จากกรณีนายผดุงศิลป์ โลหากาศ ก่อเหตุยิง ร.ต.ต.ส่ง ต่วยกระโทก จนท.สืบสวน กก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา ขณะล่อซื้อยาเสพติด เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วหลบหนีไปเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 63
ล่าสุด วันที่ 1 ส.ค. 63 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนทราบว่าคนร้ายหลบอยู่ที่เขตหมู่ 1 ต.โนนเต็ง อ.คง จ.นครราชสีมา ได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม แต่คนร้ายต่อสู้ขัดขวางยิงใส่เจ้าหน้าที่ จึงถูกวิสามัญฆาตกรรม
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุที่คนร้ายไปหลบซ่อน บริเวณบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 1 ต.โนนเต็ง อ.คง จ.นครราชสีมา ตำรวจกำลังเคลียร์พื้นที่และนำศพคนร้ายส่งชันสูตร และปิดล้อมกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปยังบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยมีชาวบ้านในพื้นที่เดินทางกันมาดูเป็นจำนวนมาก
นางรัชนี ลิตรนอก อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นตนเองทราบข่าวจากเพื่อนบ้านขณะที่ออกไปซื้อของว่าพบเห็นนายผดุงศิลป์ เพื่อนของลูกชายที่สนิทกันอยู่กับลูกชายบริเวณบ้าน ด้วยความตกใจคิดว่านายผดุงศิลป์คงจะต้องมาที่บ้านของตนเองจึงรับกลับบ้าน ช่วงเวลา 13.00 น. ตนเองก็พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า 50 นาย ปิดล้อมบ้านของตนเองอยู่ ก่อนพบว่านายผดุงศิลป์และลูกชายตะโกนพูดคุยเจรจากับตำรวจอยู่บริเวณแคร่หน้าบ้าน ห่างกัน 50 เมตร ตำรวจมีการเจรจาไกล่เกลี่ยนายผดุงศิลป์อยู่นานให้ยอมมอบตัว แต่นายผดุงศิลป์ไม่ยอม
ขณะนั้นตนเองขอร้องให้ลูกชายเดินออกมาจากนายผดุงศิลป์ เนื่องจากเกรงว่าลูกชายจะได้รับอันตราย ซึ่งเจรจาอยู่พักใหญ่ลูกชายจึงยอมออกมา แต่ทันทีที่ลูกชายเดินออกมา นายผดุงศิลป์ใช้อาวุธปืนยิงสวนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจทันที และวิ่งเข้าไปหลบอยู่ในบ้าน เพื่อหาที่กำบังยิงสู้กับตำรวจ ตำรวจกว่า 50 นายจำเป็นต้องวิสามัญฆาตกรรม ยิงสวนกลับต่อสู้กับนายผดุงศิลป์อยู่พักใหญ่ เสียงปืนดังสนั่นจนสิ้นเสียงปืน พบว่านายผดุงศิลป์ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการเคลียร์พื้นที่ และนำศพของนายผดุงศิลป์ส่งนิติเวชชันสูตร
หลังเกิดเหตุ ตนเองก็รู้สึกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก จากการสอบถามลูกชาย สาเหตุที่นายผดุงศิลป์ไม่ยอมมอบตัว เป็นเพราะเคยติดคุกคดียาเสพติดมาแล้ว จึงไม่อยากติดซ้ำอีก อีกทั้งในมือมีอาวุธปืนจึงยอมสู้จนตัวตาย หวังจบชีวิตตัวเอง
นางเอี่ยม โลหากาศ อายุ 62 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนเองทราบว่าลูกชายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรม เนื่องจากมีเพื่อนบ้านโทรมาบอกว่าลูกชายไปอยู่ที่บริเวณบ้านของนายเต๋า เพื่อนสนิท และมีการยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เสียงปืนดังสนั่น ตนเองพยายามจะเข้าไปดูสภาพศพลูกชาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่อนุญาตให้เข้า จนกระทั่งตำรวจนำศพลูกชายนำส่งนิติเวช ตนเองก็ได้แต่ยืนดู
หลังเกิดเหตุ ตนเองรู้สึกเสียใจและเหนื่อย แต่ก็ต้องทำตัวให้จิตใจเข้มแข็งและก็ต้องสู้ต่อไป เพราะเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ แม่ของนายเต๋าเล่าให้ตนเองฟังว่าลูกชายเป็นคนพูดว่า "จะไม่ยอมมอบตัว จะขอสู้จนตัวตาย" สุดท้ายนี้ หากเป็นไปได้ตนเองอยากบอกกับลูกชายว่า "แม่ขออโหสิกรรมให้ลูกทุกอย่าง ขอให้ลูกไปอยู่ในที่ดี ๆ หลังจากนี้แม่จะเป็นคนดูแลเลี้ยงดูลูกสาวของลูกให้เป็นคนดีที่สุดแทนลูกเอง"
