แม่น้องป่าน 6 ขวบ รับสารภาพ ตีลูกน่วมทำคนเดียว ป้องผัวไม่เกี่ยว บอกตีแค่สั่งสอน  (คลิป)

จากกรณี น้องป่าน เด็กชายวัย 6 ขวบ ถูกผู้เป็นแม่ และแฟนใหม่ ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง นอกจาก จะถูกทุบตีด้วยแข็งแล้ว เด็กยังถูกบุหรี่จี้ตามร่างกาย โดยวันนี้ (19 ม.ค.61) นายแป๊ะ อายุ 34 ปี พ่อเลี้ยงของน้องป่าน ได้เปิดเผยตัวตนและความจริง ทั้งหมดผ่านอมรินทร์ทีวี ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บของน้องแต่อย่างใด

ในเวลาต่อมา น.ส.วราภรณ์ ชิดชอบ หรือ น.ส.เอ แม่ของน้องป่าน ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนายแป๊ะมาประมาณ 4-5 ปี แต่พอมาเดือน ต.ค. 60 ตนได้คบหากับ นายแป๊ะ ในฐานะแฟน ที่ผ่านมาตนได้พาลูก ไปเล่นที่บ้านของนายแป๊ะ อยู่เป็นประจำ เพราะนายแป๊ะ เป็นคนเจ้าระเบียบ เชื่อว่าสามารถสั่งสอนลูกเราได้ นอกจากนี้ น.ส.วราภรณ์ ยังเล่าพฤติกรรมของนายแป๊ะให้ฟังว่า นายแป๊ะเป็นโรคมะเร็งในแกนสมอง หากเครียดมาก จะเกิดอาการวูบ หรือบางครั้งพฤติกรรมจะเปลี่ยนไปเป็นเด็กทันที

สำหรับเรื่องอาวุธปืนนั้น น.ส.วราภรณ์ ยอมรับว่า นายแป๊ะ มีอาวุธปืนในครอบครองจริง แต่ไม่เคยนำไปข่มขู่ หรือหาเรื่องใคร เพราะนายแป๊ะ เป็นอาสาสมัครกู้ภัย ส่วนเรื่องยาเสพติดหลังจากพ้นโทษ นายแป๊ะไม่ได้แตะต้องยาเสพติดอีกเลย ขณะเดียวกัน น.ส.วราภรณ์ ยืนยันว่า นายแป๊ะไม่เคยทำร้าย หรือใช้บุหรี่จี้ลูกชายของตน ส่วนมากแค่ตีสั่งสอน สำหรับบาดแผลในตัวลูกทั้งหมด ตนเป็นคนลงมือตีเอง เนื่องจากน้องป่านไม่เชื่อฟัง และมักจะทำตามใจตนเองเสมอ จนบางครั้งไม่รู้จักผิดถูก ด้านบาดแผลที่ขาทั้ง 2 ข้าง ไม่มีใครทำร้าย แต่น้องป่านถูกไฟดูด น้องป่านน้ำเหลืองไม่ดี ทุกครั้งที่มีแผลตามตัว ไม่ว่าจะเล็กแค่ไหน แผลก็จะลุกลามได้ง่าย น.ส.วราภรณ์ ยืนยันอีกว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการเข้าใจผิดกันระหว่างตน และนางวิไล ชิดชอบ มารดาของตน หรือยายของน้องป่าน ตนได้พูดคุยกับนายแป๊ะ ว่า "ไม่ต้องห่วง พูดตามความจริงได้เลย" ตนก็ไม่เข้าใจว่า นางวิไล ให้ข่าวแบบนั้นได้อย่างไร วันนี้ตนจึงเดินทางไปที่ สภ.สามพราน ก่อนจะถูกคุมตัวมาที่ สน.ลำผักชี เพื่อชี้แจงความจริงให้สังคมได้รับทราบ

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้นำภาพของนายแป๊ะ กับ น.ส.เอ ให้ นายบัง (นามสมมติ) พนักงานบริษัทซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านของนายแป๊ะ ดู เมื่อเห็นภาพแล้ว นายบัง ได้เล่าว่า ตนมาทำงานที่นี่หลายปีแล้ว ล่าสุด เห็นว่ามีผู้หญิงเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวก่อนจะย้ายออกไป โดยเมื่อราวเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เห็นว่า มีชายตัวเล็กๆ มีรอยสักเต็มตัว ท่าทางเหมือนติดยาเข้ามาอยู่ในบ้าน ขับรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ 4 ประตู สีขาว ไม่ทราบทะเบียน ติดสติกเกอร์ "ให้แสงสว่าง" ดูคล้ายๆ มูลนิธิ นายบัง กล่าวต่อไปว่า ปกติเห็น นายแป๊ะ เป็นคนเงียบๆ ชอบเก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ชอบถอดเสื้อ ใส่แต่กางเกงขาสั้นเดินไปร้านสะดวกซื้อเป็นประจำ และชอบขับรถเร็วในหมู่บ้าน ส่วนหญิงสาวที่มาอยู่ด้วยนั้น มาอยู่ที่บ้านของ นายแป๊ะ เมื่อช่วงปีใหม่ มาพร้อมกับเด็กชายอายุประมาณ 6 ขวบ ซึ่งมีคนเล่าให้ตนฟังว่า "เคยได้ยินเสียงเด็กร้อง" จากบ้านหลังนี้ หลังจากนั้นก็ไม่เห็นคนในบ้านอีกเลย กระทั่งเป็นข่าวถูกแจ้งจับ