ลุงหัวร้อน ไหว้สวยขอโทษถือเหล็กขู่ ตร.ล็อกล้อ รับผิดฟิวส์ขาด หยามเกียรติตำรวจ (คลิป)

จากกรณีโลกโซเชียลฯ มีการแชร์คลิปวิดีโอชายสูงอายุหัวร้อน แสดงอาการเกรี้ยวกราด ถือท่อเหล็กเดินมาด่าตำรวจจราจรที่ป้อมตำรวจ ใกล้ปากซอยเทศบาล 14 เขตเทศบาลตำบลเหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ โดยด่าว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย เพราะไม่พอใจที่ตำรวจจราจรประจำป้อมใช้โซ่ล็อกล้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณรอบทางขาวแดง

ล่าสุดวันที่ 14 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ป้อมตำรวจจราจร บริเวณห้าแยกเหนือคลองริม ถนนเพชรเกษม ต.เหนือคลอง ซึ่งเป็นจุดตั้งของป้อมตำรวจจราจรที่เกิดเหตุ พบกับด.ต.สุภัทร โคราช ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เหนือคลอง กล่าวว่า ช่วงเกิดเรื่องเป็นช่วงที่ซอยข้างป้อมมีตลาดนัด ทำให้มีคนมาซื้อของในตลาดจำนวนมาก และมักจะมาจอดรถตรงจุดขาวแดงหน้าป้อมเป็นประจำ

ทั้งนี้ตนซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในป้อม จึงต้องใช้โซ่ล็อกล้อรถไว้ เพื่อให้เจ้าของรถมาแสดงตัวเวลามาเอารถ ซึ่งต้องดำเนินการเปรียบเทียบปรับ เพราะผิดกฎจราจร กรณีของชายดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ตนนั่งทำใบสั่งอยู่ในป้อม ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเสียงดัง จากนั้นก็ได้ยินชายคนดังกล่าวโวยวายเสียงดัง ตนจึงเดินออกไปดูก็พบว่าไม่พอใจที่ตนไปล็อกล้อรถ จึงด่าว่าตนอย่างรุนแรงด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตนจึงตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการยอมปลดล็อกโซ่ให้ เพื่อให้ชายคนดังกล่าวกลับไป ไม่อยากให้เกิดปัญหาตามมาอีก

ด้านพ.ต.อ.ศิริศักดิ์ สงพะโยม ผกก.สภ.เหนือคลอง หลังเกิดเหตุได้เรียกพบ ด.ต.สุภัทร เพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น โดยหลังจากสอบถามรายละเอียดแล้ว ก็ให้กำลังใจกับ ด.ต.สุภัทรเนื่องจากไม่มีการตอบโต้ใด ๆ ใช้ความอดทนในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนชายคนที่ก่อเหตุจะเชิญตัวมาเปรียบเทียบปรับ หากไม่มาแสดงตัวก็อาจจะพิจารณาว่าจะดำคดีในเรื่องดูหมิ่นเจ้าพนักงานหรือไม่

โดยตำรวจสืบทราบว่า ชายคนดังกล่าว คือ นายนุกูล จินดาวงศ์ อายุ 67 ปี ชาว อ.เหนือคลองจึงเชิญตัวมาที่ สภ.เหนือคลอง เพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจ โดยเชิญด.ต.สุภัทร โคราช ตำรวจจราจรที่ถูกต่อว่ามาเจอกันที่ห้องประชุม ซึ่งทั้งหมดใช้เวลาพูดคุยปรับความเข้าใจกันไม่นาน โดยนายนุกูล กล่าวขอโทษพร้อมกับยกมือไหว้ ด.ต.สุภัทร ต่อสิ่งที่ตัวเองทำไป

นายนุกูล ยอมรับว่า วันเกิดเหตุตนมาซื้อขนมจีนที่ตลาดนัด และเห็นว่าจุดดังกล่าวมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่หลายคัน จึงเข้าใจว่าตำรวจอนุโลมให้จอดได้ เพราะมีตลาดนัดอยู่ในซอยใกล้กัน แต่พอซื้อของเสร็จกลับมาก็พบรถถูกล็อกล้อแล้ว จึงเกิดโมโหจนฟิวส์ขาด และต่อว่าตำรวจไปหลายคำ

อย่างไรก็ตาม นายนุกูล ยังกล่าวคำขอโทษและขอให้ตำรวจจราจรช่วยปรับเรื่องการทำงาน โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายกับชาวบ้าน หากกรณีไหนสามารถว่ากล่าวตักเตือนได้ ก็อยากให้ตำรวจว่ากล่าวตักเตือนแทนการจับกุม เพราะบางครั้งตนเห็นชาวบ้านบางคนลำบากไม่มีเงิน แต่ก็ยังถูกจับเสียค่าปรับอีก ซึ่งทางตำรวจเองก็รับว่าจะนำไปปรับการทำงาน เพื่อให้ตำรวจอยู่กับชาวบ้านได้แบบไม่มีปัญหา

จากนั้นทางตำรวจจราจร ก็ดำเนินการเปรียบเทียบปรับนายนุกูล ตามความผิด พ.ร.บ.จราจรเป็นเงิน 400 บาท กรณีที่จอดรถในที่ห้ามจอด ส่วนกรณีที่ต่อว่าด่าเจ้าหน้าที่ทางตำรวจไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีแต่อย่างใด และอนุญาตให้นายนุกูลกลับบ้านได้