แท็กซี่หัวร้อน ไล่ “พระเอกลิเกดัง” ลงรถ เหตุเปิดเพลงจากมือถือ! (คลิป)

เรียกได้ว่าเป็นประเด็นร้อนของวันนี้อีกเรื่องหนึ่ง หลังจากที่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พระเอกลิเกชื่อดังอย่าง ศรราม อเนกลาภ เจ้าของคณะลิเก ศรราม น้ำเพชร ได้โพสต์ คลิปแท็กซี่หัวร้อน ไล่ตัวเองลงจากรถ

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หนุ่มแบงค์ ศรรามได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กว่า ตัวเองพร้อมกับเพื่อนในคณะลิเก กำลังที่จะไป รพ.บำรุงราษฎร์ พอขึ้นรถเพื่อนร่วมคณะได้เพลงฟังจากโทรศัพท์มือถือ แท็กซี่ก็เปิดข่าวเสียงดัง หลังจากนั้นแท็กซี่ได้หันมาบอกว่า ตัวเองจะฟังข่าว จนทำให้เพื่อนที่ไปด้วยปิดเพลงจากมือถือ แต่แท็กซี่กลับตอบพวกตนมาว่า คุณจะเปิดเพลงทำไม ถ้าคุณฟังเพลง ผมก็จะฟังข่าว หรือคุณจะลงเลยก็ได้นะ! ผมไม่เอาตัง คุณฟังเพลง ผมไม่มีสมาธิขับรถ  งั้นเดี๋ยวขึ้น รถไฟฟ้า ไปแทนละกันครับ ผมไม่เอาตังค์

โดยหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ได้ปิดเพลงจากมือถือและคุยกันเรื่องอาการป่วยของพ่อแม่ แล้วแท็กซี่ก็จอดรถไม่ยอมไปส่ง แต่พอแท็กซี่จอดรถปุ๊บ ก็หันมาพูดแบบใส่อารมณ์ว่า ไปๆ คุณจะคุยอะไรกันนักหนา ผมไม่มีสมาธิ ซึ่งตัวของหนุ่มแบงค์ก็ยืนยันว่าไม่ได้เสียงดังอะไรเลย ทั้งนี้ในคลิปที่ตนถ่ายนั้น แบงค์ ศรรามบอกว่า แท็กซี่ใช้คำพูดดูถูกมากๆ ไล่เหมือนขอนั่งฟรีๆ นี่หรือ งานบริการ? ไม่ได้นั่งฟรีๆนะ #มีการเขวี้ยงเงินที่เราจ่ายด้วย บอกตรงๆว่าหัวร้อนเลย

อย่างไรก็ตามทางทีมข่าวได้ นายสุกรี จารุภูมิ ผู้อำนวยการกองตรวจการ กรมการขนส่งทางบก ถึงกรณีดังกล่าว  โดย ผอ.สุกรี บอกกับเราว่า ต้องแบ่งออกเป็น 2 กรณี 1.ถามว่าเปิดเพลงเสียงดัง แท็กซี่สามารถ บอกให้ผู้โดยสาร ปิดเพลงได้หรือไม่ คำตอบคือได้ เนื่องจากมีกฎหมายรองรับ ว่าด้วยเรื่องกรณีที่ผู้โดยสารส่งเสียงอันเป็นการรบกวน และทำให้แท็กซี่ไม่มีสมาธิในการขับรถ เพราะกฎหมายคำถึงความปลอดภัยที่จะเกิดขึ้น 2.ถามว่าแท็กซี่ที่ไล่ผู้สารลงจากรถ แล้วใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมนั้น ผิดหรือไม่ คำตอบที่ นายสุกรี บอกกับเรา คือผิด เพราะทางกรมขนส่งทางบก มีกฎหมายอย่างชัดเจน คือแท็กซี่ต้องส่งผู้โดยสารตามที่มีการกำหนดเอาไว้ตั้งแต่ต้น ถ้าไม่ปฏิบัติตาม มีโทษปรับ 1,000 บาท ส่วนที่ใช้ถ้อยคำไม่สภาพ มีความผิด ปรับอีก 1,000 บาท สำหรับเรื่องดังกล่าว ข้อเท็จจริงต่างๆต้องฟังความทั้ง 2 ฝ่ายก่อน ยังไม่อยากให้สังคมด่วนสรุปจากคลิปวิดีโอดังกล่าว ส่วน หนุ่มแบงค์ ศรราม ผู้จัดการส่วนตัวได้ออกมายืนยันกับทางเราแล้วว่า ไม่คิดเรียกร้อง หรือแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด  แต่อยากให้คลิปดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์ ของผู้ให้บริการ