วันที่ 11 ส.ค. 63 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ร.ต.อ.กุลธวัช รวมจิตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี รับแจ้งมีรถชนกันบนถนนคู่ขนานเลียบถนนมอเตอร์เวย์ ขาเข้าพัทยา ช่วงก่อนถึงสำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 หมู่ 7 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี มีผู้เสียชีวิตจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวร รพ.ชลบุรี และกู้ภัยไตรคุณธรรม
พบศพนายนิพนธ์ มั่นศรี อายุ 55 ปี สภาพซี่โครงหัก ศีรษะแตก อยู่ในร่องระบายน้ำ กู้ภัยฯนำร่างขึ้นมาแล้ว ห่างไปพบรถจักรยานยนตร์พ่วงข้าง ยี่ห้อซูซูกิ โชกัน สีดำ ทะเบียน ขจษ 340 ศรีสะเกษ สภาพพังยับติดกับราวปูนกั้น ต้นไม้ประดับแตกกระจายเกลื่อน โดยมีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บท 1849 ชลบุรี ชนรถจักรยานยนต์คาอยู่
นายคมสัน อายุ 35 ปี คนขับรถกระบะ อ้างว่าทำงานในนิคมทองโกล์ว กำลังจะกลับบ้าน ถึงที่เกิดเหตุมีสายโทรศัพท์เข้ามา กำลังจะหยิบรับสาย แต่โทรศัพท์หล่นลงพื้นรถ ตนจึงก้มลงเก็บ เมื่อเงยหน้ามารถกระบะก็ชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างกระเด็นแล้ว ซึ่งตนขับรถความเร็ว 50 กม./ชม.
พนักงานสอบสว นสภ.เมืองชลบุรี ระบุว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ด้านนางจันทิมา สายประศูนย์ อายุ 48 ปี น้องภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อเวลา 07.44 น. รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่าพี่เขยประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ตนจึงรีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลชลบุรี โดยทราบเหตุการณ์คร่าว ๆ ว่ามีรถกระบะขับมาชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างของนายนิพนธ์ จนร่างกระเด็นตกลงไปในร่องน้ำข้างถนน ซึ่งคู่กรณีก็ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่าก้มลงไปเก็บโทรศัพท์จนเกิดอุบัติเหตุ
โดยนายนิพนธ์ เป็นชาวจังหวัดศรีษะเกศ และมาทำงานขายต้นไม้ที่ชลบุรีเป็นรอบ ๆ รอบละ 1-2 เดือน คาดว่าช่วงเกิดเหตุเจ้าตัวน่าจะกำลังออกไปขายต้นไม้ ซึ่งปกตินายนิพนธ์เป็นคนขับรถช้า และระมัดระวังมาก ส่วนตัวคิดว่าคู่กรณีน่าจะใช้ความเร็วมากกว่า 100 กม./ชม. ทำให้ชนแล้วร่างนายนิพนธ์กระเด็นไปตกข้างทางได้
โดยหลังเกิดเหตุทางคนขับก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว และแม่ของคนขับก็นำเงินมามอบให้เบื้องต้นจำนวน 20,000 บาทแล้ว โดยระบุว่า หากจัดงานศพเสร็จสิ้นจะพูดคุยเรื่องการเยียวยาอีกครั้ง ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจ เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ
