ทหารบก-เรือ แฉสาวแต่งพยาบาลลวงรักดูดเงินนับแสน รพ.ดังแจงไม่ใช่พนักงาน (คลิป)

จากกรณีวันที่ 8 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก "ครูพยาบาล" มีการโพสต์แฉหญิงสาวรายหนึ่ง ที่มีพฤติกรรมแต่งตัวอ้างว่าเป็นนางพยาบาล และไปแต่งงานกับผู้ชายในเครื่องแบบ

ขณะที่พี่ชายเหยื่อรายหนึ่ง ซึ่งน้องชายเป็นตำรวจ ระบุอ้างว่า สาวคนนี้แท้ที่จริงแล้วทำงานเป็นสาวเชียร์เบียร์อยู่ที่ จ.ลพบุรี และ จ.สระบุรี หลอกน้องชายแต่งงานแล้วให้ไปกู้เงิน หรือขอยืมเงินคนอื่น ๆ จนน้องชายทนไม่ไหว จึงต้องขอเลิก ล่าสุดยังไปหลอกแต่งงานกับชายในชุดเครื่องแบบรายอื่น ๆ อีก

ล่าสุดวันที่ 9 มิ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ได้พูดคุยผ่านทางวีดิโอคอลกับ น.ส.วิว (นามสมมติ) พยาบาลวิชาชีพที่โรงพยาบาลในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตนพบเห็นน.ส.การ์ตูน ในชุดพยาบาล กำลังเต้นวาบหวิว อยู่ในห้องนอน ผ่านทางแอพ tiktok จึงเห็นว่าพฤติกรรมไม่เหมาะสม เพราะเต้นขณะสวมใส่เครื่องแบบชุดพยาบาล อีกทั้งยังเห็นมีการโพสต์ใส่ชุดพยาบาลไปเดินห้าง หรือตามที่สาธารณะ จึงรู้สึกไม่เหมาะสม และผิดสังเกต เนื่องจากปกติผู้ที่ประกอบวิชาชีพพยาบาลจะไม่ใส่ชุดทำงานไปเที่ยวกัน รุ่นน้องพยาบาลคนหนึ่งได้สอบถามไปในคอมเมนต์ของน.ส.การ์ตูน ว่าเป็นพยาบาลที่ไหน เรียนจบที่ไหน มีใบประกอบวิชาชีพหรือไม่

ทำให้น.ส.การ์ตูน ไม่พอใจ และออกมาทำคลิปต่อว่า และโพสต์ข้อความตอบกลับรุ่นน้องพยาบาลว่า "เป็นพยาบาลจริง เรียนจบจากวิทยาลัยบรมราชิณี" ซึ่งโดยปกติผู้ที่จบจากสถาบันนั้น ๆ จะไม่เรียกชื่อสถานที่ศึกษาของตัวเองผิด เนื่องจากความจริงแล้วสถาบันแห่งนี้มีชื่อว่า "วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี" ทำให้ตนรู้สึกเอ๊ะใจว่าทำไมถึงเรียกผิด อีกทั้งยังบอกอีกว่าเรียนจบรุ่นที่ 7 ก่อนจะลบคอมเมนต์ เปลี่ยนเป็นเรียนจบรุ่นที่ 9 ตนจึงลองสอบถามจากรุ่นพี่พยาบาลที่เรียนจบในรุ่นที่ 9 ว่าเคยเห็นหรือไม่ จึงทราบข้อเท็จจริงว่า ไม่ใช่เพื่อนที่เรียนพยาบาลรุ่นเดียวกัน อีกทั้งพยาบาลที่จบรุ่นที่ 9 อายุ จะประมาณ 40 ปี ขณะที่น.ส.การ์ตูน มีอายุเพียง 24 ปีเท่านั้น

ต่อมาไม่นานตนก็ได้เห็น น.ส.การ์ตูน โพสต์ภาพพรีเวดดิ้ง สวมชุดพยาบาลกับนายตำรวจคนหนึ่ง โดยมีการส่งรูปภาพไปลงในเพจแฟนตำรวจ ซึ่งการแต่งกายอยู่ในชุดพยาบาล ส่วมใส่เครื่องแบบสังกัดไม่ถูกต้อง ตนจึงสอบถามไปอีกว่า จบพยาบาลจากไหน แต่ได้คำตอบสวนมาว่า "ไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่ต้องมาสาระแน เป็นเรื่องส่วนตัว"

จากนั้นเมื่อสอบถามไปยังเพจแฟนตำรวจของไทย ว่าน.ส.การ์ตูน เป็นพยาบาลมาจากที่ไหน แต่ก็ไม่มีใครสามารถตอบได้ รู้เพียงว่า น.ส.การ์ตูน เป็นคนส่งภาพมาให้แอดมินเพจลงรูปให้ อีกทั้งตนก็ให้เพื่อนเช็ก ปรากฎว่าไม่มี หลังจากที่ทราบความจริงแล้ว จึงได้ส่งข้อความไปหา น.ส.การ์ตูน เพื่อเตือนว่าควรเลิกพฤติกรรมได้แล้ว แต่ปรากฏว่าโดนด่าสวนกลับมา ตนกับเพื่อนพยาบาลจึงได้ช่วยกันสืบหาข้อมูล ทำให้ทราบว่าน.ส.การ์ตูน มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา และเคยแอบอ้างว่า เป็นพยาบาลไปหลอกผู้ชายมาแล้วหลายราย

"หากใฝ่ฝันอยากจะเป็นวิชาชีพพยาบาล ก็ควรไปสมัครเรียนให้ถูกต้อง ไม่ใช่แต่งชุดวิชชาชีพไปหลอกผู้อื่น ควรยอมรับความจริง และออกมาขอโทษกับสังคมแค่นั้น" น.ส.วิว กล่าว 

นายประหยัด ขันผักแว่น ลุงของน.ส.การ์ตูน บอกว่า หลานสาวจบชั้น ม.3 ก็ไม่รู้ว่าไปเรียนพยาบาลตอนไหน งงเหมือนกันว่าไปเอาชุดมาใส่ได้อย่างไร เพาะหลานเป็นคนที่เก็บตัว และย้ายไปอยู่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ   

ทีมข่าวอมรินทร์ ได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับ นายอ้อม (นามสมมุติ) พี่ชายผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หญิงคนดังกล่าวที่แอบอ้างเป็นพยาบาล อายุ 24 ปี เคยเป็นอดีตแฟนสาวของน้องชายตนได้ประมาณเกือบ 1 ปี ตั้งแต่ช่วงต้นปี 62 ตอนนั้นน้องการ์ตูน ทำงานเป็นสาวเชียร์เบียร์อยู่ที่ร้านแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ไม่ได้เป็นพยาบาล ซึ่งน้องชายของตนก็เป็นทหารอยู่ที่นั้น จึงได้ไปพบและชอบคอกัน

ก่อนทั้งคู่จะเริ่มคบหาดูใจกัน โดยขณะที่คบกันน้องชายไม่ยอมบอกที่บ้านเลยว่าคบหากับน้องการ์ตูน กระทั่งตนมาทราบว่า น้องชายไปกู้เงินสหกรณ์ จำนวน 3 แสนบาท เพื่อมาซื้อรถยนต์ให้กับฝ่ายหญิง 

อีกทั้งยังหลอกให้น้องชายซื้อทองคำ และหลอกเอาเงินไปรวม 1 แสนบาท นอกจากนี้ยังพูดจาหว่านล้อมให้น้องชายไปยืมเงินกับทางญาติ เพื่อมาซื้อของให้อีกด้วย หลังจากทราบเรื่องทางครอบครัวก็พยายามติดต่อหาน้องชาย แต่น้องการ์ตูนก็พยายามที่จะบ่ายเบี่ยงไม่ให้คุยกับน้องชาย จนน้องชายขาดการติดต่อจากครอบครัวไปประมาณ 5-6 เดือน

แต่ในช่วงหลัง น้องชายทนพฤติกรรมของน้องการ์ตูนไม่ไหว เพราะน้องการ์ตูน มักจะขอให้น้องชายไปขอยืมเงินคนอื่นมาเพิ่มอยู่บ่อยครั้ง จนน้องชายไม่กล้าจะไปยิบยืมเงินใคร จึงได้ขอเลิก และกลับมาขอโทษครอบครัว พร้อมเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง หลังจากตนทราบเรื่องทั้งหมด จึงได้พยายามสืบหาประวัติน้องการ์ตูน ก็พบว่าเคยแต่งงานมาแล้ว 1 ครั้ง มีลูก 1 คน แล้วยังเคยหลอกคบคนในเครื่องแบบมาแล้วหลายคน

หลังจากที่เลิกรากับน้องชายไปได้ประมาณ 1-2 เดือน ตนจึงไปเอารถคืนกลับมา ที่บริเวณหอพักย่าน รพ.เปาโล หอพักของเพื่อนน้องการ์ตูน แต่น้องการ์ตูน ก็ยังจะขอเงินค่าผ่อนรถ 2 เดือนแรกจากตนอีก ทั้ง ๆ ที่รถดังกล่าวเป็นเงินของน้องชาย ตนจึงให้เงินค่าผ่อนคืนแค่ 1 เดือน ก่อนแยกย้ายเพื่อจบปัญหา

กระทั่งมาทราบว่า น้องการ์ตูน มีการไปหลอกเป็นพยาบาลแต่งงานกับชายในชุดเครื่องแบบ ตนเลยกังวลว่า ผู้ชายรายต่อ ๆ ไปที่ถูกหลอกต่อจากน้องชาย จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงอยากออกมาเตือน และอยากฝากถึงชายหลาย ๆ คนที่จะตกเป็นเหยื่อให้ควรระวัง เพราะน้องการ์ตูน เป็นบุคคลที่อันตราย ใช้ความรักเป็นเครื่องมือหลอกลวงคน

หลังจากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปบ้านของอดีตแฟนเก่าของ น.ส.การ์ตูน ที่เคยพักอาศัยอยู่ด้วยกันใน อ.ธัญบุรี จ.สระบุรี เมื่อไปถึงทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.แก้ม (นามสมมติ) น้องสาว อดีตแฟนเก่า เปิดเผยว่า พี่ชายของตนทำอาชีพรับราชการทหาร ได้พบกับฝ่ายหญิงที่เป็นสาวเชียร์เบียร์ อยู่ร้านใกล้บ้าน ก่อนจะถูกคอกัน พี่ชายจึงได้พาเข้ามาอยู่ด้วยกันที่บ้าน เมื่อปี 62 

แต่อยู่ด้วยกันได้ประมาณ 5-6 เดือน ก็ต้องเลิกรากันไป เนื่องจากทนพฤติกรรมของน.ส.การ์ตูน ไม่ไหว เพราะเป็นคนโมโหร้าย พูดจาเสียงดัง พูดจากับคนในครอบครัวไม่ดี อีกทั้งยังหลอกให้พี่ชายซื้อโทรศัพท์มือถือ iPhon7 ก่อนจะชิ่งหนีไปกลางดึก โดยไม่รู้ใครมารับออกไป ปล่อยให้ครอบครัวของตนรับผิดชอบค่าผ่อนโทรศัพท์

กระทั้งตนเองมาทราบข่าวว่า น.ส.การ์ตูน ไปแอบอ้างเป็นพยาบาลและหลอกคบกับเหยื่อรายอื่นเพื่อหวังทรัพย์สิน ซึ่งช่วงที่อยู่ด้วยกันที่บ้านน.ส.ตูน เคยพูดให้ตนฟังว่า ก่อนหน้าที่จะมาคบกับพี่ชายของตน เคยคบกับคนในเครื่องแบบมาแล้วหลายคน และก็ทำอาชีพเป็นสาวเชียร์เบียร์ตามร้านอาหารมานานหลายปี จึงทำให้ยืนยันได้ว่า น.ส.การ์ตูน ไม่ใช่พยาบาลแน่นอน

หลังจากนั้นทีมข่าวอมรินทร์ ได้โทรศัพท์ติดต่อ น.ส.นิภาพร หงษ์อาจ หรือ การ์ตูน สาวแอบอ้างเป็นพยาบาล กล่าวว่า หลังจากเกิดกระแสดังกล่าวขึ้น ขณะนี้ยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ หรือให้ข้อมูลใด ๆ ผ่านสื่อทั้งสิ้น หากพร้อมจะติดต่อกลับในภายหลัง

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ประสานไปยัง รพ.พระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี ซึ่งทางโรงพยาบาล ได้ยืนยันว่า น.ส.การ์ตูน ไม่ได้เป็นพยาบาลแต่อย่างใด เป็นการเเอบอ้าง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว สร้างความเสื่อมเสียให้แก่โรงพยาบาล เพราะมีการนำตำแหน่งไปแอบอ้าง และหลอกลวงบุคคลอื่น ซี่งทางโรงพยาบาล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น

จากนั้นผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง ทนายวรกร พงศ์ธนากุล ให้สัมภาษณ์ว่า พฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.วิชาชีพการพยาบาลเเละผดุงครรภ์ มาตรา 27 ระบุว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพ กระทำการพยาบาลหรือผดุงครรภ์ หรือเเสดงด้วยวิธีใด ๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนมีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนเเละรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ" มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ รพ.พระนั่งเกล้า เป็นโรงพยาบาลของรัฐ ก็จะเข้าข่ายความผิดเเต่งกายเลียนเเบบ อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นความผิดทางอาญา คล้ายกับคดีของครูวา สาวประเภทสองที่แต่งกายเลียนเเบบข้าราชการครู ซึ่งอัตราโทษนั้น ศาลจะเป็นผู้พิจารณาปรับ

เเต่ถ้าหากเเต่งกายเเล้วไปหลอกบุคคลอื่นให้ได้ทรัพย์มา จะเป็นคดีอาญา มีความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 ระบุโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งทั้ง รพ.พระนั่งเกล้า หรือสภาการพยาบาล ก็สามารถดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดได้ เพราะพฤติกรรมสร้างความเสียหายเเก่วิชาชีพ