"กูใหญ่ที่สุด" คำนี้ไม่ใช่กร่าง! เมียนักโทษ โต้ แค่ให้กำลังใจสู้คดี ยันถูกผู้คุมซ้อม (คลิป)

23 ธ.ค. 60
จากกรณี ญาติของ 3 นักโทษชายในเรือนจำอำเภอธัญบุรี ร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรมว่า นักโทษชายกฤติกร ประสมศรี หรือ "เอ" อายุ 34 ปี, นักโทษชาย ดิษยเดช หาญเกียรติกล้า อายุ 25 ปี และนักโทษชาย นิรุตน์ โสแก้ว อายุ 35 ปี ถูกผู้คุมเรือนจำทำโทษอย่างหนัก และทำร้ายร่างกายจนอาการสาหัส เมื่อวันอังคารที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมาและขณะนี้ยังไม่ได้รับการรักษานั้น
เรือนจำอำเภอธัญบุรี
ล่าสุดวันนี้ (22 ธ.ค.60) นายเกียรติกร ปัทมทัตต์ ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอธัญบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ทางเรือนจำได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาแล้วทั้งหมด 3 ท่าน ส่วนทางกรมราชทัณฑ์เอง ได้ให้ผู้ตรวจสอบราชการ ของกรมฯ เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ด้วย เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนรายละเอียดของการรายงานผลนั้น ทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะเป็นผู้เปิดเผยกับสื่อมวลชนต่อไป ซึ่งคาดว่าเรื่องนี้จะตรวจสอบแล้วเสร็จใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน
นายเกียรติกร ปัทมทัตต์ ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอธัญบุรี
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางไป พบกับนางสาวแอร์ (นามสมมติ) ภรรยานักโทษชายกฤตติกร ผู้ต้องขังคดีพยายามฆ่า ที่อ้างว่ถูากผู้คุมเรือนจำทำร้ายร่างกายอย่างสาหัส ที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เผยว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ตนได้ไปเยี่ยม นายเอ แฟนหนุ่มที่เรือนจำ สังเกตเห็นนายเอมีท่าทางอ่อนเพลีย และมีแผลฟกช้ำตามร่างกาย สะโพกเขียวช้ำ ซึ่งนายเอเล่าให้ตนฟังว่า ถูกผู้คุมเรือนจำนายหนึ่ง ตีที่บริเวณร่างกาย และให้คลานพร้อมกับนำมาไม้ตี เอารองเท้าเหยียบที่หน้าอก สาเหตุที่ผู้คุมทำร้ายร่างกาย เพราะนายเอ เข้าไปห้ามปรามคนในเรือนจำไม่ให้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน และตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่เคยได้รับยาจากผู้คุมหรือพบแพทย์เลย
นางสาวแอร์ (นามสมมติ) ภรรยานักโทษชายกฤตติกร
ต่อมา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 ธ.ค. ก่อนที่จะเดินทางไปแจ้งกระทรวงยุติธรรม ทางนายเอยังบอกว่า ตัวเองยังโดนผู้คุมฝึกและทำโทษอยู่ มีการให้ขังซอยหรือขังแยกบนเรือนนอนตั้งแต่บ่ายสอง อีกทั้งยังบอกว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ายังไม่ได้กินข้าวเลย จนกระทั่ง แม่ของนายเอได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวพร้อมกับตนด้วย ทำให้ตนและแม่นายเอ ทนไม่ได้ที่จะเห็นว่าถูกกระทำเช่นนี้ จึงตัดสินใจไปร้องเรียนที่กระทรวงยุติธรรม ส่วนเรื่องที่มีข่าวจากรายการของช่องหนึ่ง ที่ระบุ คลิปเสียงนายเอ ออกมาพูดทำนองว่า 'ไม่มีใครทำอะไรกูได้ กูใหญ่ที่สุด' นางสาวแอร์ได้ชี้แจงว่า ขณะนั้นตนและแม่ เป็นคนที่ไปเข้าเยี่ยมนายเอ และได้บอกกับนายเอ ว่าเหนื่อย สู้ไปก็กลัวจะสู้ไม่ไหว สู้ไปก็ไม่รู้จะชนะหรือไม่ เพราะตนก็กลัวนายเอจะได้รับอันตรายจากคนในเรือนจำ นายเอจึงตอบกลับมาว่า 'ไปเลย ไปทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ไม่ต้องกลัวในนี้ กูอยู่ได้ กูใหญ่ที่สุด' ซึ่งตนมองว่า เป็นคำพูดที่ให้กำลังใจ ไม่ได้แสดงว่ามีอิทธิพลเหนือคนอื่น แต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่บอกว่า นายเอ มีพฤติการณ์แบ่งพรรคพวกในเรือนจำ นั้น ตนไม่ทราบ เพราะระยะเวลาที่ไปเข้าเยี่ยมก็เพียง 10 -15 นาที และไม่ทราบว่าคนในเรือนจำมีความสัมพันธ์กันอย่างไรบ้าง เพราะนายเอก็ไม่เคยพูดให้ฟัง แต่หากนายเอ ตั้งตนว่ามีอิทธิพลเหนือคนอื่นจริง คิดว่า ผู้คุมเรือนจำก็คงมีมาตรการในการควบคุม ตนเป็นเพียงคนข้างนอกคงทำอะไรไม่ได้ แต่เรื่องที่ถูกตีนั้น คิดว่า มันหนักเกินไป ตนเห็นแม่นายเอร้องไห้ ตนก็ใจเสีย แต่ตนก็ต้องเข้มแข็ง สำหรับคลิปในกล้องวงจรปิด นางสาวแอร์ ระบุว่า ภาพในกล้องนั้นยังมองไม่ชัด ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเป็นแฟนของตนจริงหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับทางเรือนอำเภอจำธัญบุรี ตอนนี้พยายามช่วยสามี ในการเรียกร้องความยุติธรรมให้ถึงที่สุด
นางนิด (นามสมมติ) แม่นักโทษชายกฤตติกร
ด้านนางนิด (นามสมมติ) แม่นักโทษชายกฤตติกร เผยว่า รู้สึกสงสารลูกมาก หลังจากที่ได้เห็นรอยบาดแผลที่สะโพกมีรอยช้ำเขียวสีดำตามร่างกายของลูกชาย  และเห็นว่าผู้คุมทำเกินกว่าเหตุ จึงดำเนินการฟ้องร้องไปยังกระทรวงยุติธรรม ส่วนที่ลูกชายถูกกล่าวหาว่า ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในเรือนจำ นั้น นางนิด ระบุว่า ไม่เคยได้ยินว่าลูกทำตัวมีอิทธิพล เวลาไปเจอลูกก็ทำตัวปกติ และไม่มีญาติหรือคนรู้จักในมูลนิธิ ตามที่เป็นข่าว ตนเป็นเพียงแม่ค้าขาย ข้าวแกงถุง หาเช้ากินค่ำ ไม่เคยรู้จักกับใครที่เป็นใหญ่เป็นโต และตอนที่เดินทางไปที่กระทรวงยุติธรรมก็ไม่ได้รู้จักกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวเช่นกัน นางนิด บอกว่า รู้สึกสงสารลูกและเสียใจที่ลูกต้องเจอเรื่องแบบนี้ เพราะนิสัยส่วนตัวของนายเอ เป็นคนพูดเพราะ นิสัยดี เคารพผู้ใหญ่ แต่กับคนในเรือนจำ ตนเองก็ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ เพราะลูกชายก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง อีกทั้ง ตนก็ไม่คิดว่าลูกจะไปตั้งแก๊งมีพรรคพวกในเรือนจำด้วย และเชื่อมั่นในตัวลูก เพราะเวลาไปเยี่ยมนายเอ ตนจะบอกทุกครั้งว่า ทำอะไรให้คิดถึงลูกทั้งสองคนไว้มากเพราะยังเล็กอยู่ ตอนนี้ห่วงเรื่องความปลอดภัยและอาการของลูกชายคิดท้อบ้างในเรื่องการฟ้องร้องแทนลูก แต่ในฐานะแม่ก็พยายามบอกตัวเองให้สู้เพื่อลูกจนถึงที่สุด จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับนางวรนุช พันธุ์ไพโรจน์ หรือนางนุช แม่ของเพื่อนสนิทนักโทษชายกฤตติกร เผยว่า ตนรู้จักกับนายเอตั้งแต่นายเอยังเล็ก เพราะเป็นเพื่อนบ้านกันมานาน นิสัยของนายเอค่อนข้างใจร้อน แต่กับผู้ใหญ่ นายเอจะเป็นคนพูดเพราะ ไม่เคยก้าวร้าวใครเลย
นางวรนุช พันธุ์ไพโรจน์ หรือนางนุช แม่ของเพื่อนสนิทนักโทษชายกฤตติกร
ส่วนคดีพยายามฆ่า ที่นายเอต้องตกเป็นผู้ต้องขัง นั้น นางนุช ระบุว่า คู่กรณีของนายเอ ด่าทอ ต่อว่าแม่นายเอ ด้วยคำหยาบคาย นายเอทนไม่ไหวจึงเกิดบันดาลโทสะ แต่หลังจากนายเอต้องอยู่ในเรือนจำ ตนก็มีโอกาสได้ไปเยี่ยมในเรือนจำอยู่บ่อยๆ พอได้ยินข่าวว่านายเอ โดนผู้คุมทำร้ายร่างกายด้วย ตนสงสารครอบครัวนี้ เพราะแม่นายเอ มาปรับทุกข์และร้องไห้ให้ตนฟัง เรื่องการคบเพื่อน เพราะนายเอ มีเพื่อนเยอะ แต่ก็ไม่เคยไปหาเรื่องใคร หรือไปมีเรื่องกับคนในละแวกนี้ ส่วนที่บอกว่า นายเอไปหาเรื่องคนในเรือนจำก่อน ส่วนตัวไม่ทราบถึงข้อเท็จจริงมากนัก แต่ตั้งแต่รู้จักนายเอมา ไม่เคยเห็นว่า นายเอจะไปข่มเหงคนอื่นว่า เป็นผู้มีอิทธิพลใส่ใคร

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ