พิธา ฝ่าฝนรุดเจรจาตำรวจปล่อยมวลชน ด้านชั้นประทวนเปิดใจไม่อยากทำร้ายม็อบ (คลิป)

17 ต.ค. 63

วันที่ 16 ต.ค. 63 บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร 2563 ตั้งแต่ช่วง 17.00 น. ที่นัดหมายรวมตัวกันที่หน้าหอศิลป์ แยกปทุมวัน จนกระทั่งมีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมรอบนอกการปราศรัยกับเจ้าหน้าที่ ตชด.ภาค 1 กระทั่งเจ้าหน้าที่ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมจนเกิดการปะทะกัน และในเวลา 19.59 น. แกนนำประกาศยุติการชุมนุม

262850

เวลา 21.16 น. รถของเจ้าหน้าที่ 2 คัน ขับมาตามถนนพระราม 1 ตามหลังมวลชนมาบริเวณหน้าสนามกีฬาศุภชลาศัย และมีการพูดท้าทายเจ้าหน้าที่เป็นระยะ

309560

ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และกลุ่ม ส.ส.พรรคก้าวไกล เดินทางมาเจรจากับเจ้าหน้าที่และเข้าไปในพื้นที่หอศิลป์ แยกปทุมวัน ผ่านเข้าไปแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มมวลชนที่ติดค้างอยู่โดยรอบให้ออกจากพื้นที่ เพราะพื้นที่ออกลำบาก ต้องให้เวลาผู้ชุมนุม

697744

หลังจากนายพิธาเข้าไปตรวจสอบ เปิดเผยว่า จากการที่ได้พูดคุยกับตำรวจ ทราบว่ามีประชาชนจำนวนมาก ที่ถูกควบคุมตัว ทั้งที่ร่วมการชุมนุมและอาจมีผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่อยู่ในบริเวณการชุมนุม หลังจากนี้จะระดม ส.ส.พรรคก้าวไกล เดินทางไปที่ ตชด.ภ.1 ช่วยยื่นประกันตัวผู้ที่ถูกดำเนินคดี

502324

นอกจากนี้ เมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา บรรยากาศภายในสำหนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 (บก.ส.3) รวม 100 นาย ตรึงกำลังดูแลอาคาร บุคคล โดยสิบตำรวจเอกพงษ์เพชร พลตื้อ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ภูมิลำเนา จ.สกลนคร เปิดใจว่า ในฐานะคนต่างจังหวัดที่เลือกเข้ามาเป็นตำรวจรวม 8 ปีแล้ว รู้สึกคิดถึงบ้านมากกว่าเพื่อนที่มีบ้านอยู่ในกรุงเทพฯ

การเดินทางกลับบ้านไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี ครั้งละ 3 วัน เพราะภาระกิจตำรวจจะไม่มีเวลาพักผ่อนตายตัว จึงหวังเพียงว่าสักวันตนเองคงจะได้ย้ายเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ใกล้บ้าน ทุกวันนี้ก็ได้วิดีโอคลอ โทรศัพท์พูดคุยกับครอบครัวในบางวัน ก็ทำให้หายคิดถึงไปบ้าง แต่ก็ยังคงอยากกลับบ้านอยู่ดี ส่วนตนก็ไม่อยากให้มีการทำร้ายกลุ่มชุมนุมหรือเกิดความรุนแรงแต่อย่างใด

751507

จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจกระชับพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุมที่แยกปทุมวัน ได้ฉีดน้ำสีฟ้าแรงดันใส่กลุ่มผู้ชุมนุมจนต้องล่าถอยไป ผู้สัมผัสมีอาการคัน และแสบตา ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว เคยยกตัวอย่างเหตุการชุมนุมที่ฮ่องกง ซึ่งทางการของฮ่องกงได้มีการใช้งานสีย้อมสีน้ำเงินละลายน้ำแล้วฉีดใส่ผู้ชุมนุมประท้วง เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนของผู้ชุมนุมได้แบบที่เรียกว่าเป็นหลักฐานติดตัวอย่างน้อย 3-7 วัน พร้อมอธิบายสีที่ละลายน้ำที่เป็นสีน้ำเงิน แต่คราบสีที่ติดบนผิวหนังที่เป็นสีฟ้าอมเขียวบนร่างกายของผู้ชุมนุมนั้น คาดว่าคือ "เมธิลลีนบลู" (Methylene Blue) หรือสีในกลุ่มของ Azure A, B, C หรืออาจจะเป็นสีของ "Thionine" (Lauth's violet)

113864

โดยสีทั้งหมดในซีรีส์นี้เป็นสีย้อมที่มีโครงสร้างส่วนให้สี (Chromophore) เป็น “ไธอะซีน” (Thiazines) ที่มีประจุบวก (cationic dyes) สามารถติดบนวัสดุโปรตีน (Protein material) ทั้งผิวหนังคน เชื้อแบคทีเรีย รวมไปถึงเส้นใยไหมและขนสัตว์ได้ดี

788636

สำหรับสีนั้นสามารถติดบนผิวหนังได้ตามระยะเวลาประมาณ 3-7 วัน ตามแต่ความเข้มและความสามารถในการขัดล้างของผู้ที่โดนฉีดสีเหล่านี้ ตามอายุของขี้ไคลและหนังกำพร้าที่เกาะอยู่บนผู้เปื้อนสี

650125

ขณะที่บริเวณลานหน้าหอหญิง 2 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มประชาคม มช. จัดกิจกรรมชุมนุมย้ำจุดยืนเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูญ และหยุดคุกคามประชาชน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 ที่ถูกจับกุมระหว่างการชุมนุม เมื่อวันที่ 14 ต.ค.63 และหมายจับจากการชุมนุมก่อนหน้านั้น

รวมถึงเรียกร้องให้ปล่อยตัวทนายอานนท์ นำภา และนายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ถูกจับกุมตามหมายจับ สภ.เมืองเชียงใหม่ ถูกนำตัวฝากขังอยู่ที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ โดยยังไม่ได้รับการประกันตัว

379703

สเตรทส์ ไทม์ส สื่อยักษ์ใหญ่ของสิงคโปร์ รายงานข่าวสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย ทวีความเข้มข้น หลังจากที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศจุดยืนว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในไทยยังคงวางแผนจะจัดการชุมนุมในกรุงเทพฯต่อไป แม้จะเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของรัฐบาล นอกจากในพื้นที่กรุงเทพฯแล้ว ยังมีรายงานว่าเริ่มเกิดการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศไทยเช่นกัน

990134

สเตรทส์ ไทมส์ ระบุว่า กระแสต่อต้านรัฐบาลไทยได้ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ ผู้นำการรัฐประหารเมื่อปี 2014 หรือเมื่อ 6 ปีก่อน ก้าวลงจากตำแหน่งนายกฯ รวมถึงขอให้มีการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ถูกร่างขึ้นในยุครัฐบาลทหารเสียใหม่ ให้มีความเป็นประชาธิปไตย

392219

สำนักข่าว อนาโดลู ของรัฐบาลตุรกี รายงานข่าวสถานการณ์การเมืองไทยล่าสุด โดยระบุว่าผู้คนทั่วโลกต้องการให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย เปิดการเจรจาพูดคุยกับกลุ่มผู้ประท้วง เพื่อช่วยกันหาทางออกที่เหมาะสมต่อวิกฤติการเมือง ซึ่งนานาชาติกำลังจับตาดูสถานการณ์ในประเทศไทยด้วยความเป็นห่วง เชื่อว่าทางออกที่ดีที่สุดคือการที่นายกฯ ยอมพูดคุยกับกลุ่มที่เห็นต่าง แทนการใช้อำนาจพิเศษและมาตรการทางกฎหมายต่าง ๆ เพื่อปราบปรามการชุมนุมประท้วง

550222402664

มุมมองล่าสุดของสื่อรัฐบาลตุรกีมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลไทยมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพฯ และมีการจับกุมผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยไปแล้วมากกว่า 40 คน ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันจะต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่ง และมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่การจัดเลือกตั้งครั้งใหม่

914000

เดลี่ เมล์ เว็บไซต์ข่าวชื่อดังของอังกฤษ เสนอบทวิเคราะห์สถานการณ์ การเมืองไทยล่าสุด โดยระบุว่า ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่การเป็นพื้นที่อันตราย และกำลังเผชิญวิกฤตเต็มรูปแบบ หลังจากที่ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลยืนหยัดชุมนุมอย่างเปิดเผย แม้จะมีการสลายการชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลไปแล้ว รวมถึงมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ซึ่งรวมถึงข่าวการประกาศเคอร์ฟิว แต่ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยยังคงกลับสู่ท้องถนนใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลาออก และเรียกร้องให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

595536

สถานการณ์ทางการเมืองในไทยขณะนี้กำลังได้รับความสนใจจากนานาชาติอย่างมาก และกลายเป็นเหตุการณ์หลักที่สื่อทั่วโลกต้องเกาะติด เดลี่เมล์ ชี้ว่า หากกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงยืนยันจะเดินหน้าประท้วงต่อไป ก็มีแนวโน้มที่ความขัดแย้งทางการเมืองในไทย จะลุกลามกลายเป็นวิกฤตเต็มรูปแบบ

549435

ขณะที่ โจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยชื่อดังชาวฮ่องกง ทวีตข้อความถึงประชาคมโลก บอกเล่ารายละเอียดทางการเมืองในประเทศไทย พร้อมขอให้ผู้คนทั่วโล ช่วยจับตาความเคลื่อนไหวของรัฐบาลไทย และช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับคนไทยที่เชื่อมั่นในประชาธิปไตย

ข้อความระบุว่า ชาวโลกโปรดยืนหยัดเคียงข้างคนไทย เพื่อยุติการชุมนุมของกลุ่มคนไทยที่ฝ่ายประชาธิปไตย มีนักกิจกรรมอย่างน้อย 27 คน ถูกจับกุม ซึ่งรวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียง เมื่อเสียงของคนไทยกำลังถูกทำให้บอดใบ้ จึงกลายเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนสำหรับพวกเรา ที่จะออกมาส่งเสียงให้พวกเขาต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เสรีภาพในการพูดถูกขโมยไปจากประเทศแห่งความสร้างสรรค์นี้ ชาวฮ่องกงและชาวโลก ต้องยืนหยัดเคียงข้างประเทศไทย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส