สำนักพุทธฯ นครปฐม ลงตรวจสอบวัดป่าปฐมชัย ท่ามกลางลูกศิษย์แน่นวัด ยังไม่ชี้ความผิดอดีตเจ้าอาวาส

วันนี้ (5 มี.ค.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คสช. และตำรวจกองปราบปราม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมตรวจสอบ วัดป่าปฐมชัย หมู่ 3 ต.หนองปากโลง อ.เมือง จ.นครปฐม กรณี มีผู้ร้องเรียนพฤติกรรรมพระนิพนธ์ หรือสมีนิพนธ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าปฐมชัย มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เสพเมถุน มีการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส และวางตัวเหมาะกับสมณเพศ

ซึ่งผู้เข้าร่วมตรวจสอบ นำโดยพระครูภาวนาวิมลว.(สุพรชัยสารธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสระกระเทียม เจ้าคณะอำเภอเมืองนครปฐม ชั้นปกครอง สายธรรมยุต, นายสุขพิชัย เชาวกุล นักวิชาการศาสนาชำนาญการ, นายธานี พิกุลทอง นักวิชาการศาสนาชำนาญการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม, นายนรวีร์ ขันธหิรัฐ ปลัดอำเภอชำนาญการพิเศษ อำเภอเมืองนครปฐมและชุดอส.รักษาดินแดน ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟังชี้แจ้ง สำหรับการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน พบว่า คุณรดา ไม่ทราบนามสกุล เป็นผู้ให้ข้อมูลถึงทรัพย์สินต่างๆ ภายในวัด ร่วมกับ ครูบาเปี๊ยก และมีแม่ชี ซึ่งกรณีของพระทองคำ จำนวน 8 องค์ ที่ชาวบ้านกล่าวถึง ก็ยังไม่มีการระบุที่ชัดเจน ว่าใช่พระทองคำจริงหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง

ทั้งนี้ หน่วยงานบางแห่ง ได้มีการเดินสำรวจบริเวณโดยรอบ แต่ไม่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่กุฏิ หรือบ้านพัก ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม ส่วนกุฏิของอดีตเจ้าอาวาสที่อยู่ด้านหลัง ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า อดีตเจ้าอาวาสได้ใช้เป็นที่จำวัด และจะออกมารับยา ในเวลา 5 โมงเย็นเท่านั้น ส่วนที่พักของฝ่ายหญิง เป็นลักษณะเหมือนบ้านหลังเล็กๆ ได้มีการติดกล้องวงจรปิดบางส่วนเอาไว้ แต่ที่เจดีย์หลักในวัด ใช้จัดเก็บทรัพย์สินต่างๆ ไม่พบการติดกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด ด้านเจ้าหน้าที่อำเภอเมืองนครปฐม ได้มีการประสานผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เข้าร่วมจัดตั้งคณะกรรมการวัดชั่วคราว เพื่อบริหารวัดร่วมกับเจ้าอาวาสรักษาการ เพื่อให้การบริหารจัดการ เป็นไปอย่างโปร่งใส

ด้านนายสุขพิชัย เชาวกุล นักวิชาการศาสนาชำนาญการ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก นางกัญฐณา หินเมืองเก่า ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดนครปฐม เป็นตัวแทนในการตรวจสอบทรัพย์สิน และแจ้งการดำเนินการต่างๆ ในวัด ส่วนกรณีของการสอบสวนอดีตเจ้าอาวาส ในข้อกล่าวหาอื่นๆ นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ เพียงแต่ทำหน้าที่รายงานไปยังต้นสังกัด ซึ่งทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะเป็นผู้สรุปแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้