เครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้แก๊ส ทำหมดสติคาห้องน้ำ 3 ราย

27 ต.ค. 63

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดพิษณุโลกพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์สาธารณสุขอำเภอหล่มเก่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หล่มเก่าฝ่ายปกครอง อ.หล่มเก่ง ลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ท 2 แห่งบนภูทับเบิกในกรณีที่มีผู้ประสบเหตุหมดสติในห้องน้ำถึง 3 ราย หลังจากเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นเพื่อหาสาเหตุของเหตุการณ์ในครั้งนี้

รีสอร์ทแรกอยู่บริเวณทางขึ้นจุดวัดอุณหภูมิ ตัวอาคารมีลักษณะคล้ายห้องแถวโดยผู้ประสบเหตุคือนายสาริน แซ่ท้าว อายุ23 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลรีสอร์ทเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 20 ต.ค.2563 ตนได้เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำพร้อมกับเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้แก๊ซหุงต้มเป็นตัวทำน้ำอุ่น แต่ไม่ได้เปิดพัดลมระบายอากาศ เมื่ออาบน้ำได้ประมาณ 5 นาทีรู้สึกเวียนหัวจึงได้สระผมเพื่อให้หาย แล้วจึงปิดเครื่องทำน้ำอุ่นและเตรียมที่จะเปิดประตูห้องน้ำ แต่ก็รู้สึกอ่อนแรงและวูบหมดสติไป รู้ตัวอีกทีประมาณเที่ยงคืนก็พบว่านอนอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว จากการสอบถามทราบว่ายายของตนเองเห็นเข้าห้องน้ำไปนานผิดปกติจึงเข้ามาเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบ จึงได้ไปตามญาติๆ มาพังประตูเข้าไป พบว่าตนเองนอนสลบอยู่จึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งตนนอนรักษาตัวอยู่สองวันก็สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ

รีสอร์ทที่สองอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดภูทับเบิก โดยจุดเกิดเหตุเป็นห้องน้ำภายในห้องพักของเจ้าของรีสอร์ทเองส่วนผู้ประสบเหตุเป็นเด็กชายวัย 4 ขวบและเด็กหญิงวัย 12 ขวบ โดยนางบัว (นามสมุติ) อายุ 30 ปี เจ้าของรีสอร์ทเปิดเผยว่าเด็กทั้งสองคนเป็นลูกของตนเอง โดยในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 23 ต.ค.2563 ลูกๆทั้งสองคนได้เข้าไปอาบน้ำด้วยกัน โดยมีลุงเป็นผู้เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นชนิดใช้แก๊สให้ จากนั้นปล่อยให้เด็กทั้งสองคนอาบน้ำ เวลาผ่านไปนานพอสมควรไม่เห็นเด็กทั้งสองคนกลับเข้าห้อง ตนจึงได้มาตามดูที่ห้องน้ำพบว่าประตูปิด เมื่อส่องดูก็พบเด็กทั้งสองคนนอนหมดสติอยู่กับพื้นห้องน้ำจึงได้พังประตูเข้าไปช่วยเหลือ โดยสภาพของเด็กตัวเย็นไปทั้งตัวจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า และได้ส่งตัวต่อที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าเพื่อตรวจรักษาอย่างละเอียดอีกครั้ง ขณะนี้ทั้งสองคนปลอดภัยแพทย์เตรียมที่จะให้กลับบ้านได้ในเร็วๆนี้

ด้านนายวินัย ทองชุบ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จ.พิษณุโลกได้นำอุปกรณ์ในการตรวจวัดก๊าซในบรรยากาศมาทำการตรวจวัดหาปริมาณก๊าซเพื่อหาสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว โดยรีสอร์ทแรกพบว่าห้องน้ำค่อนข้างแคบจึงได้จำลองการใช้ห้องน้ำโดยเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นไว้และไม่เปิดพัดลมระบายอากาศ ปรากฎว่าปริมาณก๊าซโพเพนมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก๊าซโพเพนเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งของก๊าซหุงต้มเมื่อมีปริมาณมากๆ ก็จะเข้าไปแทนที่ออกซิเจนในอากาศทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดออกซิเจนและทำให้หมดสติและอาจจะตายได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อทดลองเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นไปด้วยและเปิดพัดลมระบายอากาศไปด้วยปรากฏว่าพบปริมาณก๊าซโพเพนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ส่วนรีสอร์ทแห่งที่สองห้องน้ำไม่มีพัดลมระบายอากาศจึงได้ทดลองเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นปรากฎว่าปริมาณก๊าซโพเพนได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยส่วน ส่วนปริมาณก๊าซออกซิเจนลดลงเรื่อยๆ จนต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่จะทำให้คนหมดสติลงได้ แต่เมื่อมีการปิดเครื่องทำน้ำอุ่นปรากฎว่าก๊าซโพเพนลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงสรุปได้ว่าสาเหตุที่ผู้ประสบเหตุทั้ง 3 รายหมดสตินั้นเกิดจากก๊าซโพเพนที่เป็นส่วนประกอบของก๊าซหุงต้มที่นำมาใช้ทำเครื่องทำน้ำอุ่นเมื่อมีปริมาณมากขึ้นจะเข้าไปทดแทนก๊าซออกซิเจนจนทำให้ผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้นขาดออกซิเจนและหมดสติในที่สุด

ดังนั้นวิธีการแก้ไขและแนะนำก็คือรีสอร์ทสถานที่ประกอบการจะต้องมีการติดพัดลมระบายอากาศทั้งในห้องนอนและห้องน้ำรวมทั้งจะต้องมีการจัดหาออกซิเจนกระป๋องมาจัดเตรียมไว้หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็จะได้นำมาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้ทันท่วงทีและนอกจากนั้นยังจะได้มีการประชุมหารือระหว่างส่วนงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ประกอบการรีสอร์ทบ้านพักเพื่อให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ