อุทาหรณ์! ลืมปิดวาล์วถังแก๊ส บึ้มสนั่นอัดร่างกระเด็นคลอก 5 ชีวิต หนูน้อย 6 ขวบโคม่า (คลิป)

19 ส.ค. 63

จากกรณีเกิดเหตุแก๊สรั่วและเกิดระเบิดขึ้นภายในห้องแถว เลขที่ 54 หมู่ 9 ตำบลสวนดอกไม้ อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย คือ ด.ญ.ศิรินทิพย์ เย็นจิตร์ หรือน้องน้ำเพชร อายุ 6 ปี ด.ญ.กาญจนาภา สัตยาคุณ อายุ 8 ปี น.ส.ศิราณี เย็นจิตร์ อายุ 41 ปี น.ส.รุ่งอรุณ สาคเรศ อายุ 46 ปี และนายชวัลวิทย์ เย็นจิตร์ อายุ 33 ปี ซึ่งทั้งหมดได้ถูกนำตัวส่ง รพ.สระบุรี ก่อนที่ทางโรงพยาบาลสระบุรีจะส่งตัวด.ญ.ศิรินทิพย์ เย็นจิตร์ หรือน้องน้ำเพชร ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และส่งตัวนายชวัลวิทย์ เย็นจิตร์ ไปรักษาตัวต่อที่ โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี

829457

ล่าสุดวันที่ 19 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พบลักษณะเป็นบ้านพักคนงานปลูกติดกัน 10 หลัง ด้านในห้องพักที่เกิดเหตุถูกไฟไหม้และเปลวเพลิงลามเลียไปทั้งหลัง โดยมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจพื้นที่ พร้อมทั้งหาแนวทางการช่วยเหลือ

214450

ส่วนสาเหตุคาดว่าหลังจากที่มีการหุงหาอาหารในช่วงเช้า เจ้าของห้องอาจลืมปิดแก๊ส ทำให้แก๊สรั่วออกมา เมื่อเวลาผ่านไปแก๊สที่ไหลออกมาจากถังดันให้สายแก๊สหลุดและไหลซึมออกมาทั่วห้อง พอช่วงเกิดเหตุ น.ส.รุ่งอรุณ สาคเรศ น้องสะใภ้ได้เข้ามาในห้อง และเปิดไฟทำให้กระแสไฟเกิดปฏิกิริยากับแก๊สที่ลอยอยู่ในอากาศ จนเกิดระเบิดขึ้นนั้นเอง

ทั้งนี้การเข้าตรวจสอบพื้นที่ในวันนี้ ทางฝ่ายปกครองจะนำเรื่องกลับไปหารือกันอีกครั้งว่า จะมีแนวทางการช่วยเหลือในเรื่องความเป็นอยู่ และค่ารักษาว่าจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง

645515906482

สำหรับอาการของผู้บาดเจ็บทั้ง 5 รายดังนี้ 

1.ด.ญ.ศิรินทิพย์ เย็นจิตร์ หรือน้องน้ำเพชร อายุ 6 ปี (ลูกสาวเจ้าของห้อง) ถูกเพลิงไหม้ประมาณ 90 เปอร์เซนต์ มีบาดแพ้บริเวณหลัง แขนทั้ง 2 ข้าง และใบหน้า พักรักษาตัวที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลจุฬาฯ

2.ด.ญ.กาญจนาภา สัตยาคุณ อายุ 8 ปี (หลานเจ้าของห้อง) ไม่ได้ถูกเพลิงไหม้ถึงผิวหนัง แต่ถูกเพลิงไหม้ผมด้านหลัง ขนคิ้ว และขนจมูก น้องหายใจเอาแก๊สเข้าไปทำให้เปลวเพลิงลวกขนจมูก แพทย์ให้นอนดูอาการเนื่องจากผู้ป่วยสูดเอาแก๊สเข้าไปในร่างกาย นอนพักรักษาตัวอยู่แผนกเด็ก โรงพยาบาลสระบุรี

3.น.ส.ศิราณี เย็นจิตร์ อายุ 41 ปี (เจ้าของห้อง) อาการถูกเพลิงไหม้ 55 เปอร์เซนต์ มีบาดแผลที่ใบหน้า แผนหลัง ลำคอ แขนทั้ง 2 ข้าง เท้าและขาด้านซ้าย พักรักษาอยู่ห้องผู้ป่วยรวม ที่โรงพยาบาลสระบุรี

4.น.ส.รุ่งอรุณ สาคเรศ อายุ 46 ปี (น้องสะใภ้เจ้าของห้อง อาการหนักที่สุด) ถูกเพลิงไหม้ไปทั้งตัว 99 เปอร์เซนต์ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสระบุรี

5.นายชวัลวิทย์ เย็นจิตร์ อายุ33ปี (น้องชายเจ้าของห้อง) ถูกเพลิงไหม้ที่ลำตัวประมาณ 30 เปอร์เซนต์ มีบาดแผลที่แผนหลัง แขนทั้ง 2 ข้าง และขาทั้ง 2 ข้าง และใบหน้าเล็กน้อย ต้องสอดท่อช่วยหายใจเนื่องจากหายใจเองไม่สะดวก พักรักษาตัวที่ห้องพักรวม โรงพยาบาลโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี

669930

น.ส.ศิราณี เย็นจิตร์ เจ้าของห้องที่พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วยหญิง สามารถลถกนั่งพูดคุยได้ตามปกติ แต่ร่างกายยังมีบาดแผลที่เกิดจากความร้อน ทำให้ผิวหนังลอก และพุพอง โดยเจ้าตัวเปิด เผยกับทีมข่าวว่า เมื่อวานตอนเช้าก่อนเกิดเหตุ ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งน้องน้ำเพชร ลูกสาวที่โรงเรียน จากนั้นก็กลับไปทำงานที่โรงงาน พอช่วงเที่ยงก็กลับมากินข้าวที่ห้องพักโดยการทอดไข่เจียว เมื่อทอดเสร็จก็ปิดเตาแก๊ส แต่คาดว่าน่าจะลืมปิดวาล์วที่ถังแก๊ส หลังจากนั้นตนก็ออกจากบ้านไปทำงานต่อที่โรงงาน

901207

กระทั่งช่วงเย็นตนกับน.ส.รุ่งอรุณ หรือน้องสะใภ้ ก็ได้ขับรถไปรับลูกสาวของตนที่โรงเรียน และไปตลาดเพื่อซื้อของสดเพื่อทำกับข้าว เมื่อถึงบ้านตนเห็นน้องสะใภ้ซื้อของสดมาเยอะ แต่ที่ห้องไม่มีตู้เย็น ตนจึงเอ่ยปากว่าให้เอาของสดไปฝากแช่ไว้ที่ตู้เย็นของตนภายในห้อง จากนั้นน้องสะใภ้ก็เอากุญแจไปเปิดห้องตน โดยมีน้องน้ำเพชรลูกสาวของตนวิ่งตามเข้าไป ส่วนตนก็กำลังจอดอยู่หน้าบ้าน ทันทีที่น้องสะใภ้กดเปิดสวิตซ์ไฟ ก็มีเสียงพึบขึ้นมาพร้อมเปลวเพลิงที่พุ่งออกมานอกห้อง และแรงของระเบิดก็ผลักตนและน้องชายกระเด็นออกไปจนแน่นหน้าอก

cg_10

จากนั้นตนก็วิ่งเข้าไปอุ้มลูกสาวออกมาจากองเพลิง ส่วนน้องชายก็เข้าไปอุ้มน้องสะใภ้ออกมา จากนั้นเพื่อนบ้านก็เข้ามาช่วยเหลือและเรียกรถกู้ภัยมา ระหว่างที่รอรถกู้ภัย ลูกสาวตนได้แต่ร้องและบ่นว่าเจ็บ เนื้อตัวมีรอยไหม้ และบอกว่าแม่หนูง่วง หนูจะหลับแล้ว ซึ่งตนก็ได้แต่ปลอบลูก และพยายามเรียกไม่ให้ลูกหลับ ส่วนน้องสะใภ้ ตอนที่น้องชายอุ้มออกมาก็ยังสามารถพูดได้ ถึงแม้ว่าเนื้อตัวผิวหนังจะถูกไฟไหม้ และลอกออกทั้งตัว

โดยน้องสะใภ้ที่หนุนตักน้องชายพูดว่า "ตัวเองเขาจะเป็นอะไรไหม เขาจะตายหรือเสียโฉมไหม" ซึ่งน้องชายก็ได้แต่ปลอบว่า ไม่เป็นอะไร ต่อให้เสียโฉมก็ยังรัก ตอนนั้นทำอะไรไม่ได้จริง ๆ ได้แต่ให้กำลังใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เริ่มมีอาการแน่นหน้าออก หายใจไม่ค่อยออก ทั้งนี้หลังจากนี้ตนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร คงอยู่กับพี่ชายไปก่อน แต่ตอนนี้เป็นห่วงลูกมาก ได้แต่ภาวนาอย่าให้เป็นอะไรมาก อยากให้เขาหายไว ๆ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส