สาวคว้าขวดฟาดตำรวจ ถูกล็อกล้อลากไปโรงพัก ห้าวอีกเท้าถีบยอดอก ญาติรับมีโรคเครียด (คลิป)

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก เฮียขับรถ ได้โพสต์ภาพคลิปหญิงสาวรายหนึ่ง ทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่พยายามที่จะให้หญิงสาวเคลื่อนรถออกจากพื้นที่สวนลุมพินี กรุงเทพฯ เนื่องจากรถที่จอดอยู่ทำให้การจราจรติดขัด แต่หญิงสาวรายดังกล่าวไม่ยอมและพยามที่จะใช้ขวดน้ำฟาดเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยนั้น

ล่าสุด วันที่ 21 ก.ค. 63 ทีมข่าวเดินทางไปยังลานจอดรถของสวนลุมพินี ฝั่งถนนราชดำริ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ นายบัวลี ทศกร พ่อค้าในย่านดังกล่าว เล่าว่า เพื่อนที่เป็นวินอยู่ในที่เกิดเหตุเล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเช้าลานจอดรถของสวนลุพินี ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 โซน

โซนแรกจะจัดเป็นที่จอดรถตามปกติ เอาไว้สำหรับประชาชนที่มาออกกำลังกายในช่วงเช้า ส่วนโซนที่ 2 จัดเป็นตลาดเช้า สำหรับคนที่ออกกำลังกายเสร็จแล้ว มานั่งทานาหารเช้าต่อ

ซึ่งขณะเกิดเหตุ คาดว่าลานจอดรถน่าจะเต็ม แต่หญิงสาวคนดังกล่าวกลับมาจอดรอที่หน้าทางเข้าลานจอด ทำให้รถติดเจ้าหน้าจึงพยายามให้รถคันดังกล่าวเคลื่อนออกไป แต่หญิงสาวไม่ฟัง และทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ พยายามที่จะเอาขวดน้ำตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตัดสินใจลากรถดังกล่าวไปที่ สน.ลุมพินี

ผู้สื่อข่าวเดินทางมาที่ สน.ลุมพินี น้องชายของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่าสั้น ๆ ว่า ปกติพี่สาวอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีครอบครัว และพี่สาวมีอาการโรคเครียด จนครั้งหนึ่งเคยคิดฆ่าตัวตาย และเคยรับยาจากโรงพยาบาลมากิน แต่รายละเอียดตนไม่รู้ เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน

ด้าน พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.ลุมพินี ระบุว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเกิดเหตุหญิงสาวรายดังกล่าวพยายามขับรถเข้าไปแทรงคิวคนที่กำลังเข้าไปจอดรถในลานจอด จนทำให้รถติด เจ้าหน้าที่พยานามให้ขับรถออกไปต่อคิว แต่เจ้าตัวไม่ยอม จนเกิดเหตุทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ จนตำรวจต้องตัดสินใจล็อกล้อ และเอารถยกยกรถคันดังกล่าวมา สน.ลุมพินี

ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมก็ถูกถีบยอดอก และตอนที่กำลังล็อกล้อ หญิงสาวรายดังกล่าวก็พยายามขับรถหนี ทำให้ที่ล็อกล้อพังเสียหาย เบื้องต้น หลังควบคุมตัวได้แล้วทราบชื่อคือ น.ส.โชติมา ยังให้การวกไปวนมาพูดจาไม่รู้เรื่อง ในช่วงแรกพยายามต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ช่วงหลังอารมณ์เย็นลง จึงได้มีการขอโทษ

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้มีการตรวจสารเสพติด และตรวจประวัติว่ามีการรักษาอาการทางจิตหรือไม่ เพราะหลังจากที่สอบสวนเสร็จ เจ้าตัวบอกว่าอยากติดคุก ส่วนทางญาติอยู่ จ.ชัยภูมิ กำลังเดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 4 ข้อหา ได้แก่ ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน, หยุดรถในลักษณะกีดขวางการจราจร, ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน และทำให้เสียทรัพย์