เมื่อวันที่ 3 ก.ค.63 เวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พานางชะอม (นามสมมติ) จำลองเหตุการณ์ ชี้จุดที่เจอรถแบ็กโฮ โดยนางชะอม ได้เริ่มเดินทางออกจากบ้านของตัวเอง แล้วเดินผ่านถนนเส้นกลางหมู่บ้าน จากนั้นก็เลี้ยวเข้าซอยบ้านน้องชมพู่ เพื่อมาชี้จุดที่ใต้ต้นมะม่วง หน้าบ้านของนางจุไรภรณ์
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
เมื่อมาถึงใต้ต้นมะม่วง นางชะอมได้ชี้จุดที่เจอรถแบ็กโฮ สภาพรถตั้งวางอยู่ ในวันที่ 11 พ.ค.63 ซึ่งตั้งอยู่ในหลุมดิน โดยหลุมดินที่นางชะอมเจอรถของเล่นนั้น เป็นคนละหลุมที่นางแตงโม มาชี้จุดในเมื่อวานนี้ ซึ่งทั้ง 2 หลุม อยู่ก่างกันประมาณ 1 เมตร โดยตอนที่นางชะอมเดินชี้จุด ก็อยู่ในสีหน้าที่ปกติ ไม่ได้มีความเครียดแต่อย่างใด
หลังจากชี้จุด นางชะอม ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนขอยืนยันว่าพบเจอรถแบ็กโฮของเล่น ในวันที่ 11 พ.ค.63 จริง สภาพรถของเล่นตั้งวางอยู่ในหลุม สีของรถเป็นคันสีเหลืองส้ม แต่ตนยืนดูรถแบ็กโฮไม่นาน จากนั้นก็รีบไปช่วยตามหาน้องชมพู่จนค่ำมืด
ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่า ไม่ได้จำรถขนดินของเล่นผิดคัน ว่าเป็นรถแบ็กโฮแต่อย่างใด และตนไม่ได้เห็นรถแบ็กโฮ พร้อมกันกับนางแตงโม คาดว่านางแตงโม น่าจะมาจุดที่น้องชมพู่หายตัวไปก่อนตน อย่างไรก็ตามวันที่ 12-14 พ.ค.63 ตนก็มาช่วยหาน้องชมพู่ทุกวัน ซึ่งในช่วงวันดังกล่าวนี้ ตนไม่เห็นรถแบ็กโฮของเล่นอีกแล้ว
สำหรับวันที่ 11 พ.ค.63 ที่ผ่านมานั้น ช่วงเวลาประมาณ 08.00 น. ตนก็เอาหญ้าไปให้ควาย กระทั่งเวลา 09.00 น. ตนก็ได้ไปจับกบหาลูกอ๊อด และกลับเข้าบ้าน ได้ยินข่าวว่าน้องชมพู่หายตัวไป ตนจึงเดินจากบ้านของตน ไปยังจุดที่น้องชมพู่หายตัวไปประมาณ 300 เมตร กระทั่งตนไปเจอรถแบ็กโฮที่ใต้ต้นมะม่วง สภาพรถตั้งวางอยู่ปกติ เหมือนเด็กเพิ่งเล่นเสร็จ
นางชะอม เล่าต่อว่า ตั้งแต่ตนให้ข่าวเรื่องรถนี้ไป ก็ไม่มีจดหมายข่มขู่ มาวางที่หน้าบ้านตนแต่อย่างใด แต่ตนก็ยังรู้สึกหวาดระแวง และรู้สึกไม่ปลอดภัย กลัวว่าจะถูกข่มขู่เหมือนนางแตงโม