ปิดคดี “ณิชา” ไม่เกี่ยวแก๊งโรแมนซ์สแกม ด้านกรมการปกครองชี้ บัตรหายเช็คได้ง่าย (คลิป)

จากกรณีที่มีการเสนอข่าวเกี่ยว คนร้ายลักบัตรประจำตัวประชาชนของ น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ไปเปิดบัญชีธนาคาร 7 ธนาคาร 9 บัญชี แล้วนำบัญชีไปใช้หลอกลวงเหยื่อให้โอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว กระทั่งมี ผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กรณีถูกคนร้ายหลอกลวงให้อนเงินค่าธรรมเนียมเข้าบัญชีธนาคารทหารไทยและบัญชีอื่นอีก ซึ่งเป็นชื่อของ น.ส.ณิชา รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 1,370,000 บาท ต่อมา น.ส.ณิชา ได้ถูกจับกุมตัว และให้การว่าตนไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำ ความผิดดังกล่าว และไม่เคยเปิดบัญชีธนาคารธนาคารทหารไทยเลขที่ 1382814117  นอกจากนั้น น.ส.ณิชา ยังให้การอีกว่าได้เคยทำบัตรประจำตัวประชาชนหาย   ก่อนเกิดเหตุ

พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบเรื่องดังกล่าวโดยเร่งด่วน พบว่า คนร้ายได้นำบัตรประชาชนของ น.ส.นิชา ไปเปิดบัญชีเพิ่มอีก 1 ธนาคาร 1 บัญชี รวมีการเปิดบัญชีธนาคาร 8 ธนาคาร 10 บัญชี

โดยกลุ่มคนร้าย มีผู้กระทำความผิดด้วยกัน  4  คน คือ 1.นายอายัค  ไซมอน อีโก้ (Mr.Ayak Simon Eko) สัญชาติแคเมอรูน หนังสือเดินทางเลขที่ 0630054  (ทำหน้าที่จ้างวานหาบัญชี  และ เอาบัตรเอทีเอ็มไปกดเงิน) 2.นางสาวเจรติ หรือแอน  สายสิน (ทำหน้าที่รับเปิดบัญชี 3 บัญชี ) 3.นางสาวปวีณา หรืออ้อม  สิงห์วิบูลย์  (ทำหน้าที่รับเปิดบัญชี  5 บัญชี ) 4.นางสาวพรหมพร หรือแตน  พงษ์เจริญคุณากร  (ทำหน้าที่รับเปิดบัญชี 2 บัญชี) ซึ่งมีการกระทำความผิดหลายพื้นที่ คือ สน.ห้วยขวาง ,  สน.ภาษีเจริญ , สน.ทุ่งมหาเมฆ สน.ลาดพร้าว , สน.หลักสอง , สภ.นนทบุรี และ  สน.วังทองหลาง อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยืนยันว่า ยังไม่พบข้อมูลเชื่อมโยงระหว่าง น.ส.ณิชา กับแก๊งโรมแมนสแกม ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบข้อมูลจากโทรศัพท์ หรือข้อมูลทางการเงิน จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ปวีณา เป็นคนแอบอ้างรับบัตร ปชช. คืนจากพนักงานเซเว่น และจากประวัติพบด้วยว่า น.ส.ปวีณา มีพฤติกรรมลักษณะนี้มาก่อน และมีความเชี่ยวชาญ สามารถโอนเงิน ที่ได้จากการโกงเงินของไซม่อนเข้า-ออกบัญชีจริงของณิชาได้ผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งณิชาไม่ได้สมัคร sms ไว้จึงไม่รู้ว่าเงินเข้า-ออกบัญชีตัวเอง

ส่วนกรณีของเบอร์โทรศัพท์ของน้องชายณิชา เป็นเรื่องที่ณิชาเข้าใจผิด เพราะเบอร์ดังกล่าวเป็นหมายเลขที่ณิชาเปิดใช้เอง / ซึ่งหลังจากที่ณิชาไปเช็คกับผู้ให้บริการเครือข่ายแล้วพบว่า เบอร์โทรศัทพ์ 1 ใน 4 หมายเลข เป็นหมายเลขที่ณิชาใช้ตอนเรียนชั้นมัธยม และน้องชายนำไปใช้ต่อ มีการเติมเงินและเชื่อมเข้าอินเตอร์เน็ต / ณิชาจึงเข้าใจว่าเป็นคนร้ายนำไปเปิดบัญชีและใช้เบอร์โทรต่อ จึงมีข้อมูลปรากฏว่ามีคนร้ายโทรติดต่อ แชทไลน์มาหาณิชา  ซึ่งตอนนี้การดำเนินการเอาผิดกับธนาคารก็ขึ้นอยู่กับณิชาว่าต้องการเอาผิดหรือไม่

ด้าน น.ส.ณิชา เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับพี่สาว เพื่อมอบช่อดอกไม้ ขอบคุณตำรวจที่ช่วยคลี่คลายคดีที่ทำให้ตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ เกิดความกระจ่างต่อสังคม และขอโทษในส่วนของการให้ข้อมูลบางประการที่อาจทำให้เกิดความสับสน ส่วนจะมีการฟ้องร้องธนาคารหรือไม่นั้น ตนขอปรึกษากับทนายความถึงข้อกฎหมายก่อน พร้อมกันนี้ยังฝากถึงผู้ที่ทำบัตรประชาชนหายบ่อยด้วยว่า ควรรีบแจ้งความกับตำรวจให้เร็วที่สุด เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันกับเธอเช่นนีอีก