ตำรวจติดตาม หนุ่มขับรถเก๋งเบนซ์ สีดำ ฉุนถูกลุงวัย 69 ขับกระบะ ปาดหน้ากระชั้นชิด หนำซ้ำกระชากลุงจากรถให้ไปกราบขอโทษแม่ตัวเองที่นั่งอยู่ในรถ
โดยตำรวจเร่งแกะรอยวงจรปิดหาเส้นทาง พร้อมส่งภาพจากกล้องวงจรปิดที่ได้ตรวจสอบหาหมายเลขทะเบียนที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 จ.ขอนแก่น
จากเหตุการณ์ ที่ นายมนตรี สาคุณ อายุ 69 ปี ชาวบ้าน ต.สำโรง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ศรศักดิ์ พากระโทก สว.(สอบสวน) ที่สภ.หนองสองห้อง พร้อมหลักฐานเป็นคลิปวงจรปิดบันทึกภาพ ชายรูปร่างสูงใหญ่ขับรถเก๋ง ยี่ห้อ เบนซ์ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ตามหลังมาแล้วปาดหน้าขวางรถของนายมนตรีซึ่งเลี้ยวเข้ามาที่ร้านรับต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ ในตัวอำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น ก่อนจะเปิดประตูรถลงมาเคาะกระจกบอกนายมนตรีให้เปิด แล้วชกไปที่ขมับด้านซ้าย 1 ครั้ง ก่อนจะบังคับให้นายมนตรีลงมาจากรถเพื่อไปกราบขอโทษแม่ของคนขับเบนซ์ที่นั่งอยู่ในรถ อ้างว่าถูกนายมนตรีขับรถยนต์กระบะปาดหน้าจนทำให้ศีรษะของแม่ตัวเองไปโดนกระจก ก่อนจะพูดจาข่มขู่ว่า ถ้าเป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกันจะฆ่าให้ตาย
แล้วขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว
นายมนตรี เปิดเผย ว่าตนขับรถมาตามปกติ พอจะถึงร้านต่อทะเบียนรถยนต์ก็ชะลอและเปิดไฟเลี้ยวชัดเจน ซึ่งก็หยุดรถมองซ้ายมองขวา เห็นรถเบนซ์อยู่ข้างหลังแต่ไกลมาก และไม่ได้เป็นการปาดหน้าอย่างที่ชายดังกล่าวอ้างอย่างแน่นอน พอถนนว่างตนเองก็เลี้ยวขวาเข้ามาทันที แต่ขณะเกิดเหตุต้องยอมไม่ตอบโต้ เพราะกลัวว่าชายดังกล่าวจะมีอาวุธเหมือนในข่าวที่เคยเห็น และถ้าเราตอบโต้ก็จะยิ่งเกิดเหตุการณ์บานปลาย โดยอาการล่าสุดยังรู้สึกปวดที่กรามด้านซ้าย รับประทานอาหารลำบาก อยากจะให้ตำรวจตามจับตัวชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดีให้ได้ เผื่อจะได้สำนึกและไม่ไปทำเช่นนี้กับคนอื่น
ล่าสุด วันนี้ (19 ก.ค.) พ.ต.ท.ศรศักดิ์ พากระโทก สว.(สอบสวน) ที่สภ.หนองสองห้อง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบตัวผู้ขับขี่รถเบนซ์คู่กรณีของนายมนตรี โดยทางตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบหมายเลขทะเบียน ซึ่งในกล้องวงจรปิดที่ได้มาเป็นหลักฐานนั้น ไม่ชัดเจน โดยจะทำการส่งไปตรวจสอบที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่น ให้ได้หมายเลขทะเบียนรถเบนซ์ชัดเจน พร้อมกันนี้ทางชุดสืบสวน สภ.หนองสองห้องก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจุดอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อให้ทราบเส้นทางหลบหนีและหมายเลขทะเบียนที่ชัดเจน เพื่อตรวจสอบชื่อเจ้าของรถและออกหมายเรียกมาสอบปากคำตามขั้นตอน โดยเบื้องต้นเข้าข่ายความผิดข้อหาตามมาตรา 295 "ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ"
