เมียร่ำไห้ปัดฆ่า เอ็ม บางหมาก พิสูจน์ท่าสังหารมุดหน้าต่างลั่นไกทำได้จริง (คลิป)

เมื่อช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 5 กันยายน 63 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.เดชบัญฑิต ดุลยเภรีย์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุยิง นายวัชรินทร์ นครพัฒน์ หรือ “เสี่ยเอ็ม บางหมาก” อายุ 39 ปี พ่อค้าออนไลน์ขายอาหารทะเลในพื้นที่จังหวัดชุมพรและต่างจังหวัด เสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร ห่างจากถนนลาดยางสายชุมพร-บางหมาก ประมาณ 30 เมตร รอบ ๆ จุดเกิดเหตุเป็นป่ารก หน้าบ้านมีรถเก๋ง ทะเบียน กฉ 4337 ชุมพร และรถจักรยานยนต์ ทะเบียน 1 กก.7563 ชุมพร จอดอยู่ โดยมีน.ส.สมฤดี ลือชา อายุ 37 ปี ภรรยาผู้ตายยืนหน้าซีดรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อตรวจสอบภายในห้องนอนชั้นล่าง กว้างxยาว ประมาณ 3x6 เมตร มีที่นอนแบบปูพื้น 2 ชุด อยู่บริเวณมุมห้องด้านทิศเหนือ 1 ชุด และบริเวณมุมห้องด้านทิศใต้ 1 ชุด สภาพนอนคว่ำหน้าเปลือยกายอยู่บนกองเลือด มีผ้าห่มสีชมพูคลุมทับช่วงล่าง ตามร่างกายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ชายโครง 2 นัด กระสุนทะลุราวนมซ้ายและชายโครงขวา พบหัวกระสุนยังไม่ทราบขนาดฝังอยู่ในที่นอนจำนวน 2 หัว ไม่พบปลอกกระสุนคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธปืนชนิดลูกโม่ที่เก็บปลอกกระสุน

น.ส.สมฤดี ลือชา อายุ 37 ปี ภรรยาผู้ตายที่อยู่กินกันมานานกว่า 18 ปี และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 3 ขวบ โดยปู่กับย่านำไปเลี้ยงตั้งแต่แรกเกิด บอกว่า ก่อนเกิดเหตุสามีขับรถจักรยานยนต์กลับเข้าบ้านช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งตนได้นอนอยู่บนที่นอนชุดที่อยู่มุมห้องด้านทิศเหนือ ส่วนสามีนอนบนที่นอนมุมห้องด้านทิศใต้ ห่างกันประมาณ 3 เมตร ซึ่งได้แยกกันนอนคนละเตียงได้ประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสามีมักจะมีพฤติกรรมชอบเที่ยวเตร่ดื่มสุรากลับบ้านดึกดื่น เมื่อเมากลับมาบ้านแล้วชอบมีปากเสียงทะเลาะกัน

โดยก่อนนอน ตนได้ปิดล็อกประตูหน้าต่างหมดทุกบานแล้ว ทำให้คาดว่าคนร้ายน่าจะย่องเข้ามาในบ้านผ่านช่องหน้าต่างบานที่แตกที่ไม่มีกรงเหล็กดัด ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 10 วัน ผู้ตายเมาสุราแล้วโมโหแล้วใช้ไม้ทุบกระจกหน้าต่างที่อยู่ใกล้ประตูทางเข้าหน้าบ้านจนแตกละเอียด อีกทั้งสามีไม่เคยปิดล็อกประตูห้องนอน

ขณะที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่ ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แต่คิดว่าฝันไป จนวินาทีต่อมามีเสียงปืนดังขึ้นนัดที่ 2 พร้อมเสียงร้องของสามีด้วยความเจ็บปวดก่อนขาดใจตาย ตนตกใจตื่น เห็นมีเงาดำยืนหันกำลังวิ่งออกไปจากหน้าประตูห้องนอน แต่ตนจึงไม่กล้าลุกขึ้นดู ได้แต่นอนอุบนิ่งอยู่ที่มุมห้อง เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงรีบวิ่งตะโกนบอกพ่อแม่ของสามีที่มีบ้านอยู่ห่างกันประมาณ 15 เมตร แต่อีกฝ่ายก็กำลังวิ่งออกมาดูเหตุการณ์พอดี เนื่องจากได้ยินเสียงปืนของคนร้าย 2 นัด แต่ไม่ได้ยินเสียงคนร้ายและเสียงยานพาหนะ ทั้งนี้สุนัขที่พ่อและแม่ของผู้ตายเลี้ยงไว้ 1 ตัว ที่ปกติจะเห่าหอนเป็นประจำ ก็ไม่ได้ส่งเสียงแจ้งเตือนขณะเกิดเหตุ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะรู้ช่องทางเข้าออกและความเคลื่อนไหวภายในบ้านของผู้ตายเป็นอย่างดี จึงลงมือก่อเหตุโดยไม่ทิ้งร่องรอย ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุได้ว่าคนร้ายเป็นคู่อริหรือบุคคลใกล้ชิด เนื่องที่ผ่านมาผู้ตายมักจะมีเรื่องขัดแย้งกับเพื่อนหลายคนถึงขั้นชกต่อย เคยถูกขวดเหล้าตีหัวและถูกไล่แทง ต้องรอรวบรวมหลักฐาน พยานสิ่งแวดล้อมและสอบปากคำพยานบุคคลอย่างละเอียดให้แน่ชัดก่อน โดยขณะนี้ร่างของผู้เสียชีวิตถูกส่งต่อไปผ่าชันสูตรวิถีกระสุนอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช ภาค 8 สุราษฎร์ธานี

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้เดินทางมายังบ้านหลังเกิดเหตุ พบว่าตั้งอยู่ในซอยถนนลูกรัง มีบ้านตั้งอยู่ต้นซอย 1 หลัง ห่างจากบ้านบ้านผู้ตายประมาณ 20 เมตร ส่วนบ้านของพ่อแม่ผู้ตายอยู่ถัดจากบ้านผู้ตายไปประมาณ 15 เมตร

ส่วนจุดหน้าต่างบานที่แตก จากคำให้การของภรรยาผู้ตายนั้นติดอยู่ที่หน้าบ้าน ซึ่งอยู่สูงจากพื้นประมาณ 70 เซนติเมตร มีโต๊ะม้าหินวางอยู่ข้างหน้าต่าง โดยทีมข่าวได้ทดลองปืนเข้าทางหน้าต่างตามข้อสันนิษฐานของภรรยาผู้ตาย พบว่าสามารถปีนเข้าได้โดยง่าย ด้วยการเหยียบเก้าอี้ม้าหินแล้วลอดตัวเข้าไปอย่างเงียบ ๆ โดยภายในห้องนอนยังคงพบรอยเลือดอยู่บนที่นอน

จากการสอบถามชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ พบว่าเจ้าของบ้านไม่ได้อยู่บ้านเมื่อคืนนี้ อีกทั้งยังไม่มีใครสังเกตเห็นคนน่าสงสัยเข้าออกซอยบ้านผู้ตายในช่วงเวลาเกิดเหตุ

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสุรินทร์ กาลสังข์ อายุ 39 ปี เพื่อนสนิทของผู้ตายตั้งแต่สมัยเรียนระดับชั้นมัธยมปลาย ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เล่าว่า ตนสนิทกับผู้ตายมานาน รู้จักทั้งครอบครัวผู้ตายและภรรยาผู้ตาย ตนทราบว่าผู้ตายถูกยิงเสียชีวิตในเวลา 06.00 น. ตนรู้สึกตกใจมากที่ผู้ตายถูกบุกยิงถึงในบ้าน จึงรีบเดินทางไปยังบ้านผู้ตาย

ตนพุ่งเป้าการก่อเหตุไปที่ปัญหาส่วนตัว เนื่องจากสนิทกับผู้ตายมาก ผู้ตายแม้จะชอบดื่มสังสรรค์จนภรรยาต้องแยกเตียงนอน แต่ทั้งคู่รักกันดี ไม่เคยมีปัญหาประเด็นชู้สาว อีกทั้งผู้ตายยังเป็นพ่อค้าออนไลน์ จึงทำให้ไม่มีผู้ขัดแย้งทางการค้า ผู้ตายเป็นคนอารมณ์ร้อน มักมีเหตุทะเลาะวิวาทเรื่อยมาตั้งแต่สมัยยังเป็นวัยรุ่น แต่เมื่อโตขึ้นผู้ตายก็อารมณ์เย็นขึ้นมาก

ทั้งนี้ในช่วง 2 เดือนมานี้ ผู้ตายไม่ได้เล่าอะไรให้ตนฟัง แต่ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ใหญ่ 2 เหตุการณ์ ได้แก่ 1.เมื่อ 5 เดือน ผู้ตายได้มีปัญหากับผู้นำชุมชน ถูกยิงบริเวณหัวไหล่ ได้รับค่าเคลียร์ปัญหา 7 หลัก และ 2.เมื่อ 2 เดือนก่อน ผู้ตายได้ทะเลาะกับคู่กรณีคนหนึ่งอย่างหนัก ซึ่งไม่ชอบหน้ากันมานาน ตนจึงสงสัยบุคคลใน 2 เหตุการณ์นี้เป็นพิเศษ แต่ผู้ตายอาจจะมีปัญหากับใครโดยที่ไม่ได้บอกตนก็ได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะตนอยากจะทราบสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น