กรณีเหตุการณ์สาวร้อยเอ็ด จะโดดตึกฆ่าตัวตายที่วิทยาลัยเทคนิคแพร่ หลังแอบขึ้นไปอาคารเรียนชั้น 4 คณะครูจึงช่วยกันพูดเกลี้ยกล่อม และได้รีบแจ้งเจ้าหน้าตำรวจ สภ.เมืองแพร่ และหน่วยกู้ภัยแพร่ มายังพื้นที่เกิดเหตุในทันที
ทั้งนี้หลังจากพูดเกลี้ยกล่อมแล้ว ผู้หญิงรายดังกล่าวก็รู้สึกผ่อนคลาย ทางครูวิทยาลัยเทคนิคแพร่ ได้นำข้าวและน้ำให้รับประทาน จากนั้นได้สอบถามทราบชื่อ น.ส.อรสา ไพรพฤกษ์ อายุ 32 ปี ชาวจ.ร้อยเอ็ด อ้างว่ามีบุตร 1 คน ได้เดินทางมาทำงานที่ จ.แพร่ ประมาณ 1 เดือน แต่ไม่ได้รับเงินจากนายจ้าง โดยบอกว่ามาทำงาเป็นช่างทาสี แล้วเมื่อเช้าวันนี้นายจ้างบอกว่าจะมาส่งขึ้นรถกลับบ้านพร้อมกับค่าแรง แต่พอนายจ้างมาส่งถึงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในอ.เด่นชัย ก็รีบเข้าห้องน้ำ และเมื่อออกมาจากห้องน้ำนายจ้างก็หายไป จึงเดินด้วยเท้าเรื่อยมาเพื่อจะกลับบ้าน
เมื่อถึงเวลาเที่ยงวัน เกิดความรู้สึกหิวข้าว แต่เงินไม่มีติดตัว จึงคิดจะไม่มีชีวิตอยู่ เมื่อเดินมาอีกสักระยะเห็นตึกวิทยาลัยเทคนิคแพร่ จึงตัดสินใจว่าจะไปกระโดดตึก แต่กลับมีคนมาพบเห็นเข้าและช่วยเหลือไว้ได้ทัน
จากนั้นทางวิทยาลัยเทคนิคแพร่ ได้ช่วยกับรวบรวมเงิน ประมาณ 3,000 บาท มอบเงินเป็นค่ารถให้กับสาวที่จะโดดตึก และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พาไปส่งขึ้นรถที่สถานีขนส่ง และพยามปลอบไม่ให้คิดสั้น คิดถึงลูกที่รออยู่ทางบ้าน ซึ่งสาวรายนี้ก็รับปากจะไม่คิดสั้นอีก
อย่างไรก็ตาม เมื่อตำรวจตรวจสอบข้อมูลในเวลาต่อมา พบว่าสาวร้อยเอ็ดที่พยามจะโดดตึกครั้งนี้ มีประวัติเคยอ้างเหตุในลักษณะแบบนี้มาหลายครั้งและหลายจังหวัดแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.52 อ้างว่าน้อยใจแม่ ขู่กระโดตึก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถัดมาวันที่ 18 ก.ค.62 ปีนตึก 3 ชั้น ขู่จะกระโดดฆ่าตัวตาย จ.กระบี และในวันที่ 13 ส.ค.62 ขู่จะกระโดดสะพานลอย จ.ลำพูน ส่วนปลายปีช่วงเดือน ก.ย.62 ก็ยังไม่เลิกขู่ว่าจะกระโดดสะพานลอยเช่นเดิม
นอกจากนี้ ยังพบว่าได้ก่อเหตุแบบเดียวกันนี้ในอีกหลายจังหวัด ตั้งแต่ต้นปี 63 ขู่ว่าจะกระโดดสะพานลอย ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนวันที่ 9 มิ.ย.63 แกล้งเป็นลมด่าน จ.เชียงใหม่ ถัดมาวันที่ 12 เดือนเดียวกัน ปีนอาคารมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กระทั่งมาก่อเหตุที่วิทยาลัยเทคนิคแพร่
ทางด้านคณะครูวิทยาลัยเทคนิคแพร่ ได้รวมตัวกันเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับทางด้านน.ส.อรสา ไพรพฤกษ์ จะได้ไม่ไปทำแบบนี้กับใครอีก
ทางด้านนางเมธิณี บุญเอกบุศย์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคแพร่ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เกลี้ยกล่อมแล้วก็ได้ให้ความช่วยเหลือระดมทุน มอบเงินให้จำนวน 3,000 บาท แต่ภายหลังเมื่อได้เช็กดูข่าวก่อนหน้าก็ต้องตกใจ เพราะแต่ละวิธีการแนบเนียนมาก สาวรายนี้พยายามเดินขึ้นไปตึกสูง ๆ เพื่อนั่งขอบ ๆ และร้องกรีดเสียงดัง หวังจะเรียกร้องความสนใจ เมื่อผู้คนละแวกนั้นนั้นได้ยินเสียงก็ตามหาเสียงว่าเสียงมาจากไหน
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.วุฒิชัย ชูรัตนศุภวันนท์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ เจ้าของคดี ได้ดำเนินการอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน และขออำนาจหมายศาลออกหมายจับ น.ส.อรสา ไพรพฤกษ์ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
