เจ้าของควายมาแล้ว ยินยอมยกควาย 2 ตัว ให้เจ้าของรถเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย ล่าสุดมีแม่ชีติดต่อขอไถ่ชีวิตควายเป็นค่าซ่อมรถ
จากเหตุการณ์กระบือตัดหน้ารถยนต์ที่ถนนสายด่านเก่า-เนินตาแมว ม.8 ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ (30 ต.ค.) เวลา 14.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองตราด นายกฤษฎา รังสี เจ้าของรถ พร้อมด้วย นายบูรณ์ ปานเงิน อายุ 63 ปี เจ้าของกระบือ เดินทางมาพบกับ ร.ต.อ.กันตภณ สักขาพรม ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด เพื่อตกลงหาข้อยุติในคดีควายตัดหน้ารถ
นายบูรณ์เผยว่า ยอมยกกระบือทั้ง 2 ตัวให้นายกฤษฎาเพราะกระบือทั้ง 2 ตัวหากนำไปขายจะมีมูลค่าเพียงพอที่จะซ่อมรถของนายกฤษฎาได้ นายบูรณ์เปิดเผยต่อว่า ตนมีอาชีพเลี้ยงกระบือขายโดยก่อนเกิดเหตุตนเฝ้ากระบืออยู่ในพื้นที่ ต.เขาสมิง อ.เขาสมิง จ.ตราด ส่วนในพื้นที่ที่เกิดเหตุให้ลูกน้องเฝ้า คาดว่ากระบือทั้ง 2 ตัว เชือกที่ผูกไว้อาจจะหลุดทำให้วิ่งออกมากลางถนนจนถูกรถของนายกฤษฎาชนจนเป็นเหตุดังกล่าว ซึ่งตนก็ยินยอมมอบกระบือทั้ง 2 ตัวให้นายกฤษฎาไป
หลังจากตกลงกันด้วยดีนายกฤษฎาบอกว่ามีแม่ชีจาก จ.ราชบุรี ติดต่อมาทางโทรศัพท์ขอไถ่ชีวิตกระบือทั้ง 2 ตัว ไปเลี้ยงที่สวนปัญอิสรภาพโดยจะจ่ายค่าซ่อมรถและค่าเสียเวลาให้เป็นจำนวนเงิน 60,000 บาท ซึ่งนายกฤษฎาก็ตกลงแต่ตนเองรู้สึกผูกพันกับกระบือทั้ง 2 ตัวมาก จนตั้งชื่อให้ว่า เจ้าถุงเงินและถุงทอง ยอมรับว่าอยากเลี้ยงเจ้าถุงเงินถุงทองต่อ แต่ตนเองไม่มีค่าซ่อมรถพอจึงตัดสินใจขายให้แม่ชีไป
ร.ต.อ.กันตภณ เจ้าของคดีบอกว่ารู้สึกยินดีที่คดีนี้จบลงด้วยดี แต่ต้องปรับเจ้าของกระบือในข้อหาปล่ยอสัตว์ไปในทางอันเป็นการกีดขวางจราจรทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย (พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 111 เปรียบเทียบปรับตาม ม.148 ปรับไม่เกิน 500 บาท) ตามกฎหมายต่อไป
