ลูกเจ๊พัชเดือด ท้า "ษิทรา" มาตลาด ไร้ขบวนการโกง ลั่นไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้นับสิบปี (คลิป)

เมื่อวานที่ผ่านมา (15 ก.พ.) เจ้าหน้าที่กองปราบฯ เชิญตัวนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น และนางพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช แม่ค้าที่อ้างว่าขายลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เลข 533726 ให้กับนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษฯ รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น 7 ราย มาสอบปากคำที่สถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จังหวัดกาญจนบุรี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (16 ก.พ.) ทีมข่าวได้พูดคุยกับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ และนางลาวัลย์ วิมูล ภรรยาของร.ต.ท.จรูญ ที่เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ได้ไปขึ้นเงินรางวัล ที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2560 ในวันนั้นได้มีหัวหน้าของกองสลาก รวมถีงเจ้าหน้าที่ประมาณ 3-4 ท่าน สอบถามตนเกี่ยวกับรายละเอียดของสลากว่า ซื้อที่ไหน ราคาเท่าไหร่ ร.ต.ท.จรูญ ได้ตอบว่า ซื้อที่จ.กาญจนบุรี ตลาดเรดซิตี้ จำนวน 5 ใบ ในราคา 700 บาท ร.ต.ท.จรูญ ยอมรับว่า ครั้งแรกตนไม่ได้สงสัยกองสลากเกี่ยวกับข้อมูลที่ตนให้ไป แต่ต่อมาภายหลัง ตนไม่ทราบว่า ข้อมูลที่ให้ไปรั่วไหลออกมาบ้างหรือไม่ แต่ยังไม่ปลักใจเชื่อว่า จะมีคนในกองสลากรู้เห็นด้วยหรือไม่ เพียงแต่ตนให้ความมั่นใจ ไว้ใจใครได้ไม่เต็มร้อย

ด้าน นางลาวัลย์ เปิดเผยถึงประเด็นที่มีผู้ได้ยินตนพูดในร้านทำผมว่า สามีตนเก็บลอตเตอรี่ได้นั้น ตนขอชี้แจงว่า ร้านดังกล่าวเป็นร้านของภรรยาตำรวจเก่า ที่ตนไปทำผมประจำ แต่ไม่รู้จักพยานที่อ้างว่า ตนพูดเช่นนั้น ตนและลุงจรูญก็ไม่เคยรู้จักทั้งนายแผน และนางกุ้ง แต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่มีข่าวออกมาว่า มีพยานรายหนึ่งได้กลับคำให้การกับเจ้าหน้าที่กองปราบฯว่า "ได้ยินเสียงคนคุยกันว่า มีคนเก็บหวยได้ แต่ไม่มั่นใจว่าใช่ลุงจรูญหรือไม่" ร.ต.ท.จรูญ ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า อยากจะพูดว่ารู้เรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว มันโกหกทั้งนั้น ตนคิดว่าท่านผู้บัญชาการ มีความสามารถน่าจะหาข้อมูลชี้ชัดได้ว่าใครผิดหรือถูก สำหรับความกังวลกับเรื่องดังกล่าว ร.ต.ท.จรูญ ยอมรับว่า ความกังวลก็ยังมีอยู่เพราะเรื่องดังกล่าวยังไม่จบ แต่เดือนพฤษภาคมที่จะไปขึ้นศาล ตนเองยังมั่นใจในพยานหลักฐานที่ตนมี ส่วนอีกฝ่ายที่มีพยานถึง 15 ปาก ตนไม่ได้หวั่นใจแต่อย่างใด และจะน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใดนั้นตนยังไม่ทราบ

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อถึงกรณีที่มีข่าวออกมาว่า ลูกสาวของ ร.ต.ท.จรูญ เคยได้รับทุนการศึกษาจากครูปรีชาด้วยนั้น ร.ต.ท.จรูญ ตอบว่า ตนคิดว่าไม่น่าจะพูดคำนี้ออกมา อยากได้รับคำสรรเสริญมากกว่า ตอนนี้ตนก็ได้ทำการกรวดน้ำให้กับครูปรีชาตอนเช้าทุกวัน และยังเชื่อในคำสาบานของตนต่อศาลหลักเมือง ว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว อย่างไรก็ตาม ลุงจรูญ ยืนยันว่า ไม่ได้รู้จักกับนายตำรวจ 4 ราย ที่เข้าให้ปากคำกับตำรวจกองปราบฯเมื่อวานนี้ ส่วนที่ถามว่าทราบหรือไม่ว่าเป็นใครบ้าง ร.ต.ท.จรูญ ตอบว่า คิดว่าน่าจะเป็นกลุ่มคนที่เคยเรียกตนเข้าไปพูดคุยเจราจากันตั้งแต่ในช่วงแรก และถ้าเป็นกลุ่มคนดังกล่าวจริง ตนคิดว่าก็สมควรแล้วที่จะได้รับโทษ เพราะคนพวกนี้ "เลว"

จากนั้นทีมข่าวจึงไปยังบ้าน เจ๊พัช โดยได้พบกับ นายสร ลูกชายของเจ๊พัช ที่เล่าว่า ก่อนที่ตำรวจจะเชิญตัวแม่ตนไปให้ปากคำ ก็เห็นว่าแม่อยู่ในอาการปกติ แต่เมื่อเช้านี้ที่แม่กลับมาบ้านตนไม่เห็น เพราะตนออกไปขายของ วันนี้ทั้งวันตนก็ยังไม่ได้เจอแม่เลย ส่วนเรื่องที่มีข่าวออกมาว่าถูกบังคับให้รับสารภาพนั้น ตรงนี้ตนก็ไม่ทราบ และไม่แน่ใจว่า วันนี้แม่ของตนออกไปไหน อาจจะไปบ้านญาติหรือบ้านลูกค้าหวย ทั้งนี้ ตนยังเชื่อมั่นในแม่ของตน ยืนยันว่า ไม่มีขบวนการใดๆ เพราะแม่ตนมีลูกค้าทั่วเมืองกาญฯ

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่มีทนายท่านหนึ่งบอกว่า พยานของครูปรีชามีคนหนึ่งที่ออกมาเพราะรักเพื่อน นายสรให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า ตนไม่รู้ แต่แม่ตนไปยืนยัน เพราะขายจริงๆ ถ้าแม่ไม่ได้ขาย แม่ก็ต้องบอก เพราะแม่ตนเป็นคนนับหวยกับมือ แม่ไม่ใช่คนขี้ลืม สำหรับเรื่องการออกหมายจับ 1 ราย ภายในสิ้นเดือนนี้ นายสร ระบุว่า ตนเองไม่กลัวว่าจะเป็นแม่ของตน ตนเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่เป็นของแม่ตนแน่นอน แต่ถ้าออกมาเป็นป้าบ้าบิ่น ตนก็ให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายสร ยังฝากถึงทนายคนดังกล่าวด้วยว่า ตนก็อยากเห็นเหมือนกันว่ามีใครบ้างในขบวนการ ให้มาถามในพื้นที่ได้เลยว่ามีใครเคยเป็นเหยื่อแม่ตนหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นขบวนการแม่ตนจะอยู่อย่างนี้ได้อย่างไรมาเป็น 10 ปี ทั้งนี้ นายสร บอกว่า การให้ปากคำเมื่อวานนี้ (15 ก.พ.) เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้หลบหน้าหลบตาใคร เพราะหากเป็นขบวนการ แม่ตนคงหลบหนีไปแล้ว แต่แม่ตนยังไปขายหวย และยิ้มแย้มได้ตามปกติ ยอมรับว่าตนเป็นห่วงแม่เช่นกัน เพราะตอนนี้แม่ตนเป็นโรคหัวใจ แต่คิดว่าคงไม่กระทบกับเรื่องหวย 30 ล้าน เพราะแม่ไม่ได้เป็นตามที่ถูกกล่าวหาจริงๆ พร้อมบอกว่า ตนมีโอกาสได้คุยโทรศัพท์กับแม่เพียงครั้งเดียวขณะสอบปากคำ เพราะจะนำยาโรคหัวใจไปให้ แต่แม่บอกว่าไม่เป็นไร ไม่มีอะไร ส่วนเรื่องการเซ็นรับสารภาพ แม่ยังไม่ได้เล่าให้ฟังแต่อย่างใด