แม่ร้องลูกชาย 13 ถูกสาว 16 ลวงข่มขืน พบสภาพอิดโรยบอบช้ำ เผยรู้จักทางโซเชียล ลั่นเข็ดแล้ว (คลิป)

11 พ.ค. 63

วันที่ 11 พ.ค. 63 ร.ต.อ.จรัญ มาศเมฆ รองสว.สอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากนางน้อย (นามสมติ) อายุ 40 ปี ว่า เมื่อค่ำของวันที่ 10 พ.ค. 63 มีนางสาววา (นามสมมติ ) อายุ 16 ปี มาขอนอนอาศัยที่บ้านของตน โดยจะนอนกับลูกชายตน ชื่อ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ตนจึงว่ากล่าวตักเตือนไปว่าเป็นผู้หญิงมานอนบ้านผู้ชายไม่ดี ไม่เหมาะสม และไม่ให้นอน

155100

หลังจากนั้น นางสาววาได้ชวนลูกชายของตนขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ ที่นางสาววายืมเพื่อนบ้านมา โดยอ้างว่าเดี๋ยวจะมาส่งหลัง จากนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์พาลูกชายของตนออกไปอย่างรวดเร็ว ญาติ ๆ จึงขับรถมอเตอร์ไซค์ออกตามหา แต่ใกล้เวลาเคอร์ฟิว และรถสภาพไม่ดี จึงกลับบ้านมาบ้านก่อน

458231

ต่อมา มีเพื่อนบ้านอีกรายมาแจ้งตนว่ารถที่นางสาววาขับพาไป เป็นรถของเพื่อนบ้าน เจ้าของรถจึงได้ไปแจ้งความรถหายที่สภ.ทุ่งใหญ่

938032

แม่ของ ด.ช.เอ ทราบข่าวจากเพื่อนของลูกว่า ลูกชายนั่งรอแม่อยู่ที่โรงเรียนด้วยอาการอิดโรย แม่จึงเดินทางไปรับ และสอบถามพบว่าตามร่างกาย ลำคอ หน้าอก มีรอยช้ำเป็นจ้ำแดงหลายจุด ลูชกายบอกว่า นางสาววาพาไปนอนที่บ้านเพื่อนของเขา และนางสาววาได้กระทำชำเราจนสำเร็จ โดยที่ไม่ยอม

cg

ทั้งนี้ ลูกชายรู้จักกับนางสาววาประมาณ 1 เดือน โดยนางสาววาทักมาจีบทางเฟซบุ๊ก แต่ไม่คิดว่านางสาววาจะกล้ามาหลอกพาไปกระทำมิดีมิร้ายเช่นนี้ หลังจากนี้ ถ้าหากนางสาววายังมายุ่งกับกับลูกชายตนอีก ตนจะไม่ยอมความ จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

จากนั้น แม่เด็กพาลูกชายไปตรวจเลือด และตรวจหาสารเสพติด ผลปัสสาวะไม่มียาเสพติด ส่วนผลเลือด แม่กังวลเรื่องโรค HIV และโรคโควิด-19 แพทย์ได้เจาะเลือดนำไปตรวจ ต้องรอผลอีก 2-3 วัน

371409

ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านยายของนางสาววา ตั้งอยู่ในสวนยาง ห่างกับบ้านเด็กชาย 13 ปี ประมาณ 3 กม. พบว่าบ้านปิด ไม่มีใครอยู่ บ้านล็อกกุญแจประตู

เพื่อนบ้าน เล่าว่า ยายของนางสาววาไปทำสวนจะกลับช่วงค่ำ ส่วนนางสาววายังไม่เห็นกลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ไม่ทราบไปอยู่ที่ใด ส่วนนิสัยนางสาววา เป็นเด็กมีปัญหา ครอบครัวพ่อแม่แยกทางกัน นางสาววาอาศัยอยู่กับยายตั้งแต่เล็ก นิสัยก็มีบ้างในทางเกเร ตามปะสาวัยรุ่นทั่วไป เพื่อนบ้านเคยว่ากล่าวตักเตือนอยู่เป็นประจำด้วยความหวังดี

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส