ร้องหมอทำคลอดลูกตาย อึ้งเจอพบศพเด็ก 40 ศพ

12 ต.ค. 63

นายอัจฉริยะ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมพา 3 ครอบครัวขอความเป็นธรรม กรณีหมอโรงพยาบาลดัง ทำคลอดลูกตาย 3 รายรวด โดยครอบครัวผู้เสียหายรายแรก เล่าว่าหมอผู้ทำคลอดบอกว่าลูกตนเสียชีวิตจากรกพันคอ โดยนจะนำศพลูกไปทำพิธีกรรมให้และนำร่างไปเป็นอาจารย์ใหญ่ ตนจึงยินยอม แต่ขณะนี้เป็นเวลา 7 เดือนแล้วตนเพิ่งทราบว่าลูกไม่ได้ถูกนำไปเป็นอาจารย์ใหญ่ แต่กลับถูกนำไปรวมกับศพเด็กไร้ญาติจำนวน 40 ศพที่เสียชีวิตจากโรงพยาบาลแห่งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาโรงพยาบาลไม่เคยแจ้งว่าได้มีการเก็บศพไว้ ซึ่งถ้าหากทราบว่าศพลูกจะถูกกระทำเช่นนี้เธอจะนำศพกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตั้งนานแล้ว

ด้านผู้เสียหายรายที่สอง เล่าว่าก่อนที่หมอจะทำคลอดได้อัลตร้าซาวด์พบว่าน้องมีอาการหัวใจโต ตนรู้สึกตกใจเพราะก่อนหน้านี้น้องปกติดีทุกอย่างและให้ไปรอคลอด หลังคลอดออกมาลูกร้อง 2 ครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่มีอาการตอบสนองใดๆ ซึ่งหมอได้แจ้งว่าน้องน้ำหนักตัวน้อยและหายใจช้ากว่าปกติน้องต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ และคุณหมอบังบอกว่าลูกตนปอดติดเชื้อ ตับโต มีอาการชัก เกร็ดเลือดต่ำ มีภาวะธาลัสซีเมีย ต่อมาเวลาประมาณ 5 ทุ่มหมอมาแจ้งว่าน้องเสียชีวิตแล้ว ตนจึงไม่มั่นใจว่าสรุปแล้วน้องเป็นอะไรกันแน่

ขณะที่ผู้เสียหายรายที่สามกล่าวว่าตนได้ผ่าคลอดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2563 หลังการคลอดคุณหมอได้แจ้งว่าเด็กปกติดีสมบูรณ์ทุกประการและพยาบาลนำลูกมาหาตนเพื่อให้ดูดนมได้สักพัก หลังจากนั้นพยาบาลพยาบาลนำน้องไปทำความสะอาดหายไปเป็นเวลานาน จนคุณหมอเข้ามาแจ้งว่าน้องมีอาการติดเชื้อที่ปอด ไม่สามารถหายใจเองได้ ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ จนเวลาตี3คุณหมอแจ้งว่ว่าลูกตนเสียชีวิต ตนสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตของลูกและไม่เชื่อว่าน้องจะเสียชีวิตด้วยตัวเอง ขณะนี้ได้ส่งศพลูกไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว

ด้านนายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการจากโรงพยาบาลขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว สำหรับผู้เสียหายนั้นสามารถขอรับการเยียวยาตามมาตรา41ได้ กรณีที่ผู้ป่วยได้รับความเสียหายจากการบริการทางการแพทย์ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพพ.ศ.2541

ส่วนเรื่องของคุณภาพของโรงพยาบาลนั้น โรงพยาบาลนี้มีผู้ป่วยเข้ามาคลอดจำนวนมาก ปีละ 7-8 หมื่นราย มีทีมแพทย์เฉพาะทาง 8-9 คน ส่วนการเสียชีวิตปีละเท่าไหร่นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เบื้องต้นทราบว่าอัตราการเสียชีวิตน่าจะอยู่ในระดับปกติ ส่วนหากเกิดความผิดพลาดอย่างไรจะมีการส่งผู้ตรวจราชการเข้าไปตรวจสอบโรงพยาบาลอีกครั้งโดยใช้เวลาตรวจสอบไม่เกิน 3 เดือน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ