ลุงเผยฟาดแก้วใส่หัว จนท. ฉุนปรี่ดันอก พูดเบ่งให้ใส่แมสก์ อีกฝ่ายทำตามหน้าที่ รับเคยเขม่นกัน (คลิป)

21 พ.ค. 63

จากกรณีนายเฉลย อายุ 59 ปี ประกอบอาชีพขายล็อตเตอรี่ ภายในตลาดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เดิมบางนางบวช ก่อเหตุใช้แก้วกาแฟฟาดหัว นายสาโรช ธัญญเจริญ อายุ 41 ปี ผู้ช่วยเจ้าพนักงานงานป้องกันเทศบาลเขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี หลังไม่พอใจที่โดนตักเตือนว่าไม่ใส่หน้ากากอนามัย นั้น

293369

ล่าสุด วันที่ 21 พ.ค.63 นายสาโรช ผู้เสียหาย บอกว่า ตนมีหน้าที่ในการตรวจตราตามตลาดต่าง ๆ เพื่อควบคุมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส-19 ซึ่งเวลาที่ลงตรวจตลาดจะบอกให้พ่อค้าแม่ค้าช่วยกันสวมหน้ากากอนามัย นายอำเภอและสาธารณสุข มีความเห็นชอบว่าในวันอังคารที่ 19 พ.ค.63 ทางนายอำเภอ ปลัดอำเภอ ตำรวจ ทหาร สาธารณะสุขจะลงพื้นที่เพื่อตรวจอีกครั้ง จนกระทั้งช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมาพร้อมกันที่ตลาด เพื่อเดินตรวจตามร้านต่าง ๆ ขณะนั้นก็พบเข้ากับผู้ก่อเหตุที่เดินมาซื้อของ แต่ไม่สวมหน้ากากอนามัย จึงชี้ไปที่ผู้ก่อเหตุและกลับมาชี้หน้ากากอนามัยที่ตัวเองใส่อยู่ เป็นเชิงสัญลักษณ์ว่าทำไมไม่ใส่หน้ากากอนามัย แต่ผู้ก่อเหตุย้อนกลับมาถามว่า "มึงใหญ่โตนักหรอ" ก่อนจะกวักมือเรียกให้ไปเจอกันข้างนอก แต่ตนไม่สนใจเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่อง

cg_74

ต่อมาวันรุ่งขึ้น วันที่ 20 พ.ค.63 ตนก็ทำหน้าที่ตรวจตลาดตอนเช้าที่ตลาดท่าช้าง ขณะเดินตรวจก็ไปเจอเข้ากับคู่กรณีที่กำลังนั่งกินกาแฟอยู่ ซึ่งทางคู่กรณีก็มองมาเจอตนเช่นกันโดยวันนี้คู่กรณีสวมหน้ากากอนามัยปกติ จึงจะเดินเข้าไปเพื่ออธิบายว่าทำไมต้องเข้มงวดให้ทุกคนใส่หน้ากากอนามัย แต่คู่กรณีรีบลุกขึ้นมาพร้อมแก้วกาแฟ และเอามือมาค้ำที่หน้าอก แต่คู่กรณีพูดว่า "มึงใหญ่นักหรอจะเอาตำรวจ ทหารมาจับกู" พอสิ้นคำพูดคู่กรณีก็คว้าแก้วกาแฟฟาดมาที่หัวจนล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะมีเพื่อน ๆ และพลเมืองดีมาช่วยพาไปโรงพยาบาล แผลลึกเกือบถึงกระโหล แพทย์ทำการเย็บ 2 เข็ม หลังจากนั้นก็มาให้ปากคำที่ สภ.เดิมบางนางบวช และได้เจอคู่กรณีอีกครั้ง ซึ่งคู่กรณีก็ยังโวยวายไม่ได้รู้สึกผิดอะไร หาว่าตนบ้าอำนาจ 

418194

ด้าน นายเฉลย นุ่มผล ผู้ก่อเหตุ บอกว่า วันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมาไปซื้อมังคุดที่ตลาด โดยวันนั้นยอมรับว่าลืมใส่หน้ากากอนามัยไปจริง ๆ ก่อนจะเจอกับคู่กรณีที่เดินเข้ามาหาแล้วถามว่าเชิงข่มขู่ทำไมไม่สวมหน้ากากอนามัย แต่คู่กรณีพูดว่า "เดียวติดคุกเลยน่ะ เอาเข้าคุกไปเลย ตำรวจทหารอยู่โน้น" ซึ่งชี้ไปที่ตำรวจและทหารที่มาตรวจพื้นที่ จากนั้นพูดกลับไปว่า "โอโฮมึงนี้ใหญ่จัง นักเลงจังเลย กร่างหน้าดู" ส่วนคู่กรณีพูดต่อว่า "เอาเจ้าหน้าที่มาจับเลย" พอได้ยินคำนี้จึงเดินหนีไปขึ้นรถกลับบ้าน

กระทั่งวันรุ่งขึ้น ช่วงเช้าขณะนั่งกินกาแฟ คู่กรณีเดินมาพูดคุยกับเพื่อนและหันมามองและชี้มาทางตน จึงตะโกนไปว่า "เฮ้ยเองพูดกร่างจัด เรื่องมันไม่น่าถึงกับติดคุก พูดแบบนี้ได้อย่างไรใช้อำนาจเกินไปน่ะ" ส่วนคู่กรณีวิ่งปรี่ข้ามถนนมาหาก่อนจะใช้อกมาชนพร้อมพูดจาหาเรื่อง จนครั้งที่ 3 ก็เดินมาชนอกอีกแล้วพูดว่า "มึงจะเอาไง" ทันใดนั้นฟิวขาดพร้อมกับคว้าแก้วฟาดไปที่หัวคู่กรณีทันที ทั้งนี้รู้ว่าผิดที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย แต่ควรเตือนกันดี ๆ ไม่ใช่ใช้น้ำเสียงแบบนี้

139381

อย่างไรก็ตาม ถูกเจ้าหน้าที่แจ้ง 3 ข้อกล่าวหา 1.ทำร้ายร่างกาย 2.ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ 3.ฝ่าฝืนคำสั่งคณะการการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดสุพรรณบุรี โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าพรุ่งนี้จะส่งฟ้องที่ศาลและต้องเตรียมเงินไปเสียค่าปรับ 1 แสนบาท ซึ่งตนยอมติดคุกดีกว่าต้องเสียเงิน 1 แสนบาท เพื่อมาจ่ายเป็นค่าปรับเด็ดขาด

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส