2 ตำรวจหน้าจ๋อย ขอโทษโจ๋ ควักปืนขู่-เหยื่อ ยอมอภัย แม้อยากต่อยคืน (คลิป)

23 ธ.ค. 60
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “พระรามสี่ ศูนย์หนึ่ง” ได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในแฟนเพจเฟซบุ๊ก “แหม่มโพธิ์ดำ” พร้อมข้อความระบุว่า “ทำเกินไปหรือเปล่า…เตะชายเสื้อแดงจนเลือดกบปาก ไม่พอเอาปืนชี้หน้าหลายคนอีก ที่ร้ายที่สุดไม่ใช่พื้นที่ตัวเอง เหตุการณ์บางส่วนตำรวจ สน.ท่าเรือ ตามมาจับชายเสื้อแดงในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ผมว่าทำเกินไปนะ ตำรวจสายตรวจท่าเรือ รหัสหมวก 121” โดยจากคลิปวิดีโอจะเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังจับกุมชายเสื้อแดง และยกอาวุธปืนขึ้นมาชี้ไปยังผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และผู้ที่ถ่ายคลิปวีดีโอ
ล่าสุด วันนี้ (22 ธ.ค. 60) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ไปพูดคุยกับ นางวรนุช จตุพรชัยทิพย์ หรือนางนุช ประธานชุมชนทรัพย์มโนทัย เผยว่า ตนเป็นประธานชุมชนนี้ 10 ปี มีความรู้จักสนิดสนมกับคนในชุมชนเป็นอย่างดี ส่วนปัญหาอาชญากรรมเรื่องยาเสพติดนั้น ตนยังไม่เคยพบว่ามีปัญหานี้ เพราะชุมชนตน และชุมชนในบริเวณโดยรอบ 42 ชุมชน จะต้องรายงานผลการตรวจสอบยาเสพติดแก่สำนักเขตทุกเดือน สำหรับเรื่องยาเสพติดในชุมชนนั้น จะไม่ค่อยมี แต่ยอมรับว่าที่ชุมชนทรัพย์มโนทัย มักเป็นทางผ่านของคนร้าย ในการนำยาเสพติดมาจากเขตฝั่งคลองเตย เพราะชุมชนนี้เป็นถนนเส้นที่สามารถทะลุผ่านไปยัง ถนนพระราม 4 ได้ จึงอาจทำให้คนร้ายใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนี
คลิปเหตุการณ์ขณะที่ "แซง" โดนเข้าควบคุมตัว
ส่วนในเรื่องที่มีเจ้าหน้าที่ตามจับกุมเด็กในชุมชน ส่วนตัวมองว่า หากเจ้าหน้าที่จะจับใครใส่กุญแจมือ ก็จะต้องทราบว่าบุคคลนั้นมีความผิดจริง แต่ว่าไม่ควรที่จะนำปืนมาจ่อใส่ในลักษณะนี้ ตนยอมรับว่า นี่แทบจะเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีตั้งแต่เป็นประธานมา ที่พบเรื่องจับกุมสารเสพติดภายในชุมชนของตนเอง นางนุช ยังบอกด้วยว่า ทางชุมชนมีกล้องวงจรปิดอยู่โดยรอบซอยอยู่แล้ว หากเกิดเหตุอะไรก็สามารถแจ้งกับประธานชุมชนเพื่อขอดูกล้องได้ทันที ส่วนความสัมพันธ์ของคนในชุมชนก็มักดูแลและให้ความช่วยเหลือ และคอยสอดส่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชุมชนดีอยู่แล้ว
น้องแซง (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ชายในคลิปที่ถูกตำรวจเข้าควบคุมตัว
พร้อมกันนั้นยังได้ไปสัมภาษณ์ น้องแซง (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี อีกครั้ง เผยว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ ติดต่อมายังคุณแม่ตน เนื่องจากจะให้ตนและครอบครัว รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เข้าไปปรับความเข้าใจกันที่ สน.ท่าเรือ ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา (13.00 น.) ซึ่งพอไปถึงโรงพัก ตนและครอบครับได้เข้าไปในห้องประชุม โดยมี พ.ต.อ.สมบัติ แก่นวิจิตร ผกก.สน.ท่าเรือ นั่งอยู่บริเวณหัวโต๊ะ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายท่านนั่งรออยู่ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายที่ก่อเหตุเอาปืนจ่อหัวและทำร้ายร่างกายตนด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เริ่มถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อปรับความเข้าใจกัน โดยทางตนก็ได่เล่าความจริงทั้งหมดไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ก็ยอมรับผิด จากนั้นทางตำรวจทั้ง 2 นาย ได้ขอโทษตน และจับมือกัน ส่วนตนไม่ติดใจอะไรแล้ว แค่สงสัยว่าตนแค่ออกมาจากบ้านในช่วงกลางคืน ทำไมถึงต้องสงสัยว่าตนติดยาด้วย สำหรับวันนี้ทางตำรวจทั้ง 2 นาย มีสีหน้าหงอยๆ ไม่สู้ดีนัก และมีความเครียดเล็กน้อย ซึ่งหลังจากการขอโทษอะไรกันเสร็จ ก็มีทางพนักงานสอบสวนได้เขียนข้อมูลสอบประวัติก่อนกลับ และมีการปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง แสดงออกถึงความรู้สึกภายในใจ ทั้งตนและเจ้าของบ้าน ส่วนตนตอบไปแค่ว่าตอนแรกก็แค่โมโห แต่ตอนนี้ไม่ติดใจอะไรแล้ว ท้ายที่สุด เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตนไม่อยากออกจากบ้านตอนกลางคืนอีกเลย เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก โดยวันที่เกิดเรื่อง ยอมรับว่าตนโมโหที่ปากแตก อยากต่อยเจ้าหน้าที่ตำรวจคืน แต่ทำไม่ได้ เพราะเขาเป็นตำรวจ ทั้งนี้ตนและทางครอบครัวยืนยัน ไม่ติดใจเอาความแล้ว

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ