ส.ส.ประชาชาติ นำครอบครัวผู้เสียชีวิต 3 ศพบนเขาตะเว ทวงถามข้อข้องใจหลังคดีไม่คืบ

22 มิ.ย. 63

วันที่ 22 มิ.ย.63 นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส เขต 3 พรรคประชาชาติ พร้อมด้วย นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ (ทนายแวยู แฮ) ส.ส.นราธิวาส เขต 4 พรรคประชาชาติ ได้นำครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต 3 ศพ บนเทือกเขาตะเว ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เนื่องจากสำคัญผิดว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562

950182

โดยครอบครัวของ นายฮาพีซี มะดาโอะ อายุ 24 ปี นายบูดีมัน มะลี อายุ 26 ปี และนายมะนาซี สะมะแอ อายุ 27 ปี ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เข้าพบกับ พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และ พ.ต.อ.ปัตตะ มะดาวา รองผบก.ภ.จว.นราธิวาส เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี

364917

นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส เขต 3 บอกว่า ในฐานะตัวแทนจากพรรคประชาชาติ ทั้งนี้ เนื่องจากทาง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้ให้อภิปรายในสภาเมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา โดยได้พูดถึงกรณีการเสียชีวิตทั้ง 3 ศพบนเขาตะเว โดยทางครอบครัวผู้เสียชีวิตเกิดความกังวลว่า คดีมีการดำเนินการหรือไม่ คดีมีความคืบหน้าว่าอย่างไร จำเลยในเรื่องนี้เป็นใคร และเชื่อว่าไม่ใช่แค่ครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่รวมถึงคนทั้งประเทศที่ต้องการคำตอบ อยากให้ทางรัฐบาลดำเนินการตามข้อกฎหมาย โดยทางพรรคประชาชาติ จะไม่ยอมให้เรื่องนี้เงียบไปจนกว่าจะได้รับคำตอบ

327783

นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาสเขต 4 พรรคประชาชาติ ได้ชี้แจงถึงรายละเอียดของคดีนี้ว่า สำนวนคดีมีอยู่ 2 สำนวนโดยสำนวนแรกมีการไต่สวนการตาย โดยผู้ตายทั้ง 3 คน ว่าตายด้วยสาเหตุอะไรปรากฏว่าสำนวนนี้มีการสอบพยานสอบคำให้การ โดยทางพนักงานสอบสวนที่ได้มีการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการการทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ส่งสำนวนไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา และทราบว่ายังไม่มีการยื่นคำร้องต่อศาล เนื่องจากอยู่ในช่วงของสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้จะได้สอบถามไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดนราธิวาส เพื่อให้ทราบผลถึงการทำสำนวนการไต่สวน ถึงการเสียชีวิตเพราะคดีนี้ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหาร 2 นาย ที่ถูกกล่าวหาว่าฆ่าทั้ง 3 ศพนั้น ต้องรอผลการไต่สวน เพื่อจะได้นำมาประกอบสำนวนต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส