พิจิตรแจงจระเข้ผอมโซคอยาว เกิดจากการกินพลาสติก

โลกออนไลน์แชร์ภาพจระเข้ในบ่อเลี้ยงบึงสีไฟมีสภาพคอยาวผอมผิดจากจระเข้ทั่วไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ประมงตรวจสอบจระเข้ตัวดังกล่าวมีอาการป่วยจากการกินพลาสติกที่ประชาชนนักท่องเที่ยวโยนลงในบ่อ

จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพจระเข้ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงสัญลักษณ์ของจังหวัดพิจิตรที่มีสภาพคอยาวผอมโซนอนอยู่ใต้ต้นไม้ภายในบ่อเลี้ยงจระเข้ในพื้นที่บึงสีไฟแหล่งท่องเที่ยวสำคัญใจกลางเมืองพิจิตร โดยหลังจากที่มีการแชร์ภาพดังกล่าวต่างมีประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจแสดงความคิดเห็นและเป็นห่วงจระเข้ตัวที่มีสภาพผอมแห้ง

ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ประมงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่บริเวณบ่อเลี้ยงจระเข้ในบึงสีไฟโดยมีจระเข้ที่เลี้ยงไว้ทั้งหมด 84 ตัว โดยส่วนใหญ่จะมีลักษณะอ้วนรูปร่างใหญ่และกินอาหารโดยเฉพาะโครงไก่ที่ทางเจ้าหน้าที่ทำการเลี้ยง ในส่วนจระเข้ที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวเก็บภาพที่จระเข้มีลักษณะที่คอยาวและผอม วันนี้ไม่พบจระเข้ตัวดังกล่าวขึ้นมาบนพื้นดินและยังคงอาศัยอยู่ในน้ำซึ่งทางเจ้าหน้าที่ประมงยืนยันว่าจระเข้ตัวดังกล่าวมีอยู่จริงในบ่อเลี้ยงซึ่งมีสภาพผอม เนื่องจากมีการป่วยเนื่องจากกินจากการกินพลาสติกที่ประชาชนนักท่องเที่ยวโยนลงในบ่อ

โดยนายวัฒนา ริ้วทอง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเขต 3 พิจิตร ระบุว่าภาพที่จระเข้มีลักษณะที่คอยาวและผอมซึ่งมีอยู่จริงในบ่อเลี้ยงโดยจระเข้ตัวดังกล่าวที่นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ เป็นจระเข้ที่มีอาการป่วยจากการกินพลาสติกที่ประชาชนนักท่องเที่ยวโยนลงในบ่อ จนทำให้พลาสติกไปเคลือบกับระบบภายในร่างกายทำให้มีลักษณะที่ผอมแตกต่างกับจระเข้ตัวอื่นที่มีลักษณะอ้วนสมบูรณ์

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ประมงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการให้อาหารและกำชับประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่าโยนสิ่งของและเศษขยะพลาสติกลงในบ่อเพราะเป็นอันตรายกับจระเข้ที่เลี้ยงไว้ โดยในส่วนการให้อาหารซึ่งทางเจ้าหน้าที่ประมงมีงบประมาณในการเลี้ยงจำนวน 5,000 บาทต่อปี ซึ่งทางจระเข้ที่กินอาหาร1ครั้งสามารถอยู่ได้ 7 วันและจระเข้ที่เลี้ยงไว้ส่วนมากจะมีลักษณะที่สมบูรณ์