สามีห่วงเมียตั้งครรภ์ ท้องเสียไม่หยุดเจอต้มยำร้านดังมีแมลงสาบ เจ้าของขอโทษ ชดใช้ไม่คิดเงิน (คลิป)

กรณีเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Travel” ได้แชร์เรื่องราวของผู้บริโภคสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ไปกินอาหารร้านดังย่านพรานนก แต่กลับเจอแมลงสาบในต้มยำขณะที่กำลังจะตักเข้าปาก

โดยขณะนี้ทั้งคู่มีอาการท้องเสีย ที่สำคัญฝ่ายหญิงกำลังตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน ซึ่งเหตุการณ์นี้ ทางร้านไม่ยอมให้คุยกับผู้จัดการ ให้เพียงพนักงานเสิร์ฟมาขอโทษ และยังต้องจ่ายค่าอาหาร 500 กว่าบาท เต็มจำนวน โดยไม่มีส่วนลดใด ๆ

ล่าสุดวันที่ 7 มิ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เจอกับผู้เสียหายทั้ง 2 คน ได้แก่ นายชัย อายุ 25 ปี ผู้ที่เกือบจะกินแมลงสาบเข้าไป กับน.ส.ภรณ์ อายุ 21 ปี ภรรยา

นายชัย เปิดเผยว่า ตนพาภรรยาไปกินข้าวที่ร้านอาหารในช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. และได้สั่งปลากะพงนึ่งมะนาว, ปลากะพงทอดน้ำปลา, ต้มยำกุ้งน้ำข้นรวมมิตร และข้าวเปล่า 2 จาน รวมราคา 515 บาท ไม่คิดค่าต้มยำกุ้ง โดยตนและภรรยากินอาหารกันจนถึงเวลา ประมาณ 20.30 น. ซึ่งตนกินต้มยำจนจะหมดหม้ออยู่แล้ว แต่กลับเจอสิ่งแปลกปลอมมีหนวด ซึ่งตอนแรกตนคิดว่าเป็นพริก แต่ปรากฎว่าเป็นแมลงสาบ ตนถึงกับอาเจียนออกมาทันที ตนรู้สึกโกธรและเสียความรู้สึกมาก

สำหรับการชดเชยที่ตนได้รับจากทางร้าน คือ การไม่คิดเงินค่าต้มยำกุ้งน้ำข้นรวมมิตร คิดค่าอาหารอื่น ๆ รวมราคาทั้งหมด 515 บาท และทำต้มยำใส่ถุงให้ใหม่ ซึ่งขณะนี้ตนก็ยังไม่ได้กิน และหากมาร้านในคราวหน้า ทางร้านก็จะดูแลเป็นพิเศษ ขณะนี้ตนและภรรยาท้องเสีย ตนรู้สึกเป็นห่วงลูกในครรภ์ จากนี้อาจจะมีการคุยกับทางร้านอีกครั้งว่าจะชดเชยค่ารักษาพยาบาลอย่างไรได้บ้าง อยากให้ทางร้านและทุกคนเข้าใจว่า คงไม่มีใครรับได้หากเจอแมลงสาบในอาหาร

น.ส.ภรณ์ กล่าวว่า ตนชอบไปกินข้าวตามร้านอาหารที่คนรีวิวว่าดี เพราะถือเป็นการการันตีจากลูกค้ามาแล้วว่าร้านอาหารนั้นมีคุณภาพ นอกจากนี้ตนกำลังตั้งครรภ์ 4 เดือน ก็อยากจะให้ลูกกินได้กินอาหารดี ๆ มีคุณภาพและสะอาด แต่เมื่อเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ก็เสียความรู้สึกและตกใจเป็นอย่างมาก จึงได้บอกพนักงานให้เรียกผู้จัดการร้าน แต่พนักงานกลับบอกว่าผู้จัดการไม่อยู่ คุยกับพนักงานได้เลย

โดยขณะนี้ตนมีอาการท้องเสียและปวดท้องเป็นบางช่วง ทำให้เป็นห่วงลูกในครรภ์ เพราะเป็นลูกคนแรก ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาแก้อาเจียน ยาแก้ท้องเสีย และยาแก้ปวดท้อง โดยใช้สิทธิ์ประกันสังคม แพทย์ได้ให้คำแนะนำว่าหากอาการท้องเสียหนักขึ้น หรือหากมีเลือดปนกับอุจจาระ ให้รีบกลับมาพบแพทย์ในทันที

ทั้งนี้ตนไม่ได้อยากฟ้องร้อง หรือเอาผิดร้านอาหาร ตนแค่อยากจะเตือนร้านอาหารให้ระวังเรื่องความสะอาด หากวันหน้าเจอกับลูกค้าที่ไม่ยอมต่อเหตุการณ์แบบนี้ ร้านจะเดือดร้อน และตนอยากจะให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้บริโภคอีกหลาย ๆ คนว่า ร้านที่รีวิวว่าดี ก็อาจจะไม่ได้ดีจริง ขอให้ระวัง

นายตระกูล จ๋วนเจนกิจ หรือ หนุ่ย อายุ 49 ปี เจ้าของร้าน ให้สัมภาษณ์ว่า ร้านเพิ่งจะกลับมาเปิดได้ในวันที่ 9 พ.ค.63 ที่ผ่านมา หลังจากถูกสั่งปิดไปในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตนต้องขอโทษลูกค้าด้วยที่เกิดเหตุดังกล่าว ตนขอชี้แจงว่าร้านของตนให้ความสำคัญกับความสะอาดมาเป็นอันดับแรก ในครัวพ่อครัวแม่ครัวจะต้องใส่หน้ากากอนามัย ใส่ถุงมือทุกคน นอกจากนี้ภายในครัวยังมีที่ดักแมลง และต้องทำความสะอาดทุกวันช่วงก่อนเปิดร้านและหลังร้านปิด

ตนคิดว่าเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์สุดวิสัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ตนมั่นใจในกระบวนการการทำอาหารของร้าน แต่เนื่องจากเมื่อวานนี้ในช่วงที่ลูกค้ากำลังกินอาหารนั้น ฝนตกลงมาอย่างหนัก อาจจะทำให้มีแมลงไม่พึงประสงค์หนีฝนออกมา ตนจึงคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่แมลงจะหล่นลงไปในหม้อต้มยำของลูกค้า ในช่วงที่กำลังเสิร์ฟอาหาร

อย่างไรก็ตาม ตนต้องกราบขออภัยที่เมื่อวานนี้ไม่มีผู้จัดการร้านออกมาต้อนรับลูกค้าในเวลาที่เกิดปัญหา แต่พนักงานคนเมื่อวานนี้ที่ออกมาแก้ปัญหาให้ลูกค้า เปรียบเสมือนรองผู้จัดการ ปกติแล้วตามมารยาท ทางร้านก็คงจะชดเชยลูกค้าด้วยการไม่คิดเงินอาหารทั้งมื้อ แต่ตนอยากจะให้ลูกค้าและผู้ที่กำลังดูข่าวเห็นใจร้านอาหารด้วย ร้านของตนจากที่รองรับลูกค้าได้ 80 โต๊ะ ขณะนี้มีลูกค้าเพียง 2-3 โต๊ะ/วันเท่านั้น ซึ่งรายได้ทั้งหมดตนก็ยกให้กับพนักงานทั้ง 7 คนของร้าน ทำให้พนักงานคนเมื่อวานนี้ ตัดสินใจชดเชยลูกค้าด้วยการไม่คิดค่าต้มยำกุ้งและทำต้มยำกุ้งให้ใหม่ จากนี้ตนจะโทรศัพท์ไปหาลูกค้าผู้เสียหายเพื่อตกลงเจรจา