เมียป้องลุงขืนใจเด็กพิการท้อง ชี้มาหาถึงที่จนหนีลงโอ่ง แม่เหยื่อฉะหยุดเอาดีใส่ตัว (คลิป)

จากกรณีวันที่ 25 ส.ค. 63 ทีมข่าวได้รับการร้องเรียนจากครอบครัวหนึ่งใน ต.เมืองไผ่ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ที่หลานสาวอายุ 14 ปี เป็นผู้พิการทางสมอง ถูกข่มขืนจนตั้งท้องได้ 7 เดือน แต่ผู้ถูกกล่าาวหาเป็นคนมีฐานะ สามารถประกันตัวออกมาได้ แถมเยาะเย้ยถากถางว่าจะไม่ได้รับโทษ

ล่าสุดวันที่ 27 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปยังบ้านขอเด็กผู้เสียหายใน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ นายสมชัย เกิดพระ อายุ 65 ปี ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง 3 ครั้ง ภายในห้องนอนของตนเอง 2 ครั้ง และแคร่หลังบ้าน 1 ครั้ง ในช่วงเวลาที่ภรรยาของตนไม่อยู่บ้าน แต่ตนยืนยันได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำไปด้วยความไม่ได้ตั้งใจ อารมณ์ชั่ววูบ และไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย

ส่วนกรณีที่ว่าตนไปข่มขืนน้อง ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มทำ แต่น้องเป็นคนชวนตนเข้าไปในห้องร้องขอมีเพศสัมพันธ์เอง เพราะต้องการอยากจะได้เงิน เนื่องจากปกติเวลาน้องมาเล่นกับหลานของตนเองที่บ้าน ก็มักจะขอเงินตนอยู่บ่อยครั้ง 20-300 บาท หากมีตนก็ให้ไป เนื่องจากเห็นเหมือนเป็นลูกหลาน แต่เมื่อตนไม่ให้ น้องก็จะมาขอหลับนอนด้วย

นอกจากนี้น้องมักจะมีนิสัยชอบลักขโมยเงินของตนที่อยู่ภายในบ้านบ่อยครั้ง ตนจึงมีเพศสัมพันธ์กับน้องเพื่อเป็นการข่มขู่ หวังให้กลัวจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับตนอีก แต่ตนคิดผิด เพราะหลังจากที่ได้มีเพศสัมพันธ์กับน้องไปแล้วครั้งหนึ่ง น้องก็จะมาขอมีครั้งต่อไป ถึงขนาดที่ตนไม่ยอมให้เข้าบ้าน น้องก็พยายามปีนหน้าต่างเข้ามาหาตน ในเวลาที่ภรรยาของตนไม่อยู่บ้าน ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร บางครั้งก็ไปหลบแอบในโอ่ง

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่องที่ตนและคนในครอบครัวได้ไปเจรจาเสนอเงินชดใช้ให้จำนวน 50,000 บาท พร้อมจะขอนำน้องและลูกในท้องมาเลี้ยงดู เสมือนเป็นลูกหลานและอยู่ด้วยกัน เป็นการรับผิดชอบ แต่ทางครอบครัวก็ไม่ยินยอม พร้อมทั้งจะขอดำเนินคดีกับตนให้ถึงที่สุด ตนก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะทางครอบครัวของน้องไม่ยอมรับข้อเสนอ

ทั้งนี้ หากเป็นไปได้ ตนอยากขอโทษทางครอบครัวน้อง ที่ก่อเหตุดังกล่าวลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ส่วนเรื่องคดีความทางตำรวจก็ให้ตนมาตกลงเจรจากับทางครอบครัวน้องอีกครั้ง หากตกลงกันไม่ได้ ก็ให้ไปตกลงกันที่ชั้นศาลตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ด้านนางสวาย เกิดพระ อายุ 58 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนมั่นใจว่าน้องไม่ได้เป็นเด็กที่พิการทางสมอง หรือปัญญาอ่อน แต่คนที่อ่อนคือสามีของตน เพราะตนมารู้ภายหลังว่าหลังจากที่สามีของตนและน้องมีเพศสัมพันธ์กัน น้องก็จะข่มขู่สามีของตนตลอดว่าถ้าไม่ให้เงินก็จะไม่ยอมกลับบ้าน สามีของตนก็ต้องให้เงิน

แต่ส่วนเรื่องที่สามีของตนเองไปมีเพศสัมพันธ์ุกับน้อง ตนเองก็ทราบหลังเกิดเรื่องคิดว่าสามีของตนเองทำพฤติกรรมไม่ถูกต้องเพราะสามีโตเป็นผู้ใหญ่ ส่วนน้องก็เป็นเด็กไม่น่าที่จะไปทำแบบนั้น หลังเกิดเหตุตนเองและคนในครอบครัวได้เป็นตัวแทนของสามีไปเจรจากับทางครอบครัวของน้องถึงกรณีที่เกิดขึ้น แต่ทางครอบครัวน้องกลับไม่ยอมและจะขอดำเนินคดีเอาผิด อีกทั้งยังไล่ตนเองกลับบ้าน เหมือนตนเองเป็นผู้ผิดด้วย ทั้งที่ตนเองไม่ได้รู้เรื่อง

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตนเองกับคนในครอบครัวก็จะต้องให้กำลังใจสามี เพราะเชื่อว่าสามีไม่ใช่คนที่จะมีพฤติกรรมแบบนี้ แต่ที่ทำลงไปเพราะตั้งใจอยากจะให้เด็กกลัว จึงอยากให้สังคมมองสามีของตนเองใหม่ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น น้องเป็นคนเริ่มก่อน ไม่ใช่สามีของตนเอง

ด้านนางสมพร (นามสมมติ) ป้าของเด็กหญิงผู้เสียหาย เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นผู้ก่อเหตุกล่าวอ้างถึงหลานสาว 3 กรณี หลานสาวตื๊อขอมีเพศสัมพันธ์เอง หลานสาวอยากได้เงิน และนายชัยไม่ได้บังคับ แต่หลานยินยอมเอง ตนเองยืนยันว่าคำที่นายชัยกล่าวอ้างเป็นการใส่ร้ายหลานสาวของตนเองมากกว่า เสมือนเอาตัวรอด หลานสาวเป็นเด็กที่ไม่รู้เรื่อง เพราะพิการทางสมองช้ามาตั้งแต่เด็ก

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นตนเองไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะขณะนี้ตนเองกับครอบครัว รวมถึงตัวหลานสาวอยู่ในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ ก็อยากจะให้เรื่องมันจบ ส่วนหลังเกิดเหตุเป็นกระแสข่าวทางฝั่งคู่กรณีไม่มีการมาพูดคุยเจรจาเพิ่มเติม หลังจากนี้ หากคู่กรณีเข้ามาขอโทษ ตนเองก็คงไม่ขอรับและไม่ให้อภัย จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย แล้วเจอกันในชั้นศาล

ด้านนายสุพจน์ นิกูลรัมย์ อายุ 54 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า ส่วนตัวการที่นายชัยกล้าวอ่างว่าเด็กขอมีเพศสัมพันธ์เอง เป็นคำพูดที่เห็นแก่ตัวเกินไป โยนความผิดให้เด็ก ทั้งที่เด็กก็เป็นคนพิการทางสมองช้า เด็กคงจะไม่มีความคิดที่จะไปขอนายชัยมีเพศสัมพันธ์เองได้

ส่วนกรณีเด็กอยากได้เงิน ตนเองคิดว่าที่เด็กอยากได้ก็ไปเรื่องตามประสาของเด็ก เมื่อผู้ใหญ่ให้เด็กก็คงจะรับไว้ อีกทั้งกรณีที่กล่าวอ้างว่า ที่ก่อเหตุเพราะเด็กทำผิดชอบลักขโมยและชอบไปขอเงิน ตนเองคิดว่าคำกล่าวอ้างแบบนี้ฟังไม่ขึ้น หากเด็กดื้อหรือทำอะไรไม่ดี ทำไมไม่มาบอกกับทางครอบครัวเด็กหรือตักเตือนด้วยวาจา ไม่เห็นมีความจำเป็นที่ต้องมีเพศสัมพันธ์เพื่อให้เด็กเกรงกลัว

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้น ตนเองก็อยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี กับนายชัยตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ถือว่าพฤติกรรมไม่เหมาะสม อายุมากแล้วน่าจะมีสามัญสำนึก แต่กลับมาทำอะไรไม่ดีกับเด็กที่พิการทางสมอง สงสารเด็กที่ต้องมาเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระสัง แจ้งข้อกล่าวหานายชัยในความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขืนกระทำชำเราเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี แต่เนื่องด้วยหลังเกิดเหตุทางผู้ก่อเหตุได้มอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ปล่อยตัวผู้ก่อเหตุไว้ชั่วคราว เพื่อรอทางอัยการสั่งฟ้อง ก่อนเตรียมส่งฟ้องศาล จ.บุรีรัมย์ เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป