จากกรณีครอบครัว ด.ญ.รัตนา หรือ น้องขิม อายุ 14 ปี ชาว ต.ทุ่งทอง อ.ทรายทองวัฒนา จ.กำแพงเพชร ร้องเรียนกับอมรินทร์ทีวี หลังไม่ได้รับความเป็นธรรม ในคดีที่น้องขิมซ้อนรถจักรยานยนต์ กลับจากงานครบ 100 วันเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่เสียชีวิต และกำลังจะกลับบ้าน โดยวันนั้นซ้อน 3 มากับเพื่อนรวม 3 คน กระทั่งมาถูกรถกระบะชน
ทั้งนี้ด.ญ.ขิม คนซ้อนคนที่ 3 และด.ช.ฟิล์ม คนขี่รถจักรยานยนต์ เสียชีวิต 2 คน ส่วนด.ช.โอ๊ต คนนั่งตรงกลางเจ็บสาหัส เหตุเกิดวันที่ 5 มี.ค.63 ที่ผ่านมา บริเวณหน้า รร.บ้านคลองสุขใจ ต.ทุ่งทอง อ.ทรายทองวัฒนา จ.กำแพงเพชร
ล่าสุดวันที่ 11 มิ.ย. ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณหน้า รร.บ้านคลองสุขใจ ต.ทุ่งทอง อ.ทรายทองวัฒนา จ.กำแพงเพชร พบกับนายสมควร อายุ 53 ปี ลุงของ ด.ญ.ขิม ผู้เสียชีวิต ได้ชี้ให้ทีมข่าวดูจุดเกิดเหตุที่หลานสาวถูกรถกระบะพุ่งชน เส้นทางเป็นลักษณะ 2 เลน ขับสวนทางกัน แต่มาชนกันตรงกลางถนน
นายสมควร เปิดเผยว่า หลานสาวกลับจาก ไปร่วมงานทำบุญร้อยวันเพื่อนสนิท กำลังกลับบ้านที่จะถึงอีกเพียง 500 เมตร ก่อนมาถูกกระบะพุ่งชนจนเสียชีวิตคาที่ และขณะเกิดเหตุตนมาดู คิดว่าคู่กรณีน่าจะเมา แต่ทำไมตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ถึงไม่มี ตนติดใจว่าคนก่อเหตุอาจจะเมาแล้วขับชน หรืออาจจะแซงมาชนรถจักรยานยนต์ที่หลานสาวซ้อนมา
ทั้งนี้ครอบครัวยังไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะหลังเกิดเหตุชดใช้ค่าทำศพแค่ 10,000 บาท และไม่ได้ช่วยเหลือใด ๆ อีกเลย มีเพียงแม่คนก่อเหตุมาร่วมงานศพเท่านั้น พอผ่านไป 3 เดือน ก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย มองว่าคดีไม่คืบหน้า และตั้งข้อสังเกตว่า คนก่อเหตุอาจเป็นญาติกับตำรวจที่รับทำคดี เพราะเช็กกล้องวงจรปิดแล้ว จุดที่เกิดเหตุกลับเสีย คล้ายตำรวจเข้าไปลบหรือไม่ และตำรวจที่รับผิดชอบคดียังโทรศัพท์มาข่มขู่ครอบครัวด้วยว่า อย่ายุ่งกับคดี
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้รับคลิปเสียง จากนางณัฐนรี แม่ของ ด.ญ.ขิม ที่อ้างว่าถูกตำรวจโทรศัพท์มาข่มขู่ หลังจากทวงถามคดีของลูกสาว เป็นคลิปเสียงความยาว 4.15 นาที ใจความตำรวจพูดกับแม่ว่า "ผมอยากให้คุณฟังผมไว้ว่า ผมเป็นคนดีพอ เพราะฉะนั้นถ้าตนทำผิดกฎหมายฟ้องตนได้ ถ้าคุณดีพอ และทำผิดกฎหมายจะไปจับด้วยตนเอง"
แม่เด็กจึงถามว่า "อันนี้ถือว่าข่มขู่รึเปล่าคะ"
ตำรวจที่ทำคดีตอบกลับว่า "แล้วแต่คุณจะคิด ฟ้องเลย ผมอยากให้คุณฟ้องผม ฟ้องแล้วผมไม่เชื่อว่าครอบครัวคุณเป็นคนดี บันทึกไว้ บันทึกไว้ไปฟ้องศาล กูเหลืออดแล้ว ผมสงสารคุณ ลูกคุณตาย แต่คุณมาตีความว่าผม แต่เดิมจะไปร่วมงานศพลูกคุณด้วยซ้ำ สงสารเด็ก ผมบอกคุณแล้วว่ากระบะประมาท แต่ไม่รู้คุณไปฟังใคร แต่คุณมากวนร้อยเวรแบบนี้ ผมพร้อมจะตัวต่อตัวกับคุณ ผมอยากจะบอกคุณว่า ผมเสียใจที่สุดที่ลูกคุณตาย แต่คุณเสือกมาทำกับผมอย่างนี้เหรอ ไม่เป็นไร ผมพร้อมที่จะเป็นศัตรูกับคุณ คุณพร้อมเป็นศัตรูกับผมไหม ผมโทรมาบอกเฉย ๆ ทีหลังอย่าไปวุ่นวาย"
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ไปยังบ้านของคนขับกระบะ แต่ได้รับการปฏิเสธให้ข้อมูล จึงยืนคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง ใจความบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าญาติผู้ตายอยากได้อะไร ให้ไปฟ้องร้องเอา ตนยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ และทุกอย่างมีหลักฐานหมด ให้ตำรวจดำเนินการไป ตนไม่เคยหนีไปไหน วันที่เกิดเหตุ รถจักรยานยนต์ขี่เข้ามาหาตน และตนยืนยันว่าตนไม่ได้หลบรถที่อยู่ฝั่งซ้าย แต่พอเห็นจักรยานยนต์ขี่ตรงเข้ามาหาตน จึงหักหลบทำให้ชนเข้าฝั่งซ้ายของหน้ารถตน เพราะถ้าไม่หักหลบ ก็จะชนเข้ากลางลำ
ทั้งนี้ตนได้ช่วยค่าทำศพเท่าที่ช่วยได้ โดยให้ไปศพละ 10,000 บาท ส่วนคนเจ็บให้ไป 3,000 บาท ตามกำลังที่มี ทีแรกจะช่วยเหลือค่าทำขวัญเพิ่มเติมอีก แต่ญาติคนตายจะฟ้องตนอย่างเดียว รวมทั้งยังมาเรียกร้องและฟ้องสื่อแบบนี้ ตอนนี้ตนก็ปล่อยให้เป็นไปตามขบวนการที่ตำรวจดำเนินการ
