ฟ้า รับเปลืองตัว ถูกแฉเรื่องคาวๆ หลังโดดช่วยครูปรีชา ขอวางมือ (คลิป)

จากกรณีมีกระแสข่าว น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ ฟ้า คนสนิทครูปรีชา ประกาศถอนตัวจากคดีหวย 30 ล้าน อีกทั้งมีกระแสข่าวว่า ทนายความของฝ่ายครูปรีชาถอนตัวในการทำคดีนี้ด้วยเช่นกัน วันนี้ (12 มี.ค.) น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ ฟ้า คนสนิทครูปรีชา ยอมรับว่า ขณะนี้ตนถอนตัวจากการเข้าไปยุ่งคดีหวย 30 ล้านแล้ว หลังจากนี้จะไม่ให้สัมภาษณ์กรณีหวยอีกแล้ว จะลดบทบาทของตนเอง เพราะเหตุผลหลายอย่าง ทั้งกระแสสังคม ทั้งคำต่อว่าในโซเชียล ตนจึงมองว่า เจ็บตัวเปล่าๆ ส่วนตัวยังคงให้กำลังใจฝ่ายครูปรีชาและพยานอยู่ แต่หลังจากนี้ ตนขอให้ฝ่ายครูปรีชาและครอบครัวเป็นฝ่ายจัดการกันเอง หากอะไรที่ตนพูดได้ตนก็จะพูด แต่ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะตนเองก็คือคนนอก พูดอะไรไปก็มีแต่เสียกับเสีย

ส่วนกรณีของพยานที่ต้องการให้ตนช่วยเหลือ ตนก็ยินดี เพราะตนรู้ว่ากลุ่มผู้ค้าที่มาเป็นพยาน ต้องหาเช้ากินค่ำ ต้องทำมาหากิน พอเกิดเรื่องขึ้น ชีวิตก็ไม่เหมือนเดิม ทั้งนี้ ตนช่วยเพื่อมนุษยธรรมเท่านั้น และยังยืนยันว่า ตนไม่ได้หวังค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ ตนไม่ได้น้อยใจ หรือผิดใจกับฝ่ายครูปรีชา แต่ด้วยหลายๆ เหตุผลด้วยกัน และเมื่อตนตัดสินใจถอนตัวแล้ว ก็จะไม่กลับคำแน่นอน ส่วนตัวอยากให้ฝ่ายพยานของครูปรีชาเข้มแข็ง หากยังยืนอยู่บนความถูกต้องก็ไม่ต้องกลัว และตนไม่ได้หนี ไม่ได้กลัวจะถูกออกหมายจับ เพียงแต่ในอดีตเคยเป็นคนรับหน้ามาตลอด แค่จะลดบทบาทลง และเอาเวลาไปทำอย่างอื่นมากกว่า ซึ่งตนได้ลดบทบาทตัวเองลง เนื่องจากกระแสสังคมค่อนข้างลบ จึงรู้สึกว่าตัวเองเจ็บตัว หากถามว่ายังเชียร์ครูและพยานอยู่หรือไม่นั้น ตนยังเชียร์อยู่ แต่คดีหวย 30 ล้านเป็นของครู เพราะฉะนั้นก็ให้ทางครูปรีชาและญาติพี่น้อง จัดการกันเอง โดยตนจะไม่ยุ่งไม่เกี่ยวข้องแล้ว ฟ้ากล่าวเพิ่มเติมว่า ตนไม่ได้น้อยใจอะไร เพราะตนไม่ค่อยแคร์อะไรมากนัก แต่ตนแค่ไม่อยากยุ่ง หรือไปก้าวก่ายในเรื่องดังกล่าว ส่วนที่มีการให้ข่าวว่าตนมีส่วนได้ส่วนเสีย ตนยิ่งไม่อยากยุ่งไปใหญ่ เพราะว่าตนไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย แล้วตนก็มีแต่ข่าวคาวๆ ข่าวเสียๆ จึงทำให้มองว่า “พี่มีแต่เจ็บตัว”

ส่วนกรณีที่ทนายเกรียงไกร นาควะรี ทนายความฝ่ายครูปรีชา ถอนตัวจากคดี ยืนยันว่ามีการถอนตัวจริง ซึ่งตนไม่ทราบรายละเอียด ยืนยันไม่ได้กลัวหมายเรียก หรือหมายจับ อย่างไรก็ตาม ตนมีโอกาสคุยกับครูปรีชา หลังประกาศถอนตัว ทางโทรศัพท์ไม่นาน และไม่ได้มีการขออะไร เพราะตอนนั้นตนติดธุระ แต่ก็ขอฝากผ่านสื่อถึงครูปรีชาว่า อยากให้ครูสู้และอดทน ครูไม่ใช่คนผิด เพราะยังมีพยานที่เขาเดือดร้อนอยู่ ทุกคนต้องมีสติ เนื่องจากคดีนี้ มีทางออกอยู่แค่ 2 ทาง คือ รอด กับติดคุก ดังนั้นก็ต้องสู้ ตนยังคงเป็นกำลังใจให้ และยืนยันว่า ไม่ได้ผิดใจกันแน่นอน