จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปวีดีโอ ขณะชายรูปร่างท้วม ถือหมวกกันน็อกลักษณะคล้ายหมวกตำรวจ กำลังโวยวายและทุบรถยนต์ พร้อมทั้งพูดจาข่มขู่ ก่อนจะปาหมวกลงพื้น และเรียกเงินค่าทำขวัญ 300 บาท พร้อมข้อความ ระบุ "ทำไมคนสมัยนี้แย่แบบนี้ ทั้งๆที่เห็นว่าเป็นผู้หญิง ก็ยังจะโวยวาย ถ้าโดนแม่ หรือเพื่อนแม่นะ กูไม่ยอมแน่ ฝากไว้ก่อนนะ" ภายหลังคลิปดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป มีกระแสวิพาษ์วิจารณ์มากมายเกี่ยวกันพฤติกรรมของชายดังกล่าว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา
วันนี้ (18มี.ค.) ทีมข่าวอมรินทร์ได้ลงพื้นที่จุดเกิด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ซึ่งอยู่บริเวณหน้าศูนย์แสดงสินค้าชื่อดัง ย่านบางนา บริเวณดังกล่าวเป็นถนนสุขุมวิทขนาด 3 ช่องจราจร มุ่งหน้าไปสำโรง ด้านซ้ายสุดเป็นช่องทางลงจากทางด่วน ซึ่งวันเกิดเหตุ การจราจรค่อนข้างติดขัด เนื่องจากสถานที่ดังกล่าว ประชาชนส่วนมากใช้เป็นเส้นทางกลับบ้าน
ด้าน
นายอั๋น อายุ 24 ปี ผู้เหตุเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ตนไม่ได้เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรก ซึ่งขณะเกิดเหตุตนอยู่คนละฝั่งถนน ตนไม่รู้ว่าชนกันตอนไหน มารู้ตอนมีเสียงโวยวายดังมาก จากนั้นตนจึงวิ่งไปดู เห็นชายร่างท้วมกำลังโวยวายเสียงดังใส่หญิงสูงอายุคนหนึ่ง ที่ยืนติดกำแพงศูนย์แสดงสินค้าอยู่ และสังเกตเห็นเหมือนกำลังโทรศัพท์ไปด้วย คาดว่าคงโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะเดียวกันชายรายดังกล่าวได้ ทำท่าทางคล้ายจะปาหมวกกันน็อกใส่ผู้หญิง แต่แล้วก็ปาหมวกกันน็อกลงพื้นแทน อย่างแรง ก่อนจะเรียกเงิน 300 บาท จากทางหญิงรายนั้น ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกายกันหรือไม่ ตนไม่ทราบเนื่องจากไม่เห็นเพราะรีบไปทำงาน
หลังจากนั้น ในช่วงเวลากลางคืนตนก็เห็นคลิปที่เผยแพร่บนเฟซบุ๊ก ซึ่งตนจำได้ว่าเป็นเหตุการณ์เดียวกัน ส่วนชายที่ถือหมวกกันน็อกสีทองและหญิงสูงอายุ ตนไม่ทราบว่าเป็นใคร และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน และเท่าที่ตนเห็นเหตุการณ์ชายที่ถือหมวกกันน็อกพูดจาค่อนข้างรุนแรง
ด้าน
นางจอม (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ขณะที่เพื่อนขับรถลงจากทางด่วน เพื่อเบี่ยงเข้าช่องกลางนั้น ขณะนั้นมีรถจำนวนมาก ทำให้การจราจรติดขัด จึงค่อยๆเคลื่อนรถไปช้าๆ จังหวะนั้นเองมีรถจักรยานยนต์มาจากทางซ้าย ก่อนจะมีเสียงดังขึ้นจากการพุ่งชน ก่อนที่รถจักรยานยนต์จะล้มไป ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าโดนคนขับรถจักรยานยนต์หรือไม่
จากนั้นคนขับรถจักรยานยนต์ก็ลุกขึ้นยืน และนำหมวกกันน็อกมาฟาดที่กระจกรถทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งตนกับเพื่อนก็กลัวว่าจะได้รับอันตรายจึงไม่กล้าลงจากรถ ขณะเดียวกันเพื่อนของตนได้ลดกระจกไปสอบถามว่า "เป็นอะไรรึเปล่า ไปหาหมอไหม" ซึ่งคนขับจักรยานยนต์ไม่สนใจ และตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายว่า "มึงจะไม่ลงมารับผิดชอบหน่อยหรอ" ก่อนจะเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 300 บาท
ระหว่างนั้นได้มีอาสากู้ภัยขับขี่รถจักรยานยนต์มา และแจ้งว่าให้ลงจากรถ ซึ่งตนและเพื่อนตอบกลับว่า "ยังไงก็ไม่ลง หากลุงเขายังใจร้อนแบบนี้" ทางอาสาจึงบอกกับตนว่าให้ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานด้วย จากนั้นอาสาคนเดิมได้บอกให้เลื่อนรถเข้าข้างทาง เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร เมื่อตนและเพื่อนเลื่อนรถเข้าข้างทาง จึงลงมาจากรถและพยายามโทรศัพท์หาตำรวจและประกันรถยนต์
แต่คนขับรถจักรยานยนต์ไม่ยอม บอกจะเอาค่าเสียหาย 300 บาท ก่อนจะนับ 1 ถึง 3 แต่ยังไม่ทันได้ให้ ชายคนดังกล่าวก็มีทีท่าคล้ายจะเอาหมวกกันน็อกฟาดรถ แต่ตนบอกว่า "พอเถอะพี่ ฟาดรถไปหลายทีแล้ว" จากนั้นคนขับรถจักรยานยนต์ก็เดินตรงไปที่เพื่อนตน ก่อนจะยกมือขึ้นคล้ายจะเอาหมวกกันน็อกฟาดไปที่เพื่อนตน แต่เปลี่ยนใจฟาดลงพื้น
เมื่อตนเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี เพราะรอเจ้าหน้าที่นานกว่า 30 นาที คนขับรถจักรยานยนต์ก็ยังอารมณ์ฉุนเฉียว และด่าทอตลอด ตนเกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงบอกกับเพื่อนว่าให้เงินไป เรื่องจะได้จบ เมื่อให้เงินไป 300 บาท คนขับรถจักยานยนต์ก็ขับออกไปทันที
หลังจากนั้นตนและเพื่อน เดินทางเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลบางนาไว้เป็นหลักฐาน และไม่ต้องการอยากจะเอาเรื่องหรือดำเนินคดีใดๆทั้งสิ้น บอกตามตรงตนกลัวว่าชายคนดังกล่าวจะกลับมาทำร้ายตนและเพื่อนอีก จึงอยากให้เรื่องทั้งหมดจบไป และที่ลงในโซเชียล เพียงอยากให้เป็นอุทาหรณ์เท่านั้น
นางจอม กล่าวต่อว่า
ตนอยากฝากถึงคนขับรถจักรยานยนต์ว่า เท่าที่เห็นลุงก็ไม่ได้เจ็บมาก และขอให้ใจเย็นๆ อย่าอารมณ์ร้อน อย่าไปทำกับคนอื่นอีก เพราะเราต่างก็ทำมาหากินเหมือนกัน
ด้าน
พ.ต.อ.นคร ทองพาณิช ผู้กำกับการ สน.บางนา ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า เบื่องต้นตนยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าว โดยขอเวลาตรวจสอบข้อมูลก่อน แล้วจึงจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอีกครั้ง