ประธานาธิบดี เอมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส แถลงทั่วประเทศวานนี้ว่า ฝรั่งเศสเข้าสู่การล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบใหม่ในสัปดาห์นี้ เพื่อพยายามสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่หวนกลับมาระบาดเกินควบคุมอีกครั้ง
ผู้นำฝรั่งเศสประกาศว่า มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบใหม่ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันศุกร์นี้ จะกำหนดให้ประชาชนอยู่ภายในบริเวณบ้าน เว้นแต่จะออกไปซื้อของใช้จำเป็น พบแพทย์ หรือออกกำลังกายนอกบ้านวันละ 1 ชั่วโมง
มาครง กล่าวระหว่างแถลงผ่านโทรทัศน์ว่า ประชาชนจะยังคงได้รับอนุญาตให้เดินทางไปทำงาน หากนายจ้างเห็นว่าลูกจ้างไม่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ แต่โรงเรียนจะยังคงเปิดการเรียนการสอนได้ต่อไป
ทั้งนี้ มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศที่ฝรั่งเศสบังคับใช้ก่อนหน้านี้ สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ แต่ขณะนี้ ไวรัสเริ่มกลับมาแพร่ระบาดอีกระรอก หลังทางการฝรั่งเศสผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม และผุ้คนเริ่มกลับมารวมตัวกันอีกครั้งตามห้องเรียน มหาวิทยาลัย บาร์ และร้านอาหาร
ล่าสุด ยอดผู้ติดเชื้อรายวันที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้แพทย์ออกมาเตือนว่า แผนกดูแลผู้ป่วยหนักกำลังเผชิญวิกฤติผู้ป่วยล้น โดยขณะนี้ ฝรั่งเศสมียอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 มากกว่า 35000 คน ซึ่งสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก
ก่อนหน้านี้ มาครงประกาศบังคับใช้คำสั่งเคอร์ฟิวในกรุงปารีส และเมืองใหญ่อื่นๆ แต่ทางการพบว่า มาตรการนี้ไม่เพียงพอที่จะสกัดการแพร่ระบาด จึงร้องขอให้มีการบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น จนนำมาสู่การคำสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบใหม่