โคราชอ่วม! น้ำทะลักปากช่องหนักสุดในรอบ 10 ปี คนผูกเปลนอนเฝ้าหวั่นโจรขึ้นบ้าน (คลิป)

สถานการณ์น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไหลหลากอย่างรุนแรง เข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

วันที่ 10 ต.ค. 63 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังเขตเทศบาลเมืองปากช่อง ตำบลหนองสาหร่าย ซึ่งเป็นจุดที่ยังคงมีปริมาณน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนมากที่สุด จุดที่น้ำลึกสุดคือ 1.5 เมตร ติดกับแม่น้ำลำตะคลอง ปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ปริมาณน้ำก็ยังไหลเข้ามาสะสมเพิ่มเติม เนื่องจากมีฝนตกลงมาซ้ำในพื้นทึ่

ทีมข่าวสังเกตว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองปากช่อง โดยเฉพาะในหมู่บ้านท่าเลื่อน 1 และท่าเลื่อน 2 กว่า 200 หลัง จะเป็นลักษณะบ้านเช่า มีทั้งแรงงานชาวไทยและต่างชาติมาเช่าอยู่ แต่ปริมาณน้ำได้เข้าท่วมภายในบ้านจนอาศัยอยู่ไม่ได้ ต้องย้ายไปอยู่ที่พักพิงชั่วคราว ตามที่หน่วยงานจัดเตรียมเอาไว้ให้ เช่น โรงเรียนท่าเลื่อนสามัคคี วัดท่ามะนาว และวัดจันทึก และผู้ว่าราชการลงพื้นที่ดูแลแล้ว

ในพื้นที่หมู่บ้านท่าเลื่อน 1 ตำบลหนองสาหราย เขตเทศบาลเมืองปากช่อง พบว่าขณะนี้ปริมาณน้ำได้ลดลงบางแล้ว แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ยังคงกังวลว่าปริมาณน้ำใจยังคงเพิ่มขึ้นในช่วงกลางคืน เพราะขนาดที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง กลัวว่าปริมาณน้ำจะเข้ามาสะสมเพิ่มเติม

นางเบ็ง เล็กกลาง ชาวบ้านในพื้นที่ เข้ามาสำรวจบ้านภายหลังที่ปริมาณน้ำลด แต่ยังไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ เข้ามายกทรัพย์สินบางส่วนขึ้นที่สูง และนำเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น หม้อไฟฟ้า รวมถึงอาหารสำเร็จรูปที่อยู่ในตู้กลับติดมือออกไปด้วย เพื่อจะไปอาศัยอยู่ที่บ้านญาติ ในเขตเทศบาลจุดที่น้ำไม่ท่วม

นางเบ็ง บอกว่า ตอนนี้ตนเองไม่รู้ว่าทรัพย์สินภายในบ้านมีอะไรเสียหายบ้าง แต่ยังคงพักอาศัยอยู่ไม่ได้ เพราะฟูกนอนและเฟอร์นิเจอร์ยังคงจมน้ำอยู่ แต่ตัวเองก็ต้องย้ายไปอาศัยอยู่ภายนอกชั่วคราว จนกว่าปริมาณน้ำจะลดต่ำ แต่ในช่วงกลางคืน ตนก็ยังห่วงทรัพย์สินและของในบ้าน จึงได้วานให้เพื่อนบ้านกลุ่มผู้ชายดูแลบ้านแทน เนื่องจากยังคงมีบ้านบางหลังที่ยังพออาศัยอยู่ได้ ก็จะช่วยดูแลบ้านให้กันและกัน ส่วนตัวมีความกังวลมากเรื่องปริมาณน้ำที่อาจจะเพิ่มเข้ามาเติมในพื้นที่ เนื่องจากตอนเย็นที่ผ่านมามีฝนตกต่อเนื่อง

ล่าสุด 3 ตำบล ระดับน้ำลดลงกว่า 1 เมตร บางจุดกลับมาเป็นปกติแล้ว แต่ยังคงมีตำบลหนองสาหร่าย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำใกล้กับแม่น้ำลำตะคลอง มีปริมาณน้ำไหลผ่านและท่วมบ้านเรือนประชาชนอยู่

บ้านนายนที บีกขุนทด ทรัพย์สินภายในบ้านยังคงจมอยู่ในน้ำ แต่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นตู้เย็น โทรทัศน์ ที่สามารถยกขึ้นที่สูงได้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดปล่อยทิ้งจมทั้งหมด

นายนที บอกว่า คืนนี้แม้ว่าปริมาณน้ำจะยังคงท่วม แต่ก็ต้องอยู่อาศัยภายในบ้านเพื่อดูแลทรัพย์สิน เพื่อป้องกันไม่ให้มีมิจฉาชีพเข้ามาลักขโมยของ ประกอบกับต้องดูแลหมา 2 ตัว แมว 1 ตัว ส่วนกลุ่มผู้หญิงและผู้สูงอายุได้ย้ายออกไปอยู่ข้างนอกแล้ว ดังนั้น ตนเองจึงอาศัยอยู่ที่โรงรถ ผูกเปลนอนสีดำเอาไว้ที่เสา ใช้เป็นที่หลับนอนในคืนนี้จนกว่าระดับน้ำจะลดลง

ขณะที่บ้านของคุณตาประจักร เถื่อนหมื่นวัย อายุ 78 ปี ที่ป่วยติดเตียง และป่วยเป็นโรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน ไขมัน ยังคงอาศัยอยู่ภายในบ้าน ไม่ยอมย้ายออกไปอยู่ดันนอก เพราะบริเวณชั้น 2 ยังคงอาศัยอยู่ได้

นางประทัป พลขัน อายุ 65 ปี ลูกสาวตาประจักร บอกว่า ในรอบ 10 ปี มีน้ำท่วมถึง 2 ครั้ง เป็นบ้านที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำประกอบกับเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ จึงต้องทำใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ส่วนคุณพ่อค่อนข้างดื้อ ไม่ยอมย้ายออกไปอยู่กับลูกหรือญาติข้างนอก เป็นคนที่ห่วงบ้าน แม้ว่าทุกคนจะชักชวนออกไปแล้วก็ไม่ยอม แต่ก็ยังโชคดีที่มีหน่วยงานราชการและกลุ่มอาสาสมัคร อสม. แวะเวียนเข้ามาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ

ส่วนที่รีสอร์ตหรู แมกโนเลียส์ เฟรนซ์ คันทรี เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ก็ได้รับผลกระทบอย่างมาก ถูกน้ำไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว

ด้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยงข้อง ทั้งพลเรือน ทหาร และท้องถิ่นทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์และเร่งช่วยเหลือ พร้อมรีบระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันน้ำที่จะไหลมาสมทบ