หนุ่มนักล่าฝันยอมพักเล่นกีตาร์ หลังจนท.รุดเคลียร์ใจ ข้างบ้านไม่ทนขายหนี (คลิป)

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 ต.ค.63 พ.ต.อ.สิรภพ อนุสิริ ผกก.สภ.บางบัวทอง นายยศวัฒน์ คงมี ปลัดอำเภอบางบัวทอง นายอนาวิน แก้วนามชัย ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางบัวทอง นายสุพัตร์ รุ่งโรจน์ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบางบัวทอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ร้านอาหารตามสั่งชื่อร้าน “ ใบกระเพรา “ตั้งอยู่บริเวณปากซอยไพริน 99/1-13 ภายในหมู่บ้านบัวทองเคหะ ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ภายหลังจากได้รับแจ้งจากนางสมทบ แพรทอง อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 99/3 หมู่บ้านบัวทองเคหะ ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อ้างว่าได้รับความเดือดร้อน และผลกระทบจากเพื่อนบ้านที่เปิดร้านอาหารตามสั่ง ที่ชอบเล่นกีตาร์และร้องเพลงส่งเสียงดังรบกวนเป็นเวลานาน จนต้องประกาศขายบ้านหนี

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับนายศักดิ์สิทธิ์ วิศาสตร์ อายุ 42 ปี เพื่อนบ้านผู้ใจรักร้องเพลง เล่าว่า ตนเริ่มแต่งเพลงและร้องเพลงในวันที่ 19 ก.ย.61 พร้อมกับทำช่องยูทูบ โดยทำมา 2 ปีกว่าแล้ว ก่อนหน้านี้ตนไม่ได้เล่นดนตรี แต่เนื่องจากได้ย้ายร้านขายอาหารมาอยู่ในบ้าน จึงมีเวลาว่างที่สามารถเล่นกีตาร์ ร้องเพลงได้ ซึ่งตนมีเป้าหมายไปแข่งขันในรายการ The Voice ตนเคยไปแข่งขันร้องรายการเพลงดังกล่าวในปี 2019 แต่ขณะนั้นไม่ผ่านการเข้ารอบ อย่างไรก็ตามตนก็ไม่ท้อ จะไปร่วมแข่งขันรายการดังกล่าวอีก เพราะอยากเป็นศิลปิน โดยส่วนใหญ่จะแต่งเป็นแนวเพื่อชีวิต

สำหรับมุมมองของตนการร้องเพลงเล่นกีตาร์โปร่ง ไม่ได้สร้างความรำคาญและเดือดร้อนให้แก่ใคร ตนไม่ได้มีลำโพง ไมโครโฟนที่จะส่งเสียงดัง หรือตั้งวงดื่มสุรา โดยจะไม่ได้ร้องตลอดเวลา แต่จะร้องในเวลาว่าง หากไม่มีออเดอร์เข้าก็จะมาร้องเพลง 2-3 เพลง ประมาณ 10-20 นาที ซึ่งจะร้องช่วงเวลา 14.00 - 15.00 น. และหากวันไหนจะอัดเพลงจะไปร้องในบนห้อง แล้วเมื่อสอบถามเพื่อนบ้าน บริเวณใกล้เคียงก็บอกว่าไม่ได้หนวกหูหรือสร้างความรำคาญให้ 

นายศักดิ์สิทธิ์ ยังได้ยอมรับว่า ครอบครัวของตนและของนางสมทบ มีปัญหากันมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2557 ช่วงสงกรานต์ ภรรยาของตนท้องแก่ใกล้จะคลอดแล้ว แต่ทางหมู่บ้านได้นำเครื่องเสียงมาตั้งบริเวณใกล้เคียงบ้านของตน ซึ่งขณะนั้นเสียงมันรบกวน ตนจึงได้ไปบอกให้ช่วยลดเสียง ซึ่งเขาก็ลดเสียงให้ แต่นางสมทบที่อยู่ในอาการมึนเมาได้เดินมาด่าทอตน ตนจึงเดินออกไปหา ก่อนที่นางสมทบจะวิ่งหนีหลบเข้าไปในบ้าน จากนั้นก็เริ่มมีปัญหากัน แต่ในอดีตแม่ยายของตนจะไปมาหาสู่กับบ้านของนางสมทบ และตั้งแต่ทะเลาะกันมาครอบครัวนางสมทบไม่เคยเข้ามาเจรจา

ที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายได้ปะทะคารมกันอยู่เสมอ และกรณีที่ถูกอ้างว่าเวลาครอบครัวนางสมทบเดินผ่านหรือขับรถผ่าน ตนชอบทำพฤติกรรมที่ประชดประชันนั้น ก็มีบ้าง ไม่ได้บ่อยครั้ง เพราะคนทะเลาะกันมันต้องมีบ้างที่จะแสดงพฤติกรรมดังกล่าว อย่างไรก็ตามตนพร้อมที่จะเคลียร์ใจกัน แต่ฝั่งนางสมทบไม่ยอมมาสู้หน้า หากมาเจรจาจับมือคืนดีกัน ตนก็จะยินดี ส่วนนางสมทบจะขายบ้านนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของเขา ตนก็ไม่สามารถห้ามได้

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ทดสอบ เมื่อไปตั้งกล้องห่างจากที่นายศักดิ์สิทธิ์เล่นดนตรีและร้องเพลง บริเวณหน้าบ้านของเพื่อนรายหนึ่ง ห่าง 10 ม. ปรากฏว่าเสียงร้องเพลงและเล่นกีตาร์นั้น ดังในระดับปานกลาง เพราะบ้านของนายศักดิ์สิทธิ์ห่างจากถนนเพียง 5 ม. จะมีเสียงรบกวน คือ เสียงรถที่ขับผ่านไปมา

หลังจากนั้นได้ไปตั้งกล้องบริเวณหน้าบ้านของนางสมทบ ที่ห่าง 15 ม. ปรากฏว่าจะไม่ได้ยินเสียงชัดเจน และประกอบกับสภาพภายนอกมีเสียงที่รบกวน เช่น เสียงรถที่ขับผ่านสัญจรไปมา

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ไปสอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างกัน 20 ม. โดยนางสร้อย (นามสมมติ) อายุ 65 ปี เปิดเผยว่า เท่าที่ตนทราบมา ทั้ง 2 ครอบครัวได้ทะเลาะกันมานานแล้ว ส่วนปัญหาที่ทะเลาะกันตนไม่ทราบ แต่ตนได้ยินว่านายศักดิ์สิทธิ์ คิดว่านางสมทบไปแจ้งเทศบาล เรื่องทำร้านอาหารแล้วสร้างความรบกวนให้แก่คนอื่น แต่ตนไม่ทราบว่านางสมทบทำจริงหรือไม่ เพราะตนไม่ได้ใส่ใจ หลังจากนั้นได้ทะเลาะกันอยู่เรื่อย นอกจากนี้หากครอบครัวนางสมทบเดินผ่านหรือขับรถนายศักดิ์สิทธิ์จะชอบเคาะถาด พูดจาประชดประชันกัน

ส่วนกรณีที่นายศักดิ์สิทธิ์ได้ร้องเพลงนั้น เขาได้ร้องเพลงมาประมาณ 6 เดือน โดยจะร้องเพลงเพื่อชีวิต จะร้องเพลงทุกวันในช่วงเวลาที่เขาว่าง การที่นายศักดิ์สิทธิ์ร้องเพลงนั้นไม่ได้สร้างผลกระทบให้แก่ตน คิดว่าเขาคงจะร้องเพลงเพื่อนำไปลงในยูทูบ หรือผ่อนคลาย ตนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นเพื่อนบ้าน แต่บ้านที่อยู่ใกล้ ๆ อาจจะได้รับผลกระทบ

อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ครอบครัวของนางสมทบ และนายศักดิ์สิทธิ์ เข้ามาพูดคุยกัน เพื่อลดปัญหาความตึงเครียด และต่อไปนี้หากนายศักดิ์สิทธ์ ยังจะคงร้องเพลง ตนไม่ได้ว่าอะไร เพราะตนไม่ได้หนวกหู ถือว่าเป็นเสียงที่กล่อมให้มีความสุข ลักษณะนิสัยของสองครอบครัวนั้นตนไม่ทราบ เพราะเนื่องจากไม่ได้รู้จักกันมากขนาดนั้น

พ.ต.อ.สิรภพ อนุสิริ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า วันนี้ทางเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง ปลัดรักษาการนายก ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และตำรวจสภ.บางบัวทอง ได้ลงตรวจพื้นที่ตรวจสอบจากการได้พูดคุยกับเจ้าของร้าน และให้ลองเล่นดนตรีเหมือนที่เล่นทุกวัน และสอบถามประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงบ้านที่เกิดเหตุ

จากการได้ฟังก็น่าจะเกิดความรำคาญ เพราะเสียงดัง เจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ออกคำสั่งให้หยุดก่อความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งทางเจ้าของร้านได้รับปาก หากหลังจากนี้เกิดการร้องเรียน จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป กรณีเดือดร้อนรำคาญมีความผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณะสุข สามารถร้องเรียนได้ที่เทศบาล หรือศูนย์ดำรงธรรม หรือสภ.ในท้องที่ ช่วยกันตรวจสอบและแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบ เจ้าหน้าที่พร้อมแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุกเรื่อง เหตุการณ์นี้มีความผิดแค่โทษปรับ เพราะก่อให้เกิดเหตุรำคาญ ครั้งนี้ก็แค่ตักเตือน อยากให้เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน