เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปิดพื้นที่สนามหลวงเพื่อให้ผู้ชุมนุมใช้พื้นที่ในวันที่ 19 ก.ย. 63 นี้ว่า ทุกอย่างทำตามกฏหมาย เพราะมีกรอบของกฎหมาย ต้องขออนุญาตทางเจ้าหน้าที่ ส่วนแผนการดูแลที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น ดูแลเรียบร้อย
ทั้งนี้ จะมีการกำหนดระยะห้ามผู้ชุมนุมเข้าใกล้ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ หากผู้ชุมนุมเดินทางมาทำเนียบฯ จะมีการกำหนดระยะเวลาการชุมนุมหรือไม่ ตนยังไม่รู้ว่าเขาจะมาหรือไม่ ส่วนจะเน้นการเจรจาทำความเข้าใจหรือไม่นั้น ทุกอย่างต้องทำตามกฎหมาย และไม่ให้เกิดการปะทะกัน
นอกจากนี้ เมื่อถามว่าเป็นห่วงเรื่องมือที่สามหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า "แล้วคุณเป็นมือที่สามหรือเปล่า" เมื่อถามว่าทางการข่าวมีการแจ้งจำนวนผู้ชุมนุมที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดที่จะมาเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.ประวิตร บอกว่า "รู้แล้วและดูอยู่ ทราบว่าจะมีจังหวัดไหนมา เชื่อว่ารับมือได้"
สำหรับการจัดการชุมนุมสาธารณะ ในรัศมี 150 เมตรจากพระบรมมหาราชวัง พระราชวัง วังของพระรัชทายาทหรือของพระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป พระราชนิเวศน์ พระตำหนัก หรือจากที่ซึ่งพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป จะกระทำมิได้
การจัดการชุมนุมสาธารณะภายในพื้นที่ของรัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล และศาลจะกระทำมิได้ เว้นแต่มีการจัดให้มีสถานที่เพื่อใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะภายในพื้นที่นั้น ซึ่งการใช้พื้นที่ต้องมีระยะห่าง 50 เมตรขึ้นไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่การเตรียมความพร้อม จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 กองร้อย จำนวนรวม 450 นาย ประจำจุดอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย และสะพานผ่านฟ้าลีลาศ บนถนนราชดำเนินกลาง เพื่อดูแลรักษาความเรียบร้อย
ส่วนบริเวณทำเนียบรัฐบาล กองบัญชาการตำรวจนครบาล จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 กองร้อย จำนวน 300 นาย เพื่อดูแลความเรียบร้อย และไม่ให้มีการเข้ามาในเขตหวงห้าม ตึกบัญชาการ 1 รวมถึงตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งจะอยู่ไม่เกินถนนมัฆวานเท่านั้น
บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขตท่าพระจันทร์ ที่มีการใช้พื้นที่ชุมนุมหลัก จะมีการจัดเจ้าหน้าที่ 3 กองร้อย จำนวน 450 นาย ดูแลความเรียบร้อย
สำหรับพื้นที่สนามหลวง ที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะขอใช้พื้นที่ดังกล่าวในการรวมตัวจัดกิจกรรม จัดกำลังเจ้าหน้าที่ 6 กองร้อย จำนวน 900 นาย เพื่อดูแลความเรียบร้อย ซึ่งไม่สามารถใช้พื้นที่ดังกล่าวีน้ได้ เนื่องจากมีการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555
นอกจากนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำทางการเมือง ผู้เคยเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองในอดีต ประเมินจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมในสถานที่ดังกล่าว เทียบเคียงกับอดีตที่ผ่านมา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รองรับได้ประมาณ 40,000 คน ส่วนทางสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ยาวไปจนถึงอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย รองรับคนได้ประมาณ 200,000 คน
สำหรับแกนนำผู้ชุมนุม ที่จะเดินทางเข้าร่วมชุมนุมในวันเสาร์ที่ 19 ก.ย. 63 นี้ ประกอบด้วย ทนายอาานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์, นายภานุมาศ สิงห์พรม, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนะกุล, นายทัดเทพ เรืองประไพกิจเสรี, นายภาณุพงศ์ จาดนอก, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์, สุวรรณา ตาลเหล็ก, นายรัฐชนน ไพโรจน์ ฯลฯ
ส่วนทางด้านนักการเมืองคนสำคัญที่จะไม่ไปร่วมการชุมนุม ประกอบด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายอนุดิษฐ์ นาครทััพ, นายจิรายุ ห่วงทรัพย์, นายวัน อยู่บำรุง
ส่วนทางด้านพรรคก้าวไกล ผู้ที่ยืนยันจะเข้าร่วมการชุมนุม ประกอบด้วย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายปิยบุตร แสงกนกกุล, น.ส.พรรณิการ์ วานิช, นายรังสิมันต์ โรม
