ลุงพลฟีเวอร์ถูกชวนเล่นโฆษณา ตื่นเต้นเข้าห้องอัดร้อง "เต่างอย" ปะทะจินตหรา (คลิป)

23 ส.ค. 63

เมื่อวันที่ 23 ส.ค.63 นายไชย์พล วิภา, นางสมพร หลาบโพธิ์, นางนลิน เงินนาม หรือ แม่ถอน และนางจำลอง แดนกาไสย์ หรือ ยายจำลอง เดินทางมาที่ตัวเมืองสกลนคร เพื่อเข้ามาห้องอัดเสียงเพลง เต่างอย เพื่อเตรียมใช้ในงานที่จะชึ้นเวทีกับ “จินตหรา พูนลาภ”

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่  

533889

ในระหว่างทาง ลุงพลได้เปิดเพลง เต่างอย และร้องมาตามทาง เพื่อซักซ้อมให้ชินกับเนื้อเพลงเต่างอย ซึ่งเมื่อมาถึงห้องอัดเสียง ลุงพลได้เดินเข้าไปด้านในห้องอัด โดยมีอาจารย์เจ้าของห้องอัดเสียง ควบคุมการบันทึกเสียงด้วยตัวเอง

382187

ลุงพลได้ทดสอบเสียง ร้องอยู่ 2-3 รอบ ก่อนออกมานั่งฟังเสียงตัวเอง และขอคำแนะนำจากผู้คุมห้องเสียง หลังจากนั้นเข้าไปอัดจริงง โดยลุงพล ร้องเพลงค่อนข้างมืออาชีพ สามารถร้องได้จบเพลงและสมบูรณ์เพียงไม่กี่รอบเท่านั้นก็สามารถผ่านได้

399014

ทีมข่าวสอบถาม นายจินดา อ่อนคำหล้า เจ้าของจินดาสตูดิโอ จ.สกลนคร เจ้าของห้องอัด ระบุว่า การบันทึกเสียงของลุงพล เป็นคนที่มีพรสวรรค์ มีทักษะการร้องเพลงได้ดี ซึ่งลุงพลไม่เคยมาที่นี่ ไม่เคยเข้าห้องอัด แต่ถือว่าทำได้ดี เพราะมือใหม่ส่วนใหญ่จะต้องอัดเสียงไปทีละท่อน แต่ลุงพลสามารถอัดเสียงยาวทีเดียวได้ อาจจะมีการแก้ไขทีละจุด เพียงเล็กน้องเท่านั้น หากลุงพลจะเป็นศิลปิน ตนมองว่าสามารถทำได้ ตนติดตามข่าวอยู่ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก หากลุงพลจะเอาดีด้านนี้ก็คิดว่าทำได้ เพราะเสียงมีลูกคอ น่าจะไปได้ดี

980361

ลุงพล เปิดเผยหลังการร้องเพลง ระบุว่า นี่คือการเข้าห้องอัดครั้งแรกในชีวิต ตนก็ดีใจ เพราะมีโอกาสได้มาร้องเพลงของศิลปินที่ดัง ตนยอมรับว่าตื่นเต้นอยู่บ้าง โดยเฉพาะการออกเสียงที่ชัดเจน มันต่างจากการร้องคาราโอเกะ ตนไม่ได้เกร็งอะไรมาก เพียงแต่จะต้องปรับการออกเสียง ตนเคยเห็นห้องอัดแต่ในทีวีที่ศิลปินเขาทำกัน เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ตนได้อัดเสียง อีกอย่างเป็นเพลงผู้หญิงด้วย

ทั้งนี้ส่วนตัวอยากบอกพี่จินตหรา ขณะขึ้นเวทีขอให้ช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้ตนด้วย ตนก็จะเต็มที่ในคอนเสิร์ตวันนั้น เรื่องนี้ถือว่าทำให้คนเองคลายเครียดไปมากพอสมควร และหวังว่าภายภาคหน้าจะมีแต่เรื่องราวดี ๆ เข้ามาในชีวิตของตนและครอบครัว

655731

หลังจากอัดเสียงแล้วเสร็จ ผู้จัดการของจินตหรา ได้พาลุงพล เดินทางมาซื้อชุดเพื่อขึ้นร้องเพลงในวันงานที่ ถนนผ้าคราม ข้างพระธาตุเชิงชุม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของ จ.สกลนคร ซึ่งระบุว่าต้องการให้ใส่ชุดที่เป็นผ้าพื้นเมืองของจังหวัดสกลนคร โดยลุงพลได้เสื้อเชิ้ต ส่วนป้าแต๋นก็ได้เสื้อผ้าครามเช่นกัน

760806

จากนั้นลุงพล ป้าแต๋น มาไหว้พระธาตุเชิงชุม โดยได้รับความสนใจจากชาวบ้านที่เดินทางมากราบสักการะที่วัดเป็นจำนวนมาก เข้ามาขอถ่ายภาพ และให้กำลังใจ รวมทั้งลุงพลได้ทำบุญถวายกระเบื้อง โดยเขียนอุทิศกุศลให้กับน้องชมพู่ นอกจากนี้พระอาจารย์ที่วัดได้มอบสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ลุงพล จำนวน 3 ใบ 143222 (2 ใบ) และ 219122 (1 ใบ)

บรรยากาศที่หน้าบ้านลุงพล เป็นไปอย่างคึกคัก มีคนต่างพื้นที่มาเยี่ยมลุงพลเป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะไม่ได้เจอกับลุงพล ชาวบ้านก็จะรวมตัวถ่ายรูปกับป้ายหน้าบ้านลุงพลเพื่อเก็บเป็นที่ระลึก ซึ่งวันนี้ได้มีพ่อค้าแม่ค้ามานั่งแผงขายของให้นักท่องเที่ยว มีทั้งขายหน่อไม้, เสื้อ, ลอตเตอรี่ และผลไม้

923271

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางลำไย ป่าบำรุง แม่ค้าขายผลไม้ เปิดเผยว่า น้องสาวของตนได้เดินทางมาจากอำเภอนาสาร จังหวัดสุราษฏร์ธานี เพื่อมาให้กำลังใจลุงพล จึงตัดสินในขนเงาะน้ำหนัก 1 ตัน มาด้วย หวังว่าจะได้ขายระหว่างทาง เพื่อหาเงินจ่ายค่าน้ำมันตอนเดินทางกลับ

อย่างไรก็ตาม วันนี้ก็ขายเงาะค่อนข้างได้เยอะ เพราะมีคนมารอให้กำลังใจลุงพลค่อนข้างมาก ซึ่งตนก็ดีใจกับลุงพลที่มีคนมาให้กำลังใจ และจากที่ตนดูข่าว ก็รู้สึกสงสารลุงพล

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี รายงานเพิ่มเติมว่าที่บ้านลุงพล ซึ่งพบว่าหลังจากลุงพลกลับมาจากการบันทึกเสียง ได้กลับมาที่บ้าน โดยมีชาวบ้านบางส่วนมารอ

696060

นางเจนจิรา เพ็ญพิชัย เจ้าของผลิตภัณฑ์ยาสีฟันสมุนไพร เปิดเผยว่า ตนมารอลุงพลตั้งแต่ 09.00 น. โดยเดินทางมาจาก จ.กาฬสินธุ์ ได้พบลุงพลก็เกือบ 18.00 น. รอประมาณ 9 ชั่วโมง เพราะตนตั้งใจเดินทางมาเพื่อติดต่อลุงพลรีวิวสินค้า และเป็นพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์ยาสีฟันสมุนไพร

ในเบื้องต้นได้คุยกับลุงพล และเอาตัวอย่างผลิตภัณฑ์มาให้ลุงพลได้ทดลองใช้ แต่ลุงพลยังไม่ได้รับปากจะรับงานนี้ เนื่องจากต้องขอทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ก่อน และจะให้คำตอบหลังงานที่ไปร้องเพลงกับจินตหรา

ทั้งนี้ส่วนตัวก็มีความหวังว่าลุงพลจะตอบรับผลิตภัณฑ์ สาเหตุที่ตนเลือกลุงพล เพราะเห็นลุงพลเป็นคนตรง ๆ เป็นคนจริง ซึ่งตรงกับผลิตภัณฑ์ของตน โดยมีงบในการให้ลุงพลรีวิวอยู่ที่ ประมาณ 10,000 บาท

บรรยากาศครอบครัวของน้องชมพู่ วันนี้เป็นวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุด น้องสะดิ้งก็ออกจากบ้านไปอยู่บ้านตายายตั้งแต่เช้าจนเที่ยงก็กลับมาอยู่ที่บ้าน ส่วนน้าแตไปให้อาหารสัตว์ที่นา

113604

ขณะเดียวกันในช่วงเที่ยง น้าเสริมและน้าต่าย ก็เดินจูงวัวตัวเมียไปลานข้าง ๆ ศาลหลักบ้าน เพื่อติดต่อกับเจ้าของวัวอีกราย เพื่อผสมพันธุ์วัว หลังจากนั้นก็กลับมานั่งพักผ่อนที่บ้าน กระทั่งเวลา 15.40 น. น้าต่ายและน้าเสริมได้ออกไปเกี่ยวหญ้าให้วัว

ด้านพ่อแม่ของน้องชมพู่ ก็อยู่บ้านตลอดทั้งวัน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีคนเดินทางมาเยี่ยมค่อนข้างน้อย โดยวันนี้ช่วงเที่ยงได้มีชาวบ้านจากอำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี เดินทางมาให้กำลังใจและร่วมถ่ายรูปกับพ่อแม่ของน้องชมพู่ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น

โดยตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าพ่อแม่น้องชมพู่ไม่ได้ออกไปไหน นั่งเฝ้าช่างก่อสร้างห้องน้ำ ซึ่งวันนี้ได้มีการปูกระเบื้องไปส่วนหนึ่งแล้ว และต้องฉาบผนังเพิ่มอีกบางส่วน ซึ่งช่างให้ข้อมูลว่าการก่อสร้างน่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 วัน

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้จำลองเดินผ่านกล้องหน้ารถน้าเสริม โดยให้น้าเสริมจอดรถไว้ที่ลานจอดและสตาร์ตรถเอาไว้ ซึ่งทีมข่าวทดลองเส้นทางเดินของคนร้าย เดินผ่านหน้ารถโดยที่ไม่ตากผ้าไว้ที่ราว ซึ่งกล้องหน้ารถสามารถบันทึกและเห็นคนที่เดินผ่านได้อย่างชัดเจน

420414321119

ต่อมาทีมข่าวได้นำผ้ามาตากไว้ที่ราว และเดินผ่านอีกครั้ง ก็พบว่ากล้องก็จะสามารถบันทึกและเห็นการเดินผ่านได้ หลังจากนั้นทีมข่าวได้จำลองเดินบนถนนในซอยบ้านของน้องชมพู่ พบว่ากล้องหลังสามารถบันทึกและเห็นทีมข่าวได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากตรงกับท้ายรถนั้นมีพุ่มไม้บังอยู่ ซึ่งน้าต่ายก็ให้ข้อมูลในช่วงที่น้องชมพู่หายไปพุ่มไม้ก็มีความสูงประมาณ 1 เมตร ซึ่งเท่ากับในตอนนี้

620966

อย่างไรก็ตาม กล้องหน้ารถและหลังรถจะทำงานก็ต่อเมื่อติดเครื่องยนต์ไว้เท่านั้น ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นเครื่องยนต์รถไม่ได้ทำงานในช่วงที่น้องชมพู่หายไป นอกจากนี้กล้องหลังรถไม่สามารถจับภาพได้ถึงจุดที่น้องชมพู่หายไป หากคนร้ายเดินมาจากฝั่งสวนมันสำปะหลังของยายจำลอง กล้องก็ไม่สามารถบันทึกหรือจับภาพเอาไว้ได้เลย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม