ฆ่ากันเอง! พี่ยิงน้องดับ 1 เจ็บ 1 ยัวะด่าลูกเปิดเพลงดัง ผู้ใหญ่บ้านเผยอยู่ติดกันประชันลำโพง (คลิป)

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 13 ม.4 ต.บ้านนา อ.มหาราช จ. พระนครศรีอยุธยา

โดยที่เกิดเหตุหน้าบ้านพบพบรถกระบะ สีขาว ทะเบียน บธ - 1579 อ่างทอง จอดอยู่ ที่ท้ายรถพบศพ นายสัญชัย มธุสะระ อายุ 44 ปี สภาพศพนอนหงาย มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง เข้าที่บริเวณแขนขวา 1 นัด ชายโครงขวา 1 นัด

นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่ลำตัว ทราบชื่อ น.ส.มงคลพร มธุสะระ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้เสียชีวิต ช่วยเหลือนำส่ง รพ.อ่างทอง อาการสาหัส ส่วนคนก่อเหตุ ทราบชื่อนายสัญชัย มธุสะระ หรือ ยา อายุ 48 ปี

ล่าสุดวันที่ 7 พ.ค.63 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่มายังบ้านจุดเกิดเหตุ อ.มหาราช จ. พระนครศรีอยุธยา ซึ่งพบว่าเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นยกสูง ด้านล่างเปิดเป็นพื้นที่โล่ง โดยลักษณะบ้านทั้ง 2 หลังคล้ายกัน มีเพียงรั้วไม้ไผ่กั้นแบ่งแยกเขต ระหว่างบ้านของนายพิมยา คนก่อเหตุ กับบ้านของน.ส.มงคลพร คนเจ็บและนายสัญชัย เสียชีวิต โดยพบว่าบริเวณชั้นล่างของบ้าน ยังคงมีกองเลือด 2 กองใหญ่ตกอยู่ ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุบ้านหลังดังกล่าวยังไม่มีใครเข้าไปอาศัย เพราะปกติจะอาศัยอยู่เพียง 2 คน

ด้านนายแบงค์ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ลูกชายของคนก่อเหตุ ในฐานะคนอยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุ 13.00 น. ตนยืนมีปากเสียงกับ น.ส.มงคลพร และนายสัญชัย เพราะเนื่องจากบ้านหลังดังกล่าว มีการเปิดเครื่องเสียงดัง แล้วหันดอกลำโพงมาบ้านของตน เปิดเพลงท้าทาย เพราะตอนเช้าตนเปิดลำโพงบลูทูธ เป็นลำโพงขนาดเล็ก นั่งฟังเพลงอยู่บ้าน แต่ฝั่งของคนเจ็บและคนตาย ได้มาตักเตือน “เปิดเพลงเสียงดังทำไม” จากนั้นตนก็ปิดเพลงพร้อมเก็บลำโพง ก็ไม่คิดว่าช่วงบ่ายก่อนเกิดเหตุฝั่งของคนเจ็บและคนตาย จะเปิดลำโพงดอกใหญ่ประชด ส่งเสียงดังกระหึ่ม

กระทั่งตนกับคนเจ็บและคนตายยืนมีปากเสียงกันบริเวณรั้ว แต่จังหวะดังกล่าวก็เป็นช่วงที่พ่อของตน ถือปืนโผล่มาด้านหลัง โดยมีปากเสียงอีกเล็กน้อย ก่อนที่จะตัดสินใจลั่นไกปืน ยอมรับว่าตอนนั้นตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าพ่อจะใช้อาวุธปืนยิงอา และเป็นช่วงจังหวะที่ตนไม่สามารถห้ามหรือระงับเหตุได้

ส่วนประเด็นความขัดแย้ง เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างพ่อกับอา ซึ่งตนไม่รู้ว่าประเด็นที่แท้จริงเกิดจากอะไร แต่ทั้ง 2 บ้านไม่สามารถพูดคุยกันลงตัวได้ เจอหน้ากันก็จะทะเลาะกัน และมีปากเสียงกันเป็นประจำ ดังนั้นเหตุผลที่แท้จริง อยากให้ฟังจากปากของพ่อ

ทั้งนี้แม้ว่าพ่อยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ล่าสุดได้ติดต่อมาหาแม่แล้ว ได้บอกว่าวันที่ 8 พ.ค.63 จะเข้ามอบตัว แต่ตนไม่รู้ว่าจะมากี่โมง เพราะยังไม่ได้คุยกับพ่อโดยตรง ซึ่งตนก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะพ่ออาจจะต้องรับผิดตามกฎหมาย ส่วนฝั่งอาก็ต้องเกิดการเจ็บและล้มตาย ตนเองในฐานะลูกชายของคนก่อเหตุ ก็ไม่รู้จะฝากบอกครอบครัวของอาว่าอย่างไร

อย่างไรก็ตามผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ยืนยันกับทีมข่าวว่า บ้าน 2-3 หลังนี้มักจะเปิดเพลงเสียงดัง โดยนายพิทยา จะไม่ยอมฟังใคร แม้จะถูกห้ามปราบแล้วก็ตาม