เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.63 ที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับชาย 1 ราย ทราบชื่อนายนริน เชื้อคมตา อายุ 48 ปี อยู่ที่ 56 หมู่ที่ 2 บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ในข้อหา ”กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี” ตามหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหารที่ 89/2563 ลงวันที่ 24 มิ.ย.63 หลังพบก่อเหตุในคดีทำอนาจารเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ซึ่งเป็นหลานสาว ก่อนเกิดเหตุน้องชมพู่เสียชีวิต โดยศาลอนุมัติออกหมายจับแล้ว
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้คุยกับน้องตี๋ (นามสมมติ) ลูกชายของนายนริน เปิดเผยว่า พ่อของตนถูกตำรวจ สภ.กกตูม มาเชิญตัวไปตั้งแต่ 3 วันที่แล้ว จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้กลับมาบ้านเลย โดยตนเองไม่รู้เลยว่าพ่อถูกเชิญตัวไปด้วยเรื่องอะไร เพราะตำรวจมาก็ไม่ได้บอกอะไรกับตน ได้มาพาพ่อไป และตนยังไม่เคยไปหาพ่อ
ส่วนแม่ก็ไปหาพ่อบ้าง บอกเพียงว่าพ่อสบายดี ส่วนแม่ของตนตอนนี้ไม่อยู่บ้าน น่าจะออกไปข้างนอกแต่ไม่รู้ไปไหน เพราะแม่ยังไม่กลับมา แม้ตนเองไม่รู้เรื่องอะไร แต่ตนเองไม่รู้ข้อมูลอะไร และตนเชื่อว่าพ่อไม่ได้ทำอะไรผิด
ด้านนายนริน เคยให้สัมภาษณ์กับอมรินทร์ทีวี พร้อมกับได้โชว์แขน และถอดเสื้อนั่งสัมภาษณ์ พบว่าไม่มีร่องรอยของการขีดข่วนแต่อย่างใด ตนประกอบอาชีพทำสวน กีดยาง ยืนยัน 100% ว่าตนไม่ใช่คนร้าย และไม่เคยขึ้นไปตัดฝืน หรือหาของป่าบนภูเหล็กไฟ
เรื่องเสื้อส้มที่ได้จากซื้อปุ๋ยแล้วแถมเสื้อ ตนก็ไม่เคยมีเสื้อสีส้ม เพราะตนเองไม่ได้ซื้อปุ๋ย ส่วนเท้าก็ไม่พบรอยแผลแต่อย่างใด
ทีมข่าวยังได้คุยกับนางปุ้ย เชื้อคมตา ชาวบ้านกกกอก ที่รู้จักกับนายริน เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เรื่องคดีอนาจารเด็ก 5 ขวบไม่เคยมีผู้ใหญ่ทำกับเด็ก มีแต่เด็กชาย 5 ขวบ ซึ่งผ่านมาประมาณ 5-6 เดือนแล้ว โดยครอบครัวเด็กได้ไกล่เกลี่ยกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้นายนรินเป็นญาติห่าง ๆ ของตน และอยู่หมู่บ้านเดียวกัน และตนเพิ่งทราบว่าถูกออกมหมายจับ ก็ยังไม่รู้รายละเอียด แต่ตนคิดว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิด เพราะเท่าที่ตนได้ยินมาเป็นแค่เรื่องระหว่างเด็กกับเด็กที่ไม่ได้มีการแจ้งความเอาผิดกัน
สำหรับตนไม่เชื่อว่านายนริน จะทำแบบนั้นได้ เพราะนายนรินก็มีลูก และเด็กหญิงที่บอกว่าเป็นหลานสาวก็เป็นลูกพี่ชายนายนรินด้วย เบื้องต้นตนพูดอะไรไม่ได้มาก เพราะตนก็เป็นเพียงชาวบ้านคนหนึ่ง แต่ตนเชื่อว่านายนรินไม่ใช่ผู้กระทำผิด และคิดว่าไม่น่าใช่คนที่ทำร้ายน้องชมพู่อีกด้วย
ทีมข่าวได้คุยกับนายอนามัย นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา กล่าวว่า สำหรับเรื่องคนบ้าตนไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่เคยเห็นผ่านเข้ามาบ้านตนมาก่อน ตนจึงคิดว่าจะเป็นคนเร่ร่อน ส่วนเรื่องที่ตำรวจกำลังตามจับคนชิงรถกระบะตราโล่ ของสภ.เขาวง แล้วหลบหนี ตนเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวโยงกันหรือไม่ เพราะตนก็ยังคงลุ้นตลอดทุกวันว่าวันหนึ่งจะจับคนร้ายได้
และวันนี้ก็มีคนโทรศัพท์มาสอบถามตนเรื่องออกหมายจับชายกระทำเด็ก 5 ขวบ หลังเด็กถูกอนาจาร ซึ่งที่บ้านกกกอกไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และไม่มีใครทำอนาจารหลานในหมู่บ้านเลย ตนได้ยินแค่เรื่องเด็กกับเด็กเท่านั้น ตนไม่รู้รายละเอียดจึงขอไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช ฉายาสารวัตรแรมโบ้ อดีตผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ และอดีตสารวัตรกองปราบนครบาล เปิดเผยว่า มีโอกาสเป็นไปได้ว่านายนริน อาจจะเกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่ เพราะอยู่หมู่บ้านเดียวกัน รู้จักกันมาก่อน แต่เป็นไปได้แค่ไหน ต้องมีพบยานบุคคล ต้องมีพยานแวดล้อม ต้องเคยสัมผัสตัว และอยากให้ตรวจดีเอ็นเอเสียก่อนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจริงหรือไม่ ถ้ามีดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยอยู่ในช่องคลอด หรือมีขนเพชรติดตัวของน้องชมพู่ ก็คงดิ้นไม่ออก ปิดคดีได้เลย
ขณะที่ช่วงเวลา 20.00 - 21.00 น. ทีมข่าวได้ตั้งกล้องถ่ายทอดสดอยู่ที่หน้าบ้านนายนริน ภรรยาของนายนรินที่เดินทางกลับมาจากโรงพัก ได้มาขอให้ทีมข่าวออกนอกบริเวณบ้าน และภรรยานายนรินพร้อมญาติได้เดินเข้าบ้านทันที โดยไม่ขอคุยกับทีมข่าว เนื่องจากบอกว่าตัวเองเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว โดยภรรยาและญาตินายนริน ได้ปิดบ้านและขอให้ทีมข่าวออกจากพื้นที่ก่อน เพราะต้องการพักผ่อน
