สาวแฉ “แม่ปุ๊ก” วางยาลูก พิรุธรูปหน้าศพ “อมยิ้ม” ไม่รู้ชื่อ-วันเกิด เปิดแชตบอก “อิ่มบุญ” ก็ไม่ใช่ลูก (คลิป)

23 พ.ค. 63

จากกรณี "เพจ คลิปวงจรเปิด" ได้ออกมาเผยถึงปริศนาของ แม่ปุ๊ก คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นแม่ของน้องอมยิ้ม และน้องอิ่มบุญ โดยวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา แม่ปุ๊กถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ จนนำมาสู่พิรุธถึงการเสียชีวิตของน้องอมยิ้ม และนำไปสู่การสร้างสมมุติฐานว่า แม่ปุ๊กวางยาลูกเพื่อฮุบเงินบริจาคหลายสิบล้านบาท นอกจากนี้ ตำรวจกำลังสืบสวนสอบสวนสารเคมีที่พบในร่างของน้องอมยิ้ม ว่าเป็นส่วนประกอบที่พบในน้ำยาล้างห้องน้ำหรือไม่ ซึ่งอาจถูกหยดให้เด็กกินทุกวันจนป่วย 

522547

แม่ปุ๊ก ถูกแจ้งข้อหาตามหมายจับของศาลอาญา ใน 3 ข้อหาฆาตกรรม และคดีฉ้อโกงอีก 2 คดี คือ รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น ฉ้อโกงประชาชน

ขณะที่ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ได้เข้ามาดูแลกรณีการรักษาตัวของน้องอิ่มบุญ ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ หลังแม่ปุ๊กอ้างว่าน้องอิ่มบุญ ป่วยเป็นโรคเดียวกับน้องอมยิ้ม  

911489

นอกจากนี้ แม่ปุ๊ก ยังสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง โดยในงานศพน้องอมยิ้มได้กล่าวคำอำลาถึงลูกตัวเองว่า "ตั้งแต่ลูกไม่สบาย แม่ก็ต้องทำงานหาเงิน ขายของเพื่อที่จะสู้ไปกับลูกให้ลูกหาย"

257508

"สุดท้ายแม่ต้องขอโทษลูกด้วย ที่ไม่สามารถรักษาตัวลูกได้"

715876

"ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เรากลับมาเป็นแม่ลูกกันอีก" 

445972

วันที่ 23 พ.ค.63 นายสุข พ่อของแม่ปุ๊ก บอกว่า ตอนนี้มีหลายกระแสบอกว่าตนรู้เห็นเป็นใจกับลูกสาว ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะตนไม่รู้เรื่องอะไรเลย ส่วนเรื่องเงินจำนวน 20 ล้านบาทนั้นตนไม่ทราบเรื่องและไม่เคยเห็นเงินจำนวนนั้น บ้านที่อาศัยก็ซื้อด้วยทำพักน้ำแรงเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว หวังว่าจะให้เป็นมรดกสู่ลูก ประเด็นตอนนี้ตนไม่มีเงิน แม้แต่เงินจะสู้คดีก็ไม่มีแต่ตนรู้ว่าเปิดรับบริจาคจริง โดยยอดเงินของน้องอมยิ้ม ได้ประมาณ 8 หมื่นกว่าบาท ส่วนน้องอิ่มบุญได้ไม่ถึง 2 หมื่นบาท โดยหลังจากนี้อยากปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจที่จะดำเนินคดี 

809076

ด้าน น.ส.เบญจวรรณ เรือนทอง อายุ 37 ปี ผู้ที่เคยถูกแม่ปุ๊ก แจ้งความหมิ่นประมาท บอกว่า ตนเองรู้จักกับแม่ปุ๊ก ผ่านทางโลกออนไลน์ ทางเพจเกี่ยวกับเรื่องเลี้ยงลูกในเฟซบุ๊ก ที่ลงเรื่องราวว่าลูกแม่ปุ๊ก ป่วยเป็นโรคประหลาด และติดตามเรื่องของแม่ปุ๊ก มาโดยตลอด และช่วยบริจาคเงินช่วยเหลือมาโดยตลอด ครั้งละ 300-500 บาท รวมทั้งช่วยซื้อของที่แม่ปุ๊กโพสต์ขาย

cg_2

จนกระทั่งทราบข่าวว่า น้องอมยิ้ม เสียชีวิตเมื่อช่วงเดือน ส.ค. ปี 62 จึงไปร่วมงานศพที่วัดแห่งหนึ่ง ย่านดอนเมือง กรุงเทพฯ ระหว่างที่ร่วมงาน ก็สังเกตุว่าภาพหน้าศพของน้องอมยิ้ม ไม่มีชื่อจริง วันเกือนปีเกิด รวมทั้งวันชาตะ-มรณะ ไม่ได้ระบุไว้ในรูปถ่ายหน้าศพจึงแปลกใจว่าทำไมแม่ถึงไม่รู้ชื่อจริง นามสกุลลูก แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะถามเพราะเกรงใจเห็นว่าเป็นงานศพลูกที่เพิ่งจะเสียชีวิต

974959

หลังจากนั้นเป็นแม่ปุ๊ก โพสต์ว่าลูกที่ชื่อ น้องอิ่มบุญ ป่วยหนัก เป็นโรคเดียวกับน้องอมยิ้ม ที่เพิ่งเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ บอกว่าโอกาสเป็นโรคนี้ยากมากเหมือนหนึ่งในล้าน และแม่ปุ๊กได้โพสต์ขายของในเฟซบุ๊กหวังให้คนที่สงสารเข้ามาช่วยซื้อของก็รู้สึกแปลกใจ จนกระทั่งมารู้เรื่องราวที่แม่ปุ๊ก ไม่ยอมส่งของให้ลูกค้า หลังมีผู้ใจบุญช่วยสั่งซื้อของที่แม่ปุ๊ก เอามาโพสต์ขายทางอินเตอร์เน็ต

553844

ตนเองจึงมาโพสต์เรื่องราวนี้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่ามีแม่วางยาลูกแต่ไม่ได้ระบุชื่อ หลังจากนั้นมารู้ว่า แม่ปุ๊ก แจ้งความตนเองข้อหาหมิ่นประมาทที่ สน.ดอนเมือง โดยแม่ปุ๊กนำใบแจ้งความมาโพสต์ที่หน้าเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา และได้ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนไปแล้ว

833372

อย่างไรก็ตาม ได้ข้อมูลมาว่าน้องอมยิ้ม เป็นลูกบุญธรรม แม่ตัวจริงของน้อง ชื่อ “นางเอม” เป็นเจ้าของบัญชีที่ แม่ปุ๊ก ใช้ให้คนอื่นโอนเงินมาให้ โดย แม่เอม มีลูก 3 คน โดยทั้ง 3 คน แม่เอมให้คนอื่นเลี้ยงหมด โดยน้องอมยิ้ม ให้ทางแม่ปุ๊กไปเลี้ยง ส่วนคนที่ 2 ให้คนที่ จ.ชลบุรีรับไปเลี้ยงดู คนที่ 3 ยายเป็นคนเลี้ยงดู ส่้วนน้องอิ่มบุญ ไม่แน่ใจจะเป็นลูกจริง ๆ หรือไม่ เพราะยังไม่มีข้อมูลฝากครรภ์และคลอดที่ไหน

528922

ขณะที่ เพจตามล่าV.2 เผยแชตระหว่างแม่แอมกับแม่ปุ๊ก โดยในแชต แม่ปุ๊กได้ส่งภาพงานศพน้องอมยิ้มแล้วบอกว่า "เตรียมงานหมดแล้ว ทุกอย่างพร้อม ไม่มีอะไรติดค้าง" โดยที่ฝั่งแม่เอม ถามกลับว่า "น้องอิ่มบุญเป็นใคร งานราบรื่นใช่ไหม" 

313432

โดยแม่ปุ๊ก ตอบกลับว่า "หลานชายพี่เอง ลูกน้องชายพี่ เลี้ยงคู่มากับน้องอมยิ้ม เลี้ยงเหมือนอมยิ้มนี่ล่ะ เอาแต่ลูกคนอื่นมาเลี้ยง"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส