จากเหตุเพลิงไหม้ร้านข้าวหมูแดงหมูกรอบ ริมถนนราชพฤกษ์ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ล่าสุด เชิญตัวนายอำพล วงเทียนทอง หรือ อู้ อายุ 58 ปี ผู้ต้องสงสัยคดีฆ่ารัดคอชิงสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท และวางเพลิงเผาร่าง นายอนันต์ แสงอุไร อายุ 66 ปี เจ้าของร้านข้าวหมูแดงหมูกรอบแมสเซ็นเจอร์ ริมถนนราชพฤกษ์ จากบ้านพักย่านบางขุนเทียน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รวบมือฆ่าพ่อตา “ซีมอน” ภาพวงจรปิดมัดซื้อน้ำมันเผาอำพราง ซ้ำเจอรองเท้าจุดเจอศพ
- ส่อวุ่น! ลุงไฟคลอกดับส่อจัดฉากเผาชิงทอง ปัดโยงเขยฝรั่งฆ่าปิดปากคดีลูกหาย
ล่าสุดวันที่ 28 ก.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ประสานเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย นำเครื่องสูบน้ำเข้ายังพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อสูบน้ำในบ่อน้ำทิ้งภายในบ้าน เนื่องจากนายอู้ให้ว่าฆ่าผู้ตายจริง แต่ไม่ได้ชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำ โดยใช้เวลาค้นหาหลักฐานนานกว่า 2 ชม. แต่ไม่พบสร้อยทองคำ
ต่อมาเวลา 18.00 น. รายงานข่าวระบุว่าศาลอาญาธนบุรี อนุมัติหมายจับนายอู้ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เพื่อให้พนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ดำเนินการจับกุมตัว ซึ่งนายอู้มีอาชีพเลี้ยงเพาะพันธุ์ไก่ชน หลังเจ้าตัวยอมรับสารภาพก่อเหตุฆ่านายอนันต์ แสงอุไร อายุ 66 ปี พ่อฆ่าข้าวหมูแดงหมูกรอบด้วยการบีบคอ
โดยอ้างว่าเดินทางไปทวงพระเครื่องซึ่งจำนำไว้กับผู้ตาย แล้วไม่ได้คืน โดยเจ้าตัวยอมรับว่าทำไปเพราะบันดาลโทสะ แต่ไม่ได้ชิงทรัพย์ทองคำ 5 บาทและพระเลี่ยมทองไป อีกทั้งไม่ได้ตั้งใจวางเพลิงปิดบังสาเหตุแห่งการตาย แต่เกิดเพลิงไหม้ เพราะอุบัติเหตุเตาไฟทำกับข้าวในบ้านผู้ตายล้มขณะต่อสู้กัน
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐาน และผลตรวจร่างกายจากแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอย่างเร็วประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายอู้ต่อไป
นายหมี (นามสมมติ) เพื่อนผู้ตาย เปิดเผยว่า ตอนแรกตนไม่เคยคิดว่าคนที่ฆ่านายอนันต์จะเป็นนายอำพล เพราะทั้งคู่รู้จักกันมานานมากแล้ว ตอนหนุ่ม ๆ นายอนันต์ได้ไปเช่าบ้านแม่นายอำพลอยู่ ตนต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงาน และมาเจอกันอีกครั้งหลังจากที่นายอนันต์ย้ายมาทำร้านขายข้าวหมูแดง ซึ่งจากคำรับสารภาพของผู้ต้องหา เพื่อน ๆ ไม่มีใครเชื่อว่าเป็นความจริง อย่างแรกคือการที่ผู้ต้องหาอ่างว่าเอาพระไปจำนำกับผู้ตาย ก่อนจะไปไถ่คืน แต่ผู้ตายไม่ยอมคืนและอ้างว่าพระไม่อยู่แล้ว หลายคนอาจจะคิดว่าผู้ตายไม่ยอมคืนพระเพราะจะเอาพระไปปล่อยในราคาที่แพงนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะผู้ตายเป็นคนดูพระไม่เป็น และไม่เคยดูพระ
ทั้งนี้ ผู้ตายเป็นคนใจดี ชอบทำบุญช่วยเหลือคน ส่วนผู้ก่อเหตุแม้ว่าบ้านจะดูมีฐานะ มีห้องเช่า แต่เป็นคนติดพนัน อาจจะเป็นสาเหตุในก่อเหตุหรือไม่