2 ทนายดังเห็นต่าง ผิด-ไม่ผิด? สาวแบงก์ไลฟ์แฉแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ตร.ฟันใครรับเปิดบัญชี (คลิป)

จากคลิปสาวพนักงานธนาคาร ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์หา หลอกให้โอนเงิน แต่สาวเจ้ากลับรู้ทัน ก่อนตลบหลัง ล้วงเอาทั้งชื่อ ที่อยู่ของโจรแสบออกมาแฉ ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น ความคืบหน้าวันที่ 1 ธ.ค. 60 เวลา 10.00 น. พ.ต.ท.จิรัฏฐ์ จิรพัชรศิรพร รองผกก.สส.สภ.เมืองลำปาง และ พ.ต.ต.พิรชัช ปากเพรียว สว.สส.สภ.เมืองลำปาง พร้อมด้วยชุดสืบสวน ได้เดินทางไปที่ชุมชนพระแก้ว ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นบ้านของ นายพูลสวัสดิ์ คำภิระแปง อายุ 37 ปี มีรายชื่อปรากฎเป็นเจ้าของบัญชีที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พยายามหลอกโอนเงินเข้าบัญชี เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบ นายพูลสวัสดิ์ ก่อนจะแสดงตัวและเชิญตัวไปให้ปากคำที่ สภ.เมืองลำปาง

เบื้องต้น นายพูลสวัสดิ์ ได้ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว แต่เคยไปเปิดบัญชีธนาคารให้กับคนที่มาติดต่อ ให้ตนเปิดบัญชี โดยได้ค่าจ้าง 1,000 บาท ส่วนสมุดบัญชี และบัตรเอทีเอ็มบุคคลดังกล่าว ได้เก็บไปทั้งหมด และไม่เคยรู้จักว่าบุคคลคนดังกล่าวมาก่อน โดยเจอกันโดยบังเอิญ และถูกชักชวนให้เปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งในวันที่ไปเปิดบัญชี พบคนที่รับจ้าง เปิดบัญชีให้คนดังกล่าวอีก 3 คน ส่วนเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งกับธนาคารตอนเปิดบัญชี เป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ทางบุคคลดังกล่าวเตรียมไว้ให้ พร้อมได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตนเองอีกด้วย ทางด้าน พ.ต.อ.กฤษดาพันธ์ เกษม ผกก.สภ.เมืองลำปาง เปิดเผยว่า ส่วนในการดำเนินคดีต้องรอให้ทางผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่ที่เกิดเหตุก่อน โดยขณะนี้ เรื่องดังกล่าวกำลังเป็นข้อถกเถียงทางกฎหมายไปทั่วสังคมออนไลน์ว่า การกระทำของสาวแบงก์มีความผิดตาม พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน ห้ามมิให้บุคคลผู้ล่วงรู้หรือได้มาซึ่งความลับของลูกค้า และเปิดเผยความลับ ทางด้าน ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เปิดเผยว่า ที่ตนโพสต์เฟซบุ๊กไปนั้น แค่ออกมาบอกว่า พนักงานแบงก์น่าจะมีความผิดเรื่องระเบียบภายในธนาคาร เพราะยืนยันว่ากฎระเบียบของธนาคารไม่ให้เปิดเผยข้อมูลลูกค้า แต่ไม่เคยออกมาพูดว่าสาวแบงก์มีความผิด พ.ร.บ. ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.2551 มาตรา154-155 เพราะเป็นการโพสต์เพื่อให้ข้อมูลความรู้ทางกฎหมายให้กับประชาชน ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาขณะนี้ ทนายรณณรงค์ ไม่ได้มีความวิตกกังวลอะไร เพราะมองว่า ตัวเองโดนด่าเป็นประจำอยู่แล้ว และไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ทางทนายรณณรงค์ แนะนำว่า ถ้าสาวแบงก์เจอแก๊งคอลเซนเตอร์โทรศัพท์มาในลักษณะเช่นนี้ ไม่ควรไลฟ์สดผ่านโซเชียล แต่ควรอัดคลิปไว้แล้วนำส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ เพราะไม่ใช่หน้าที่สาวแบงก์ ที่จะไปจับโจร ส่วนที่พนักงานแบงก์มีการเปิดเผยข้อมูลลูกค้า ความจริงแล้วตนห่วงเรื่องความลับของลูกค้า แต่ถ้าพนักงานแบงก์อยากออกมาเผยแพร่เพื่อเป็นการเตือนภัยสังคม ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรต้องระมัดระวังเรื่องของการนำเสนอ สุดท้ายนี้ ทนายรณณรงค์ บอกว่า ถ้าหากตนทำให้ใครไม่สบายใจต้องขออภัย เพราะเตือนด้วยความหวังดี และไม่อยากเห็นใครถูกไล่ออกจากงาน ด้วยความไม่รู้เรื่องราวของกฎหมาย

ขณะที่ ทนายเกิดผล แก้วเกิด กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด คือมีบุคคลบางท่านแสดงความคิดเห็นว่าเรื่องดังกล่าวมีความผิด เนื่องจากนำข้อมูลทางการเงินของลูกค้ามาเปิดเผย แต่ตนมองว่าพนักงานแบงก์คนดังกล่าวไม่มีความผิด เพราะไม่มีเจตนาจะกระทำ และไม่ได้ทำในฐานะพนักงาน ตามหลักกฎหมายอาญา จะต้องมีเจตนาก่อน หากไม่มีเจตนาถือว่าไม่มีความผิด โดยตนมองว่า ไม่ควรลงโทษ ควรจะเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งให้กับพนักงานแบงก์คนดังกล่าวมากกว่า ที่สามารถมีสติตอบโต้กับแก๊งคอลเซนเตอร์ การกระทำดังกล่าวควรได้รับการคุ้มครอง ไม่ใช่ไล่ออก ซึ่งต่อมาทางต้นสังกัดทางสถาบันทางการเงินที่พนักงานแบงก์ทำงานอยู่ ได้ออกมายกย่องการกระทำของพนักงานแบงก์อีกด้วย ส่วนทางด้าน นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าบุคคล และผู้บริหารสูงสุดเครือข่ายสาขา ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางผู้บริหารชื่นชม น.ส.มารีนา ที่มีความกล้าหาญ เสียสละที่จะช่วยป้องกันมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เกิดขึ้น แต่ตนเป็นห่วงมากที่สุดเรื่องความปลอดภัยของพนักงาน เนื่องจากยังต้องทำงานอยู่ในพื้นที่ เมื่อไปให้ข่าวกับสื่อมวลชนแล้วก็ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยของพนักงานแบงก์ต่อไป และทางธนาคารไม่มีนโยบายที่จะลงโทษพนักงาน