หนุ่ม จี้ ตร.จับชายอ้างเป็น ตร. ชักปืนขู่ รับผวา แต่งชุดครึ่งท่อนวนเวียนในซอยบ้าน (คลิป)

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุการณ์บริเวณหน้าบ้านตัวเอง พร้อมระบุว่า เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ ถือปืนมาข่มขู่ผู้โพสต์ “ตำรวจชุดนอกเมาขับรถมาจะชนรุ่นน้องเราและก็มองหน้าเรา เราก็แค่ถามว่ามีอะไรเถียงกันอยู่แปปหนึ่งบอกให้เรารอ เราก็บอกว่ารีบๆมาเหอะแล้วตำรวจชุดนอกมันก็หายไปกลับมาพร้อมกับปืนกระบอกหนึ่ง นี่หรือตำรวจที่จะให้ประชาชนเชื่อใจพึ่งพาอาศัย #ตำรวจวัดพระยาไกรเมาถือปืนข่มขู่ประชาชน”

ทีมข่าวเดินทางมายัง สน.วัดพระยาไกร ซึ่งผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย นายเอกพัฒน์ พรมมารักษ์ ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (18 มี.ค.) เวลาประมาณ 21.00 น. ตนและรุ่นน้องรวม 3 คน นั่งซ่อมรถจักรยานยนต์อยู๋บริเวณหน้าบ้าน ย่านสาธุประดิษฐ์ 28 จากนั้นมีชายรายหนึ่ง ขับรถจักรยานยนต์ป้ายทะเบียนเหมือนตำรวจ เข้ามาเกือบจะชนพวกตน ตนจึงหันไปมองหน้า ชายรายดังกล่าวมองหน้ากลับ ตนจึงถามไปว่ามีอะไร หลังจากนั้นตำรวจรายดังกล่าวบอกให้ตนรอ ก่อนจะหายไปประมาณ 5 นาที แล้วกลับมาพร้อมถือปืน 1 กระบอก บอกว่า ตัวเองเป็นตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ในลักษณะท่าทางคล้ายหาเรื่อง และถามกลับว่า ตอนแรกตนพูดว่าอะไร

ซึ่งลักษณะชายรายดังกล่าวดูคล้ายคนเมา และในขณะนั้นตนก็รู้สึกกลัว เนื่องจากในบ้านมีเด็กเล็ก จึงห่วงความปลอดภัย โดยส่วนตัวเชื่อว่า ชายรายนี้เป็นตำรวจจริง เนื่องจากอาศัยอยู่ในซอยเดียวกันกับตน และเคยเห็นแต่งกายด้วยชุดตำรวจครึ่งท่อน ขับรถผ่านไปมา ซึ่งในวันนี้ ตั้งใจเดินทางมาแจ้งความ และอยากเอาผิดชายรายดังกล่าวให้ถึงที่สุด

ด้าน พ.ต.ต.พงษ์พันธุ์ พลหาญ สารวัตรสอบสวน สน.วัดพระยาไกร เปิดเผยว่า จากที่ดูภาพผู้ก่อเหตุในคลิป เบื้องต้นเชื่อว่าไม่ใช่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร และไม่น่าจะเป็นตำรวจ แต่มีการแอบอ้าง ขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย และให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาตัวผู้ก่อเหตุต่อไป ขณะเดียวกันเพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร” ได้รับการชี้แจงจาก สน.วัดพระยาไกรว่า ตามวันเวลาและสถานที่ดังกล่าว ได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง สืบทราบภายหลังว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายถาวร ชัยยุชิต อายุ 49 ปี มีพฤติการณ์ชอบแอบอ้าง แสดงตัวเป็นข้าราชการตำรวจ ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิด เกิดความเสียหายต่อองค์กรตำรวจ อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับ นายถาวร เรียบร้อยแล้ว ในข้อหาทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือตกใจ โดยการขู่เข็ญ