เมื่อวันที่ 10 ก.ค.63 เมื่อเวลา 10.30 น. เกิดเหตุมีผู้ตกจากสะพานพระราม 3 ลงมาเสียชีวิต บริเวณแยกบุคคโล มุ่งหน้าขึ้นสะพานกรุงเทพ แขวงและเขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ สี่แยกช่วงทางเลี้ยวซ้ายจากถนนเจริญนคร ขึ้นสะพานกรุงเทพ เจ้าหน้าที่พบศพ นายเกียรติพงศ์ อัมพรทิวาทิพย์ อายุ 43 ปี สภาพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดสีเขียว คลุมทับด้วยเสื้อคลุมสีดำลายขาว นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ใส่รองเท้าผ้าใบสีดำ
โดยมีบาดแผลกระแทกบริเวณศีรษะด้านหลัง เลือดทะลักออกปากและจมูก จนเลอะใบหน้า แขนขาทั้ง 2 ข้างหักผิดรูป มีหมวกนิรภัยเต็มใบสีขาวของผู้ตายหลุดจากศีรษะวางอยู่ใกล้ ๆ กัน 1 ใบ และโทรศัพท์มือถือสภาพหน้าจอแตกละเอียดอีก 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดไว้เป็นหลักฐาน
เมื่อขึ้นไปตรวจสอบบนสะพานพระราม 3 ฝั่งขาเข้า ซึ่งอยู่สูงจากพื้นดินจุดพบศพประมาณ 20 เมตร พบรถ จยย.ของผู้ตาย ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นซูมเมอร์เอ็กซ์ สีดำคาดส้ม ทะเบียน 3 กผ 6015 กทม.ด้านท้ายรถผูกกระเป๋าส่งของแบบแกร็บไบค์แมสเซ็นเจอร์สีดำ 1 ใบ พลิกคว่ำตะแคงซ้ายอยู่ชิดขอบทางเดินรถฝั่งซ้าย
โดยจุดที่พบรถจยย.อยู่ห่างจากจุดที่ศพตกลงไปประมาณ 20เมตร ถัดออกไปประมาณ25เมตร พบรอยขูดจุดแรกที่คาดว่ารถ จยย.ดังกล่าวเสียหลักก่อนจะพุ่งชนและขูดไปขอบทางจนศพตกลงไปด้านล่าง หน้าที่จึงช่วยกันยกรถออกจากจุดเกิดเหตุเพื่อนำไปเก็บรักษาไว้ที่ สน.บุคคโล
ร.ต.อ.สนั่น สำรุด รอง สว.จร.สน.บุคคโล กล่าวว่า จากการพูดคุยกับชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะยืนอยู่ริมถนนเห็นคนตกลงมาจากสะพานกระแทกพื้นเสียงดังมาก จึงรีบแจ้งกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ ซึ่งตามปกติแล้วกฎหมายห้ามรถจักรยานยนต์ขี่ขึ้นบนสะพานพระราม 3 แห่งนี้ เนื่องจากเป็นสะพานสูงจากพื้นดินนับสิบเมตร มีลมพัดแรง และยวดยานชนิดอื่น ๆ ใช้ความเร็วสูง เกรงจะเกิดอันตรายกับรถเล็กกอย่างรถจักรยานยนต์
แม้จะมีการกวดขันจับกุมอยู่เป็นระยะ แต่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ก็ยังพากันฝ่าฝืนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นเป็นประจำ อย่างกรณีนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าขณะที่ผู้ขับขี่ขับมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาลักษณะคล้ายดูเส้นทาง เนื่องจากมีอาชีพเป็นพนักงานส่งอาหาร หลังจากนั้นด้วยความเร็วของรถทำให้รถเกิดเสียหลัก ขูดไปกับขอบถนน ทำให้ผู้ขับขี่ตกลงไปข้างล่างเสียชีวิต
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามทางญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยสั้นว่า ปกติแล้วผู้ตายทำงานประจำอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งถ้ามีช่วงว่าง ๆ ก็จะไปทำอาชีพเสริมเป็นพนักงานส่งอาหาร ซึ่งเมื่อช่วงเช้าผู้ตายกำลังออกไปทำงานที่บริษัทตามปกติ ไม่ได้ไปส่งอาหารอย่างที่เป็นข่าว และที่หลายคนตั้งขอสังเกตว่า ผู้ตายหลับในนั้น ตนไม่เชื่อเพราะผู้ตายไม่ได้อดหลับอดนอน และยังเป็นช่วงเช้า จะง่วงนอนได้อย่างไร
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ให้ทางญาติดูกล้องวงจรปิดแล้ว แต่ตนก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าผู้ตายจะเอาโทรศัพท์มาดูเส้นทาง เพราะเป็นเส้นทางที่ต้องไปทำงานประจำ จึงเป็นไปได้หรือไม่ว่าช่วงที่ผู้ตายขี่รถ อาจจะมีรถยนต์ขับเฉียดกระเป๋าส่งอาหารข้างท้าย จนทำให้เสียหลักจนเกิดเหตุสลดดังกล่าว
