จบชีวิตคู่รักต่างวัย เขียนจดหมายตัดพ้อก่อนซดยาพิษตายคู่ หลังถูกครอบครัวกีดกัน (คลิป)

16 ส.ค. 63

จากกรณีนายเอกชัย สุภิษะ อายุ 41 ปี หรือช่างชัย อาชีพรับเหมาทั่ว และน.ส.ปวีณา ใบแก้ว อายุ 28 ปี ภรรยาสาว นอนเสียชีวิต ข้างเตียงนอน ในลักษณะนายเอกชัยนอนกอดภรรยา

409165518316

โดยในที่เกิดเหตุพบว่ามีกระป๋องเบียร์​ กระป๋องน้ำดื่มอัดลม​ 3-4​ กระป๋อง​ ถูกเปิดไว้และดื่มจนหมด​ นอกจากนี้ยังมีจดหมายลาตาย จำนวน 4 - 5 แผน คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 16 ชั่วโมง เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 4/26 หมู่ 7 ซอยเพิ่มสิน 34 ถนนเพิ่มสิน แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ 

411564

ล่าสุดวันที่ 16 ส.ค.63 เวลา 13.00 น. ที่นิติเวชโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช แม่และญาติ ๆ ของน.ส.ปวีณา ใบแก้ว ได้เดินทางมารับศพเพื่อไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ที่ จ.สุรินทร์บ้านเกิด โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามว่าติดใจการเสียชีวิตในครั้งนี้หรือไม่ ร่วมไปถึงประเด็นที่มีการกรีดกันฝ่ายชาย จนเป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมความรักครั้งนี้ว่าเป็นความจริง แต่ทางญาติปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ และไม่อนุญาตให้ทีมข่าวถ่ายภาพ

988071

ขณะเดียวกันนางเจน (นามสมมติ) น้องสาวของนายเอกชัย และญาติก็ได้เดินทางมารับศพผู้ตายไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดสุรินทร์ บ้านเกิดเช่นเดียวกัน โดยนางเจน เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ปกติพี่ชายจะกลับบ้านนาน ๆ ครั้ง หรือหากมีโอกาสพิเศษก็จะเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้าน แต่เวลากลับบ้านก็จะไปอยู่ที่บ้านภรรยาที่อยู่ต่างอำเภอ โดยล่าสุดพี่ชายเพิ่งกลับบ้านไปเมื่อวันที่ 7 ส.ค.63 ที่ผ่านมา โดยเล่าให้ตนฟังว่ากลับบ้านไปเพราะภรรยาเรียกให้กลับไปเคลียร์กับญาติ เนื่องจากมีปัญหากันมานานแล้ว แต่รายละเอียดตนไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน แต่น้ำเสียงที่พี่ชายพูดกับตนวันนั้นไม่ดีเลย เพราะพูดไปร้องให้ไป ประมาณว่ามีปัญหากันภายในครอบครัวถึงกลับจะเลิกลากัน แต่ตนไม่รู้สาเหตุ และไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับมีชายอื่นมาติดฝ่ายหญิงหรือไม่

151933

ข้อความในจดหมาย ระบุว่า "เคยสัญญาจะอยู่ด้วยกันชั่วฟ้าดินสลาย สรุปแล้วมันเป็นเช่นนี้ไหม งั้นเราแบ่งกันคนละครึ่ง ตายไปด้วยกัน ไม่แยกจากกัน"

ทั้งนี้พี่ชายคบหากับผู้หญิงคนนี้มานานกว่า 10 ปี ตั้งแต่ผู้หญิงยังเรียนไม่จบ มาอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา จนเรียนจบมีงานทำ และแต่งงานกัน ซึ่งพิธีแต่งงานก็มีการจัดใหญ่ ทุกคนรับรู้ เพราะแต่งที่บ้านฝ่ายหญิง ญาติทั้ง 2 ฝ่ายรับรู้ ในวันแต่งงานญาติฝ่ายหญิงก็ต้อนรับขับสู้ดี ไม่มีท่าทีรังเกียจพี่ชายตนเลย

535328

นายนายเรวัต อ้อยแก่ เพื่อนสนิท และเป็นเพื่อนบ้านของผู้ตาย เปิดเผยว่า ผู้ตายคบกับภรรยาคนนี้มานานตั้งแต่ฝ่ายหญิงยังเรียนไม่จบ จนกระทั่งฝ่ายหญิงเรียนจบก็แต่งงานกัน เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว จัดขึ้นที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งตนก็ไปร่วมงาน ไม่เห็นมีอะไรที่ผิดสังเกต ฝ่ายหญิงก็ตอนรับขับสู้ดี ไม่ได้รังเกียจผู้ตาย หลังจากแต่งเสร็จกลับมาอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ แต่เนื่องจากฝ่ายชายได้งานรับเหมาะที่จังหวัดเพชรบุรี จึงต้องไปอยู่ที่ทำงาน จะกลับบ้านอาทิตย์ละครั้ง

ส่วนฝ่ายหญิงหลังเรียนจบก็ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งย่านรังสิต ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยทั้ง 2 คนก็ไม่เห็นว่าจะมีเรื่องทะเลาะอะไรกัน จนก่อนวันเกิดเหตุผู้ตายได้เดินมากินข้าวที่บ้านตน พร้อมเล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า ยังไม่ได้กินข้าว 6 มือแล้ว เพราะเดินทางกลับจาก จังหวัดเพชรบุรี เพื่อมาหาภรรยาที่บ้านหลังเกิดเหตุ จากนั้นพาภรรยากลับไปบ้านที่จังหวัดสุรินทร์ ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะเดินทางกลับมาที่บ้านเกิดเหตุเพียงลำพัง ขณะที่ผู้ตายกำลังกินข้าวก็ร้องให้ไปกินข้าวไป พร้อมบอกกับตนว่าถูกหลอกให้ไปจังหวัดสุรินทร์ โดยเมื่อไปถึงก็มีการจัดพานดอกไม้ธูปเทียน คล้ายกับการให้ไปขอขมา หรือขอให้เลิกกัน ตนก็ไม่แน่ใจ เพราะไม่เข้าใจประเพณีเหมือนกัน และผู้ตายยังพูดอีกว่าจะต้องเลิกกับภรรยาแล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าด้วยสาเหตุอะไร ซึ่งในค่ำวันนั้นหลังกินข้าวเสร็จผู้ตายก็กลับไปนอนที่บ้าน

cg_5

ทั้งนี้ในช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค.63 ผู้ตายกลับมาจากที่ทำงาน ส่วนภรรยาของผู้ตายอยู่ในบ้าน เมื่อผู้ตายขับรถผ่านหน้าบ้านตนที่กำลังตั้งวงกินเหล้า ผู้ตายก็พูดว่า วันนี้ไม่ได้กินเหล้าด้วยกัน เพราะต้องไปทำธุระ จากนั้นผู้ตายก็เดินเข้าบ้านไปเลย กระทั่งบ่ายวันที่ 15 ส.ค.63 เพื่อนของภรรยาผู้ตาย ได้เดินทางมาช่วยเก็บของย้ายบ้าน แต่กลับมาพบว่าทั้งคู่กลายเป็นศพไปเสียแล้ว

797746116622

ในขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบเฟซบุ๊กของผู้ตาย พบว่าก่อนที่จะพบศพ ผู้ตายได้โพสต์รูปในเฟซบุ๊กว่า "บางทีคนเราทำไมต้องอารมณ์เสียให้กันตลอดเวลา ทำไมไม่คุยกันดี ๆ เหนื่อยนะ ยอมแล้วทุกอย่างเด้อ" และข้อความต่อมาได้โพสต์รูปคู่ ซึ่งเป็นภาพพรีเวดดิ้ง พร้อมข้อความว่า "ไม่เคยลืม ขอบใจนะที่เคยรักกันตลอดมา"

360224

และโพสต์สุดท้ายเป็นการโพสต์รูปพรีเวดดิ้ง 2 ภาพ มีข้อความว่า "ข้อให้ทุกอย่างจบแค่นี้ เราะจะอยู่ด้วยกันชั่วนิรันดร" ซึ่งภาพที่โพสต์ภาพแรกเป็นภาพสีปกติ พร้อมข้อความในภาพใจความประมาณว่า ด้วยระยะทางการทำงานที่อยู่ไกลกัน ทำให้ใจของภรรยาเปลี่ยนไป ครั้นจะกลับมาดูแลเหมือนเดินก็ไม่ทันเสียแล้ว 10 ปีที่รักกัน" ส่วนภาพที่ 2 เป็นภาพพรีเวดดิ้งเหมือนกัน แต่เป็นสีขาวดำ พร้อมข้อความในภาพว่า "RIP เอกชัย และน้องใบบัวขอให้ดวงวิญญาณเราสอง เดินทางไปสู่โลกที่เราไม่มีวันแยกจากกัน"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม