หลังจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 พ.ย. เวลา 05.30 น. ที่วัดกลางคลองสี่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นายโชคชัย อุชชิน หรือ "ไอซ์" อายุ 27 ปี บุตรชายของ "โจ บอยสเก๊าท์" ได้เดินทางมาบวชเณรเพื่ออุทิศเป็นกุศลให้กับพ่อเป็นครั้งสุดท้าย มีนางนันทิยา อุชชิน หรือ "น้ำ" มารดาเดินทางมาเคียงข้าง มีพระครูสุนทรธัญรักษ์ เจ้าอาวาสวัดกลางคลองสี่ เป็นผู้บวชเณรให้
ขณะที่ช่วงบ่าย บรรยากาศงานฌาปนกิจ "โจ บอยสเก๊าท์" เป็นไปด้วยความโศกเศร้าท่ามกลางเหล่าคนวงการบันเทิงมาร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก โดยมี "น้องไอซ์" บวชเณรเพื่ออุทิศเป็นกุศลให้กับพ่อเป็นครั้งสุดท้าย
ส่วน นายวินรวีร์ ใหญ่เสมอ หรือ "ต๊ะ บอยสเก๊าท์" และนายธนพงศ์ คล้ายพงศ์พันธ์ หรือ "ดิ๊บ บอยสเก๊าท์" ได้กล่าวคำไว้อาลัยทั้งน้ำตา พร้อมกับได้ร่วมกันร้องเพลง "อย่ามาห้าม" เพื่อร่วมกันส่ง "โจ บอยสเก๊าท์" เป็นครั้งสุดท้าย
หลังจากนั้น “ดิ๊บ บอยสเก๊าท์” บอกว่า พวกตนขอขอบคุณทุกคนที่รัก “โจ บอยสเก๊าท์” สุดหัวใจ ถึงแม้บางคนจะไม่ได้มาร่วมงาน ตนก็เข้าใจว่าทุกคนมีภารกิจ แต่สิ่งที่ได้เห็นคือการแสดงความมีน้ำใจ อย่าง คุณปนัดดา วงศ์ผู้ดี หรือ “บุ๋ม” ที่ได้ถวายน้ำ 1,000 ลิตร เป็นบุญกุศลให้กับ “โจ บอยสเก๊าท์” ตนประทับใจเป็นอย่างมาก
ส่วน “ต๊ะ บอยสเก๊าท์” บอกว่า ช่วงนี้ร้องไห้ทุกวัน เนื่องจากยังทำใจไม่ได้ และภูมิใจในตัว “โจ บอยสเก๊าท์” และได้ร้องเพลงสุดท้ายด้วยกัน “รู้สึกภูมิใจที่ได้อยู่เคียงข้างจนวิญญาณเขาหลุด รักเขามาก”
ส่วนอัฐิของ "โจ บอยสเก๊าท์" ตนได้ขอทางครอบครัวเพื่อขอเก็บไว้แล้ว ซึ่งทางครอบครัวจะไม่นำอัฐิไปลอยอังคาร และจะนำอัฐิไปเก็บไว้ที่บ้านเกิดที่ จ.สุพรรณบุรี
สุดท้ายนี้ “ต๊ะ บอยสเก๊าท์” ขออวยพรให้ “โจ บอยสเก๊าท์” ไปสู่สุคติ แต่ถ้าหากวิญญาณล่องลอยไม่มีที่ไปให้มาอยู่กับตน และตนอยากเจอเพื่อนเป็นอย่างมาก เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 พ.ย.) ตนได้จุดธูปบอกเจ้าที่ให้เพื่อนสามารถเข้าบ้านได้
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ นายสายฟ้า เศรษฐบุตร อดีตนักแสดงชื่อดัง หนึ่งในเพื่อนสนิทของ "โจ บอยสเก๊าท์" บอกว่า ตนเคยใช้ชีวิตกับ “โจ บอยสเก๊าท์” ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามานานกว่า 3 ปี และตนเคยเห็นเพื่อนวูบแบบเดียวกันกับที่วูบบนเวทีมาก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง
นายสายฟ้า บอกว่า ช่วงที่ตนไปเรียนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นจังหวะเดียวกับที่ “โจ บอยสเก๊าท์” พักวง จึงได้มีโอกาสเที่ยวที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน ตนก็จะเห็น เพื่อนวูบ จึงบอกให้ไปหาหมอจะดีกว่า ช่วงนั้นตนไม่ได้มีใครคิดอะไรมาก เพราะคิดว่าอาการวูบอาจจะเกิดจากการนอนน้อย หรือไม่ได้ทานข้าว เนื่องจาก “โจ บอยสเก๊าท์” เรียนและทำงานไปพร้อมกัน
นายสายฟ้า บอกว่า เหตุการณ์ที่ “โจ บอยสเก๊าท์” วูบและลงไปกับพื้น เคยเกิดขึ้นประมาณ 2-3 ครั้ง และตนก็จะนำน้ำและแอมโมเนียมาให้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น ตอนที่ตนเห็นยอมรับว่าตกใจ แต่ไม่แปลกใจที่เห็น “โจ บอยสเก๊าท์” เสียชีวิต เนื่องจาก ตนคิดว่าคงเป็นโรคประจำตัว แต่ตนไม่แน่ใจว่าเพื่อนเคยไปหาหมอหรือไม่ เพราะบางทีพวกตนไม่ได้คุยกัน
นอกจากนี้ นายสายฟ้า บอกว่า เพื่อนสนิทของโจ บอยสเก๊าท์อีกคน เคยเห็นวินาทีที่ “โจ บอยสเก๊าท์” ไปนั่งภายในห้องน้ำ เพื่อนจึงต้องผลักประตูเข้าไป พร้อมกับช่วยกันพาออกมา แต่ตนไม่ทราบว่าได้ช่วยเหลือ “โจ บอยสเก๊าท์ ด้วยวิธีไหน เนื่องจากตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่คาดว่าอาจจะทุบเพื่อให้สะดุ้งตื่นจากภวังค์
สุดท้ายนี้ นายสายฟ้า อยากบอกความในใจกับ “โจ บอยสเก๊าท์” ว่า “โจเป็นคนมีน้ำใจ ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตนก็เห็นว่าเขาทำงานเยอะ แล้วชอบซื้อของที่ตนชอบมาให้แต่ไม่คิดว่า "โจ บอยสเก๊าท์" อายุจะสั้น แต่อีกแง่หนึ่งตนก็คิดว่าวิธีที่เขาจากไปเป็นวิธีที่สบายที่สุด”