เมียร่ำไห้ผัววินถูกหนุ่มกระทืบตายตาไม่หลับ ตร.บุกวงเหล้าปัดเอี่ยวบอกแค่เพื่อนของเพื่อน (คลิป)

จากกรณี นายประกอบ แก้วล้วน อายุ 65 ปี ผู้เสียชีวิต ถูกชายไม่ทราบชื่อ ทำร้ายร่างกายขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ จนกระทั่งเสียชีวิต ส่วนคนก่อเหตุหลบหนี ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัว โดยที่เกิดเหตุเกิดภายในซอยวัดประยูรธรรมาราม จ.ปทุมธานี

ล่าสุดวันที่ 5 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านพักของผู้ตาย ซึ่งพบว่ามีญาติ ๆ กำลังจับกลุ่มคุยกัน ทีมข่าวสอบถาม นางบุญ เหมรัตน์หิรัญ ภรรยาผู้เสียชีวิต ซึ่งยังอยู่ในอาการเสียใจ เมื่อเห็นทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ระบุว่า ตนนั่งรอให้ทีมข่าวเดินทางมา เนื่องจากผู้ตายและครอบครัวชอบช่องนี้มาก และรู้อมรินทร์ ทีวี นำเสนอข่าวจริงจัง เชื่อว่าจะได้ตัวคนร้าย

นายบุญ เปิดเผยว่า วานนี้ช่วงใกล้เวลา 22.00 น. สามีตนก็อยู่บ้าน โดยทั้งวันสามีก็อยู่ที่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน ปกติสามีจะขี่วินรับจ้าง ซึ่งขี่ในช่วงกลางวัน โดยมีวันหยุดวันอาทิตย์ ก่อนออกจากบ้านผู้ตายไม่ได้พูดอะไรเป็นลาง ไม่มีอะไรบอกเหตุว่าผู้ตายจะมาเกิดเหตุเช่นนี้ ผู้ตายได้นั่งคุยกับญาติ ๆ เล่นกับหลาน และนั่งดูข่าวช่องอมรินทร์ ทีวี ตนยังจำได้ว่า เป็นช่วงข่าวจับหมี

หลังจากนั้นผู้ตายได้ขึ้นไปส่งหลานบนห้องพักชั้น 2 ก่อนลงมาที่ห้อง และมาถามตนว่าหิวช้าวหรือไม่ จากนั้นผู้ตายได้บอกว่าจะออกไปซื้อข้าวมาไว้ให้ลูกสาว ซึ่งยังไม่กลับจากที่ทำงาน โดยขี่รถจักรยานยนต์ออกไป ตนยังวิ่งมายืนดูผู้ตายตอนที่ขี่รถออกไป จากนั้นตนก็กลับมานั่งดูข่าวตามปกติ

จากนั้นไม่เกิน 10 นาที น้องสาวตนกลับมาก็มาบอกว่า ขณะนั่งรถวินรับจ้างกลับเข้าบ้าน พบว่ากลางซอยมีเหตุ โดยมีรถกู้ภัยมา โดยไม่แน่ใจว่าผู้ประสบเหตุเป็นผู้ตายหรือไม่ อยากให้ตนออกไป เหมือนว่าจะเป็นเหตุรถล้ม ด้วยความตกใจก็รีบออกไปดู สภาพที่เห็น คือ สามีนอนนิ่งหงายอยู่กลางถนนแล้ว ซึ่งตนจับตัวยังอุ่น ๆ นอนตาเหลือก แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่า เสียชีวิตแล้ว

นางบุญ เล่าเหตุการณ์ไปก็เสียงสั่นเหมือนจะร้องไห้ มีช่วงหนึ่งยกมือขึ้นไหว้ ระบุว่าตนหวังว่าทีมข่าวอมรินทร์ท ทีวี จะมา และมาจริง ๆ เพราะเชื่อว่าจะจับคนร้ายได้ ผู้ตายเป็นเสาหลักดูแลครอบครัว จากนี้ตนก็อยากให้จับคนร้ายให้ได้ และหากคนร้ายฟังตนอยากถามว่าก่อเหตุแบบนี้ไว้ ก็ออกให้ออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำ

ทีมข่าวพบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อมาเก็บหลักฐาน ไล่ดูกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวคนร้าย โดยทีมข่าวได้กล้องวงจรปิด เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่คนร้ายออกจากบ้านเพื่อน ไปจนถึงช่วงเกิดเหตุ และหลบหนี

คลิปที่ 1 เป็นคลิปภายในพื้นที่ตรงข้ามบ้านของผู้ตาย ซึ่งผู้ก่อเหตุสังสรรค์อยู่ที่นี่ ก่อนจะขึ้นรถจักรยานยนต์สีขาว สวมหมวกกันน็อกเต็มไป โดยจังหวะที่ผู้ก่อเหตุถอยรถ จะเห็นรถของผู้ตายขับอยู่บนถนน มุ่งหน้าไปปากซอย โดยไม่ได้ทะเลาะ ไม่ได้ทักทายกัน จากนั้นประมาณ 20 วินาที ผู้ก่อเหตุก็ขับรถตามหลังไป

คลิปที่ 2 เป็นกล้องเดียวที่เวลาตรงกับเวลาจริง เห็นรถผู้ตายขี่ผ่านกล้องจุดนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านผู้ตายแค่ 130 เมตร และห่างจากจุดเกิดเหตุราว 100 เมตร จากนั้นพบรถผู้ก่อเหตุขับไปด้วยความเร็ว ผ่านกล้องไป

คลิปที่ 3 กล้องนี้คือตรงจุดเกิดเหตุ ผู้ตายถูกผู้ก่อเหตุขี่มาประกบ จากนั้นเหมือนมีปากเสียงกันเล็กน้อย ผู้ตายพยายามอธิบาย ชี้ตามพื้นถนน เถียงกันราว 30 วินาที ผู้ก่อเหตุลงจากรถ ก่อนชกไปที่ใบหน้าผู้ตาย 2-3 ครั้ง จากนั้นล็อกคอจนรถล้มลง ผู้ตายนั่งกับพื้น ถูกเตะเข้าที่ศีรษะขณะนั่ง จนล้มคว่ำไปอีกข้างหนึ่ง และแน่นิ่งไป

จากนั้นผู้ก่อเหตุยังไม่หยุด มีการกระทืบร่างของผู้ตาย เน้นไปที่ศีรษะ ลากคอผู้ตาย และโยนให้พลิกหงายตัว ก่อนจะขี่รถและหลบหนีไป

คลิปที่ 4 เป็นกล้องที่บันทึกภาพได้ที่บริเวณปากซอย ผู้ก่อเหตุขับขี่ออกมาที่ปากซอย และมุ่งหน้าออกไปที่ถนนวิภาวดีรังสิต

ทีมข่าวเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งซอยมีลักษณะค่อนข้างแคบ สอบถามผู้พักอาศัยในตึกตรงจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนเห็นคลิปแล้ว ไม่รู้จักกับคนร้ายมาก่อน ซึ่งไม่ใช่คนในซอยนี้แน่นอน ส่วนตัวตอนเกิดเหตุตนอยู่ในห้อง ตอนนั้นได้ยินเสียงเหมือนรถล้มดัง คุยกับแฟนว่าน่าจะมีเรื่องอะไร ตอนนั้นเข้าใจว่าคงเป็นต่างด้าวเมาทะเลาะกัน จากนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกัน "กู ๆ มึง ๆ" ใจความที่ได้ยินทำนองว่า "มึงแน่นักเหรอ ๆ" โดยได้ยินเสียงคน ๆ เดียว เสียงคนตายไม่ได้ยิน ก่อนจะมีเสียงรถจักรยานยนต์ น่าจะมีการปรับแต่งท่อไอเสีย และขี่รถออกไป

ทั้งนี้ตนและแฟนออกมาดู ก็เจอคนตายนอนอยู่กลางถนน เท่าที่เห็นผู้ตายยังหายใจอยู่ ไม่นานตำรวจก็เดินทางมา โดยมีคนหนึ่งเห็นเหตุการณ์ ระบุว่าคนก่อเหตุเป็นชาย สูงราว 180 ซม. ใส่เสื้อยีน หมวกกันน็อกสีขาว มาเพียงลำพัง พฤติการณ์คนร้ายเมื่อเห็นลุงผู้ตายล้มลงไปแล้ว ยังมีการกระชากศีรษะมาทำร้ายซ้ำ ก่อนจะหนีไป

ส่วนตัวไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เกิดเหตุอะไรขึ้น ผู้ตายตนก็ไม่รู้จัก เคยเห็นผ่านไปมา เท่าที่เห็นไม่เคยมีเรื่องกับใคร อาจจะเป็นการขี่รถจักรยานยนต์ปาดกันระหว่างทางหรือไม่ เสียงคนตายร้อง "โอ้ย" คำเดียว ยอมรับว่าตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะช่วงเวลา 2 ทุ่มยังเห็นผู้ตายพาหลานมาซื้อของกลางซอย ไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่อง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจ สภ.คูคต พอจะรู้เบาะแสและทราบข้อมูลแล้วว่าที่อยู่ของคนต้องสงสัยอยู่ที่ไหน จึงอยู่ระหว่างการติดตามตัว เนื่องจากมีการไล่เช็กและตรวจสอบกล้องวงจรปิดในซอยดังกล่าวแล้ว