๆ อยู่ในบ้าน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกตกใจ และรู้สึกสงสารเด็กผู้ชายด้วย เพราะจะพรุ่งนี้ ส่วนลูกสาว อายุ 6 ปี ก็กอดพ่อตลอด สุดท้ายนี้ตนขอให้หายเร็ว ๆ และตนก็บอกกับลูกสาวอายุ 6 ปี ของน.ส.ราศี ว่า “ถ้าแม่หายให้กำลังใจแม่เยอะ ๆ ด้วยนะ”
สำหรับค่าใช้จ่าย ที่น.ส.ราศี ต้องการให้สามีรับผิดชอบ ซึ่งสามีก็ยินดี เพราะภรรยาต้องเลี้ยงลูก และไม่ได้ทำงาน ได้แก่ ค่าเช่าบ้าน 4,500 บาท ค่าน้ำค่าไฟแล้วแต่เดือน ค่าเทอมลูก 3,000-4,000 บาท ค่าใช้จ่ายรายวัน วันละ 1,000 บาท
