จากกรณี วันที่ 23 ส.ค. 63 เวลา 17.00 น. ร.ต.อ.วัชรินทร์ มิเร รองสว. (สอบสวน) สภ.กมลาไสย ได้รับแจ้งเหตุพบศพคนจมน้ำ บริเวณลำห้วยน้ำจั้น พื้นที่ ต.ธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ หลังเด็กผู้เสียชีวิตไปเล่นน้ำกับเพื่อน 4 คน
หน่วยกู้ภัยพร้อมด้วยชาวบ้านได้ช่วยกันออกค้นหามาตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำของ วันที่ 22 ส.ค.63 ที่ผ่านมา เกิดเหตุอยู่บริเวณกลางลำห้วยน้ำจั้น พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อ ด.ช.มหาสมุทร อายุ 13 ปี สภาพศพไม่มีบาดแผลตามร่างกาย มีเลือดไหลออกจากช่องจมูก
เจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์เวร ได้ทำการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น ไม่พบบาดแผลตามร่างกายแต่อย่างใด ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจและร่ำไห้ของญาติ และไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต จึงส่งศพผู้เสียชีวิตให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา
ล่าสุดวันที่ 24 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาที่วัดบ้านสะอาดสมศรี หมู่ที่ 15 ต.ธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ สถานที่จัดสวดอภิธรรมศพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีพิธีฌาปนกิจศพในเวลา 15.00 น. เพื่อนบ้าน เพื่อนนักเรียน คุณครู เดินทางมาร่วมงาน
นางวัชราพร มีศิริ อายุ 39 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันที่ 22 ส.ค. 63 ช่วงเช้า ลูกชายออกไปเล่นน้ำกับเพื่อน รวม 5 คน เป็นเพื่อนต่างหมู่บ้านที่เรียนด้วยกัน ที่บริเวณลำห้วยน้ำจั้น ต.ธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์
กระทั่งเวลา 11.00 น. แฟนของลูกชายถือรองเท้าเตะของลูกชายมาให้ตนเองที่บ้าน และเล่าให้ตนเองฟังว่า ได้ไปหาลูกชายที่บริเวณจุดเกิดเหตุ แต่เมื่อไปถึงเจอ แต่รถจักรยานยนต์ และรองเท้าของลูกชายอยู่บริเวณข้างลำห้วย แต่ไม่พบตัว
เมื่อตนเองทราบเรื่องจึงไปที่บริเวณเกิดเหตุ แต่ขณะที่ขี่รถไป เจอเพื่อน ๆ ที่เป็นเล่นน้ำด้วยกันกับลูก ขี่รถจักรยานยนต์สวนออกมาพอดี ตนเองจึงทำการสอบถามว่า "ลูกชายหายไปไหน" เพื่อนของลูกชายก็บอกว่า "หลังจากเล่นน้ำเสร็จ ต่างคนก็ต่างขี่รถแยกย้ายกันออกมา ไม่รู้ว่าไปไหน" ตนเองจึงไม่ได้เอะใจ แล้วออกตามหาลูกชายต่อตามหมู่บ้าน แต่ก็หาลูกชายไม่พบ
จากนั้น ตนเองจึงเดินทางไปแจ้งความคนหาย พร้อมประสานกู้ภัยให้ลองเข้ามาช่วยทำการค้นหาในน้ำ เนื่องจากตนเองคาดว่าลูกชายอาจจะจมน้ำ เพราะลูกชายจอดรถทิ้งไว้ที่บริเวณดังกล่าว ตามคำบอกของเพื่อน
ซึ่งทางกู้ภัยก็มีการช่วยกันงมน้ำระดมคนหาลูกชาย ตั้งแต่ช่วง 16.00-17.00 น. จนพบร่างของลูกชาย ศพลูกลอยห่างออกไปประมาณ 200 เมตร จากจุดที่ลงไปเล่น สภาพศพตัวเขียวซีด มีเลือดไหลออกทางจมูก เจ้าหน้าที่จึงนำร่างของลูกชายนำตัวส่งนิติเวช
หลังจากพบว่าลูกชายของตนเองเสียชีวิต ตนเองจึงไปสอบถามทางกลุ่มเพื่อนของลูกชายที่ไปเล่นน้ำด้วยกันอีกครั้ง โดยครั้งนี้ตนเองพูดกับเด็ก ๆ ว่า "เรื่องที่เกิดขึ้นมีความเป็นมาอย่างไรให้บอกมา แม่จะไม่เอาเรื่องใครสักคน หากเด็ก ๆ ยอมพูดความจริง ขอแค่ให้บอกมา "เมื่อตนเองพูดจบ กลุ่มเด็ก ๆ ที่ไปเล่นน้ำกับลูกชายก็ร้องไห้และเล่าให้ตนเองฟังว่าขณะเกิดเหตุ ลูกชายและเพื่อนรวม 5 คนไปเล่นอยู่บริเวณริมลำห้วยด้วยกันจริง แต่ลูกชายพลัดลื่นตกลงไปน้ำ อีกทั้งยังวายน้ำไม่เป็น ซึ่งเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์พยายามลงไปช่วยแล้ว แต่ก็ไม่สามารถช่วยลูกชายขึ้นมาได้ เพราะน้ำค่อนข้างลึก จึงตัดสินใจพากันขี่รถกลับบ้าน โดยที่ไม่กล้าบอกผู้ใหญ่เพราะเกิดความกลัว
หลังเกิดเหตุ ตนเองและครอบครัวอยู่ในสภาพจิตใจย่ำแย่ ใจสลาย เพราะเหตุเกิดอย่างกะทันหัน ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นกับคนในครอบครัว ตอนแรกตนเองติดใจที่ลูกชายจมน้ำ เพื่อน ๆ ลูกที่ไปเล่นด้วยกันไม่มีใครเปิดปากบอก แต่ตนเองก็เข้าใจว่า ด้วยความเป็นเด็กคงจะตกใจเกิดความกลัว ตนเองจึงไม่อยากติดใจอะไรแล้ว
นายสมพงษ์ (นามสมมติ) ลุงของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ตนเองก็ไม่ได้ติดใจกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ไปเล่นกับหลานชายในวันเกิดเหตุ เนื่องจากเข้าใจว่า เด็กในวัยนี้ค่อนข้างจะมีความคึกคะนองเวลาออกไปเล่นกับเพื่อน อีกทั้งพื้นปูนบริเวณลำห้วยน้ำจั้น ฝายน้ำล้มะต้องมีตะไคร่น้ำที่ทำให้หลานชายอาจลื่นพลัดจมน้ำได้ จึงเข้าใจว่าอาจจะเป็นความประมาท ซึ่งจากการสอบถามกลุ่มเพื่อน ๆ หลานชายก็บอกว่า ขณะเกิดเหตุพยายามที่จะช่วยหลาน แต่บริเวณจุดเกิดเหตุมีปริมาณน้ำค่อนข้างสูง 3 เมตร แต่หลานชายสูงแค่ประมาณ 150 ซม. ตนคิดว่าคงจะไม่คิดที่จะทำร้ายกัน น่าจะเป็นอุบัติเหตุที่พลาดพลั้งมากกว่า
ส่วนประเด็นที่เด็กไม่กล้าที่จะบอกผู้ใหญ่ว่าหลานชายจมน้ำ ตนเองคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเด็ก ๆ อยู่ในสภาวะที่ตกใจกลัว จึงไม่กล้าที่จะบอกเพราะกลัวความผิด อย่างไรก็ตาม เหตุที่เกิดขึ้นเสมือนเป็นอุทาหรณ์เตือนใจคนในครอบครัวให้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด
ตนอยากวอนขอสังคมให้สังคม ควรให้โอกาสเด็ก ๆ ที่ไปเล่นน้ำกับหลานชาย ไม่ควรซ้ำเติม ถึงไปต่อความยาวเรื่องที่เกิดขึ้น หลานชายก็คงไม่ฝื้นขึ้นมา แต่เด็ก ๆ ที่ยังอยู่ ถ้าผู้ใหญ่และสังคมไปตอกย้ำมาก ๆ ก็จะกลายเป็นบาดแผลทำให้เกิดปมต่อตัวเด็กได้
ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่าเหตุที่เกิดขึ้นมีความเชื่อว่าการเสียชีวิตของ ด.ช.มหาสมุทร อาจจะเกี่ยวกับเรื่องสิ่งที่มองไม่เห็นและตัวตายตัวแทน เพราะเมื่อหลายปีก่อนเคย มีหญิงสาวไปเกี่ยวหญ้าให้วัว แต่พลัดลื่นจมน้ำเสียชีวิตอยู่บริเวณนั้น
อีกทั้งบริเวณเถียงนาใกล้กัน ญาติของตนเองที่มีอาการโรคซึมเศร้า ก็เคยไปผูกคอตอยมาแล้ว กระทั่งล่าสุดเด็กจมน้ำเสียชีวิตเป็นรายที่ 3 ตนเองจึงเชื่อว่าอาจเกี่ยวกับตัวตายตัวแทน เพราะมีคนเสียชีวิตบริเวณใกล้กันมาแล้ว 3 ศพ หลังจากนี้ ก็อยากจะฝากเด็กว่าไม่ควรไปเล่นน้ำที่บริเวณจุดเกิดเหตุ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์สูญเสียดังกล่าวซ้ำอีก
