ตำรวจโร่แจง ภาพคู่ "เสก โลโซ" นั่งยิ้มแฉ่งหลังถูกจับ แค่บังเอิญเจอและสอนอย่าทำผิดซ้ำ (คลิป)

จากกรณี เสก โลโซ ได้ไปร่วมงานสังสรรค์ และได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ ผกก.....&สารวัตร...&สจ.....เป็นตัวแทนตำรวจนครมาสังสรรค์ตามประสาพี่น้องกัน@ร้าน....”  ซึ่งได้มีสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งบันทึกหน้าจอช่วงนั้นไว้ได้และได้นำออกอากาศช่วงข่าวเช้าวันนี้( 4 ม.ค.61) ปรากฏว่า หลังจากนั้นไม่นานโพสท์ดังกล่าวได้ถูกลบไปแล้ว

ทั้งนี้ พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผู้กำกับสืบสวน กองกำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธร จ.นครศรีธรรมราช (ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช) หนึ่งในผู้ที่ปรากฏในถ่ายภาพดังกล่าว เปิดเผย กับ ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี  ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตนไปรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง  บังเอิญไปเจอกับคุณเสก โลโซ จริง จากนั้นได้พูดคุยกัน เพราะคุณเสก มีโครงการจะจัดคอนเสิร์ตที่ร้านอาหาร เพื่อหารายได้ มอบเงินช่วยเหลือให้กับ สภ.พรมคีรี ตามที่เคยพูดออกสื่อก่อนหน้านี้ จากนั้นทราบว่ามีการถ่ายภาพผู้ที่ร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน  ซึ่งตนไม่ได้คิดอะไรมาก และไม่รู้ว่าจะมีการนำภาพไปโพสต์ลงโซเชียล ซึ่งไม่เป็นการไม่เหมาะสม เพราะคุณเสก อยู่ระหว่างมีคดีติดตัว

หลังจากภาพถูกโพสต์ และเป็นข่าวขึ้นมา ทาง พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้มีคำสั่งให้ตนทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีดังกล่าว ซึ่งตนก็พร้อมชี้แจงตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และขอยืนยันว่า ไม่ได้รู้จักเสก โลโซ เป็นการส่วนตัว และไม่ได้มีความสนิทสนมกัน  โดยเพิ่งรู้จักกันเมื่อตอนไปปฏิบัติหน้าที่รับตัวที่กรุงเทพฯ เพื่อเดินทางมายังจังหวัดนครศรีธรรมราชเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.รังสรรค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การโพสต์ภาพดังกล่าวทำให้ตนได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ก็พร้อมชี้แจงตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหนึ่งรายที่ปรากฏในภาพดังกล่าว คือ พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ไปปฏิบัติหน้าในการดูแลความปลอดภัยตามปกติ เนื่องจากเป็นเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของตน แม้คดีความจะอยู่ในพื้นที่ สภ.พรหมคีรี แต่เมื่อคุณเสกเดินทางเข้ามา ถือว่าเป็นบุคคลที่กำลังเป็นที่สนใจของสังคมด้วย อีกทั้งอาจจะมีทั้งคนชอบหรือไม่ชอบ จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้ว สำหรับการดูแลความปลอดภัยนั้นก็เพื่อป้องปราม ไม่ให้เกิดเหตุไม่ดีขึ้น รวมไปถึงเหตุการณ์ที่เสกอาจจะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม จะได้มีการตักเตือนกัน และยืนยันว่าไม่ใช่เพียงเฉพาะคุณเสกเท่านั้น ที่เจ้าหน้าที่ไปดูแลความปลอดภัย แม้แต่ผู้ต้องหารายอื่นๆ ที่เป็นบุคคลทั่วไป อย่างกรณีการทำแผน ทางเจ้าหน้าที่ก็มีหน้าที่ในการคุ้มกัน ดูแลความปลอดภัยเช่นกัน ฉะนั้นกรณีของคุณเสกจึงไม่ได้เป็นการดูแลเป็นพิเศษแต่อย่างใด

พ.ต.ท.ธีระพล กล่าวต่อว่า แม้แต่การจัดคอนเสิร์ตต่างๆ ภายในจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่ว่าจะศิลปินนักร้อง ผู้มีชื่อเสียง หากเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของเจ้าหน้าที่พื้นที่ใด ก็มีหน้าที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่แล้ว โดยไม่ต้องร้องขอ ส่วนเรื่องการโพสต์ภาพนั้น คุณเสกเป็นคนโพสต์ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และการแสดงความเห็นในสังคมโซเชียลก็เป็นสิทธ์จะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นมีความบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว  ภายหลังรูปภาพดังกล่าวถูกโพสต์ออกไป ทางผู้บังคับบัญชา ได้ติดต่อสอบถามตนแล้ว ซึ่งตนเองก็พร้อมจะชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเช่นกัน ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจากจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว  ขณะนี้อยู่ระหว่างตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง  และได้รายงานเรื่องนี้ต่อพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชากาตำรวจแห่งชาติ แล้ว

ทั้งนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการกำชับมาตลอด ในเรื่องความประพฤติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มีเหมาะสมอยู่แล้ว หลังจากนี้ก็คงจะต้องรอผลการสอบสวนของคณะกรรมที่ตั้งขึ้นมาก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าภาพถ่ายนั้นเป็นอย่างไร เพราะหากดูจากในโซเซียลก็ไม่สามารถฟันธงได้ว่าไม่เหมาะสมได้ ฉะนั้นต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.กฤษณะ เผยว่า หากมองในภาพรวมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น จะต้องดูข้อเท็จจริงอย่างอื่นประกอบด้วย จะมองเพียงแค่ภาพอย่างเดียวนั้น ไม่อาจจะตัดสินได้ว่าเหมาะสมหรือไม่ ดังนั้นต้องฟังข้อเท็จจริงรอบด้านก่อน คาดว่าใช้เวลาไม่นานในการสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด  

ด้านพ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ที่มีการบุกจับกุม “เสก โลโซ” ที่บ้านพัก แต่กลับมีภาพไปถ่ายรูปคู่กับผู้ต้องหาภายหลังจากได้รับการประกันตัวที่ จ.นครศรีธรรมราช เบื้องต้นทาง พ.ต.อ.สิงห์ ยอมรับว่า ภาพดังกล่าวเป็นตนเองจริง จึงได้สั่งการให้ทาง พ.ต.อ.สิงห์ เขียนรายงานชี้แจงขึ้นมาภายในวันที่ 5 ม.ค. หากมีความบกพร่องทางวินัย ก็จะดำเนินการลงโทษเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อย่างแน่นอน