แม่จูงแขนลูกสาวหาหอยแครงในป่าชายเลน แต่ได้แมงดาถ้วยหรือแมงดาทะเล ติดมือมา 3 ตัว ลูกนำมาเผากิน โดนพิษเล่นงาน สุดท้ายเสียชีวิต
นางสมใจ อายุ 64 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดใจว่าเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 63 ได้ชวนลูกสาวออกไปหาหอยแครง บริเวณป่าชายเลน ซอยกิ่งแก้ว จ.ภูเก็ต ได้เจอแมงดาทะเล 3 ตัว จึงนำกลับมาที่บ้านเพื่อปรุงเป็นอาหาร ซึ่งลูกสาวได้เอามาเผาสดๆ 1 ตัว หลังเผาจนสุก ลูกสาวกินเข้าไป ตนพยายามที่จะขอลูกสาวกิน แต่ลูกสาวไม่ยอมให้ หลังลูกสาวกินไปสักพักเริ่มมีอาการอาเจียน เดินเซ มึนศรีษะ จึงได้รีบนำส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เนื่องจากผู้ตายมีอาการค่อนข้างหนัก
ทั้งนี้ ตนได้แจ้งกับทาง รพ. แล้วว่ากินแมงดาเข้าไป คาดอาจมีพิษ แต่เหตุใดทาง รพ. ไม่ทำเรื่องส่งต่อไปยัง รพ.วชิระภูเก็ต แต่ยังให้กลับมานอนรักษาตัวที่บ้าน จากนั้นไม่นานเมื่อถึงบ้าน ลูกสาวตัวเขียวมือเขียวขึ้นมา จึงโทรเรียก 1669 มาปั๊มหัวใจ และนำตัวส่ง รพ.วชิระภูเก็ต และต่อมาผู้ตายได้เสียชีวิตลง แพทย์ชันสูตรพลิกศพยืนยันว่าเสียชีวิตจากพิษแมงดาทะเล
ด้านนายสอน วงษ์ศาลา ผู้ชำนาญเรื่องสัตว์ทะเทะเล กล่าวว่า จากที่เห็นสัตว์ทะเลในรูปพบว่าเป็น "แมงดาถ้วย" ซึ่งมีสารพิษอยู่ในเนื้อและไข่ เป็นสารพิษชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า ที่ส่งผลต่อระบบควบคุมการหายใจถึงขั้นเสียชีวิต ฉะนั้นขอให้เลือกแมงดาจาน ซึ่งมีลำตัวขนาดใหญ่กว่าแมงดาถ้วย พื้นผิวด้านบนเรียบ มีสีน้ำตาลอมเขียว มีหางเหลี่ยม มีสัน และหนามเรียงกัน เป็นแถวคล้ายฟันเลื่อย เท่านั้น