กรณีทีมข่าวอมรินทร์ทดลองเดินขึ้นภูเหล็กไฟ หลังจากข้อมูลจากหัวหน้าอุทยานเเห่งชาติภูผายล ระบุระยะทางจากบ้านน้องชมพู่ ไปยังจุดที่พบศพ หากวัดเส้นตรงจากจีพีเอส 1.2 กิโลเมตร
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
ทีมข่าวจึงทดลองเดินเป็นเส้นตรงว่าสามารถเดินได้หรือไม่ เพื่อเชื่อมโยงกับที่น้องชมพู่จะเดินขึ้นเขาไปเสียชีวิตเอง โดยนางจำลอง แดนกาไสย ชาวบ้านกกกอกเป็นผู้อาสานำทางให้
ล่าสุดวันที่ 13 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับ นายกรีฑาพล พรหมสาขา ณ สกลนคร เจ้าหน้าที่อุทยานเเห่งชาติภูผายล กล่าวถึงสภาพของภูเหล็กไฟ ว่ามีลักษณะเหมือนขั้นบันได มีทั้งหมด 6 ชั้น จุดที่พบศพน้องชมพู่อยู่ชั้นที่ 5 ระยะทางวัดจากจีพีเอสเป็นเส้นตรง จากบ้านไปจนถึงจุดพบศพ 1.2 กิโลเมตร เเต่ระยะการเดินเท้า 1.7 ถึง 2 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ให้เวลาการเดินเเบบไม่พัก ประมาณ 50 นาที เเต่หากเป็นคนทั่วไปก็อาจใช้เวลาเดินประมาณชั่วโมงครึ่ง
ทั้งนี้ลักษณะพื้นที่ของภูเหล็กไฟ เป็นป่าเต็งรัง พื้นผิวเป็นดินทรายสลับชั้นหิน มีหญ้าขึ้นรก ไม่มีเเหล่งน้ำถาวร เเละไม่มีผลไม้ใด ๆ เลย จากการประเมินสภาพพื้นที่ เป็นไปไม่ได้ที่เด็ก อายุ 3 ขวบ จะเดินหลงไปลำพังจนถึงจุดพบศพได้
การเดินไปเเต่ละครั้ง เจ้าหน้าที่อุทยานที่ชำนาญทาง เเละเดินขึ้นบ่อย จะพกน้ำดื่มขวดเล็ก ขนาด 600 มิลิลิตร 1 ขวด จิบเรื่อย ๆ ตลอดการเดิน เเต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่เคยขึ้น จะต้องพกขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตร 1-2 ขวด เพื่อให้เพียงพอต่อการกระหายน้ำ การที่เด็กเดินตัวเปล่า โดยไม่มีน้ำ เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินถึงจุดพบศพ เพราะเด็กจะเหนื่อยล้าอย่างหนัก
ส่วนในเรื่องการเตรียมตัวขึ้นภูเหล็กไฟ สำหรับชาวบ้านทั่วไป นอกจากน้ำต้องเตรียมยาเเก้ปวด ยาดม ยาหม่อง เเละอาหารใส่ห่อขึ้นไปด้วย ส่วนการเเต่งกาย ต้องใส่รองเท้าผ้าใบ กางเกงขายาว เสื้อเเขนยาว เพราะบนเขามียุงเเละเเมลงเป็นจำนวนมาก อีกทั้งหญ้าก็รกด้วย
ทีมข่าวสอบถาม นางจำลอง เเดนกาไสย ชาวบ้านกกกอก ผู้ที่นำทางให้ทีมข่าว เปิดเผยว่าตนขึ้นภูเหล็กไฟเป็นประจำ ก่อนน้องชมพู่จะหายตัวไปจะขึ้นทุกสัปดาห์ เพื่อหาของป่า ทั้งเห็ดเเละผักหวาน ซึ่งการเดินขึ้นค่อนข้างลำบาก เพราะสภาพพื้นที่เป็นดินทรายสลับโขดหิน ซึ่งจากบ้านน้องชมพู่ไปจุดพบศพ ตนใช้เวลาเดินไม่ต่ำกว่าชั่วโมงครึ่ง ผู้ใหญ่บางคนยังเป็นลม
ดังนั้นเชื่อว่าเด็กไม่สามารถเดินขึ้นเองได้ ชื่อว่าต้องมีคนพาขึ้น ส่วนในป่าภูเหล็กไฟจะมีอะไรพอประทังชีวิตได้บ้าวนั้น ก็เทบไม่มี เพราะพื้นที่เป็นดินทราย ไม่มีเเหล่งน้ำ อีกทั้งไม่มีผลไม้ใด ๆ เลย มีเพียงเห็ด ซึ่งเด็กวัยเเค่ 3 ขวบ คงไม่รู้จัก ดังนั้นหากหลงป่าบนภูเหล็กไฟ โอกาสที่จะอดอาหารจนเสียชีวิตก็มีสูง
ทีมข่าวเดินทางมาพบ นางสมพร หลาบโพธิ์ ป้าน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ตนคิดว่าหลานไม่น่าเดินไปตายเองได้ ชมพู่ยังเด็ก หากเดินไปสิ่งแรกคือเหนื่อย ตนเคยขึ้นไปคิดว่าเส้นทางที่มันชันขึ้น ๆ หลานไม่น่าจะเดินขึ้นไป หากพูดว่าชมพู่ไม่ได้ตายสูงขนาดนั้น อาจจะเชื่อได้ว่าหลานไปตายเอง แต่สถานที่มันสูงขนาดนี้ ตนเอนเอียงไปทิศทางนั้นไม่ได้เลย
ตนก็อยากรู้ว่า หากชมพู่ไปตายเองทำไมเสื้อผ้าไม่สวม จะถอดทำไม หากจะร้อนก็ไม่น่าจะถอดแบบนั้น เพราะคงไม่มีแรงจะถอดเองได้ ส่วนตัวไม่แน่ใจหลานถอดเสื้อผ้าได้หรือไม่ แต่เท่าที่รู้ถอดเองไม่ได้ หากแพทย์ชี้ว่าน้องตายเอง ตนก็อยากให้หาคำตอบให้ได้ว่าน้องตายได้อย่างไร ยอมรับว่ากังวลหากตำรวจยังหาอะไรไม่ได้ ส่วนตัวไม่รู้ตำรวจจะจับไดหรือไม่ ไม่รู้ว่าที่ตำรวจให้ข้อมูลว่าหากหลักฐานไม่ได้จริงหรือไม่
ส่วนตัวไม่ต้องการให้คดีเงียบจบไป เพราะตน ครอบครัว ถูกกระแสโจมตีเยอะมาก จะจบไปง่าย ๆ ไม่ได้ หากจะหาคนร้ายต้องหาให้ได้ หากจะพับคดีเอาไว้ตนก็ไม่รู้ แต่ยืนยันว่าไม่อยากให้คดีเงียบ ถึงแม้สามีจะเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะจะได้พิสูจน์ด้วยว่าสามีตนไม่ผิด
นายแพทย์สิทธา ลิขิตนุกูล เจ้าของเพจคุณหมอสตอรี่ ให้ความเห็นว่า พฤติกรรมของเด็ก 3 ขวบ หากพ่อแม่ฝึกฝนลูก เด็กก็อาจจะสามารถใส่เสื้อผ้าเองได้แล้ว เด็กจะเริ่มถอดเสื้อผ้าเองได้ อายุตั้งแต่ 1 ขวบครึ่งไปจนถึง 2 ขวบ แต่จะใส่เสื้อผ้าเองได้ อายุประมาณ 3 ขวบ และจะติดกระดุมเป็นอายุประมาณ 4-5 ขวบ ขณะเดียวกันหากพ่อแม่ฝึกมาดี เด็กอายุ 2 ขวบครึ่ง เด็กก็สามารถถอด และใส่เสื้อเองได้แล้ว
หากเด็ก 3 ขวบ ขึ้นบนภูเขาที่ไม่มีแหล่งน้ำ อดน้ำเด็กหิวน้ำ ก็คงพยายามหาแหล่งน้ำ เช่น ต้นไม้ใบหญ้าเล็ก ๆ หรือวิดน้ำกินจากพื้น คงไม่สามารถไปหักกิ่งไม้ หรือปีนต้นไม้สูง ๆ ได้ ร่างกายของเด็ก 3 ขวบ หากอยู่บนเขาที่อากาศร้อน แห้งแล้ง ไม่มีแหล่งน้ำ เด็ก จะทนกับการขาดน้ำ และขาดอาหาร ได้ไม่เท่ากับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะท่ามกลางอากาศที่ร้อน และแห้งแล้ง คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 วัน เด็กอาจจะเสียชีวิตได้
ทีมข่าวอมรินทร์ทดลองเดินขึ้นภูเหล็กไฟ หลังจากข้อมูลจากหัวหน้าอุทยานเเห่งชาติภูผายล ระบุระยะทางจากบ้านน้องชมพู่ ไปยังจุดที่พบศพ หากวัดเส้นตรงจากจีพีเอส 1.2 กิโลเมตร
ทีมข่าวจึงทดลองเดินเป็นเส้นตรงว่าสามารถเดินได้หรือไม่ เพื่อเชื่อมโยงกับที่น้องชมพู่จะเดินขึ้นเขาไปเสียชีวิตเอง โดยนางจำลอง แดนกาไสย ชาวบ้านกกกอกเป็นผู้อาสานำทางให้
ทีมข่าวเริ่มเดินออกจากบ้านน้องชมพู่ เวลา 17.00 น. ผ่านไร่มันสำปะหลังของนางจำลอง ถึงตีนภูเหล็กไฟ สภาพพื้นที่เป็นดินทรายสลับกับโขดหิน มีต้นเพชร ต้นหญ้าขึ้นรก ทำให้ยากลำบากต่อการเดิน เมื่อเดินเป็นเส้นตรง สลับกับลัดเลาะแนวป่าระยะทางวัดจากจีพีเอส 500 เมตร เจอผาหินและโขดหิน ความสูงประมาณ 5 เมตร ซึ่งทีมข่าวต้องเดินอ้อม
หลังจากเดินอ้อมผาหินเเรก ระยะทางประมาณ 30 เมตร จึงเดินเป็นเส้นตรงต่อได้ สภาพพื้นที่หลังจากพ้นผาหินแรก พื้นที่ลาดชันมากขึ้น มีหินมากขึ้น เมื่อเดินเป็นเส้นตรงขึ้นไป 50 เมตร พบโขดหินขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 10 เมตร ทีมข่าวเดินลัดเลาะอ้อมโขดหิน
ซึ่งหลังจากเดินลัดเลาะผาหิน ระยะทาง 50 เมตร จึงเดินเป็นเส้นตรงต่อได้ งสภาพพื้นที่หลังจากผ่านผาหินที่ 2 เป็นทางลาดชัน สลับกับโขดหินเป็นจำนวนมาก ต้นหญ้าต้นเพชรขึ้นรก ซึ่งจุดที่ทีมข่าวเดินขึ้นวันนี้ยังไม่ถึงครึ่งทางจุดที่พบศพ
